บาดตา บาดใจ

1321 คำ
ไม่เห็นเฌอรีนกลับมาสักทีก็รู้สึกเป็นห่วงเพราะเธอดื่มหนักมาก มิโน่ก็ด้วยไปเข้าห้องน้ำนานจัง ฉันจึงลุกออกจากที่นั่งพร้อมกับถุงกระดาษใส่ของขวัญไปห้องน้ำซึ่งคาดว่าเพื่อนน่าจะอยู่ที่นั่น ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำหาทุกห้องก็ไม่เจอเฌอรีน ระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำฉันก็เดินสวนทางกับผู้หญิงสองคนกำลังซุบซิบนินทาใครอยู่ “สงสัยอยากเปลี่ยนบรรยากาศ โรงแรมมีไม่ยอมไปถึงได้เล่นเสียวกันที่บันไดหนีไฟแบบนั้นนะ” ฉันกำลังจะเดินหนีไปแล้ว ก็ต้องสะดุดกับประโยคถัดมาของสองสาว “ยัยชุดครีมนั้นเร่าร้อนน่าดู ฮ่า ฮ่า เสียดายที่เห็นหน้าผู้ชายไม่ชัด” ฉันรีบหันขวับไปมองสองคนนั่นทันที “ฉันได้ยินหล่อนครางเรียกชื่อผู้ชายด้วยอะ มิ อะไรสักอย่างแหละ” ฉันถึงกับชาวาบไปทั้งตัว ในใจก็ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย ฉันรีบเดินไปที่บันไดหนีไฟทันที ระหว่างทางที่เดินไปภายในใจก็ว้าวุ่น ใจหนึ่งปลอบตัวเองว่ามันไม่มีอะไร แต่อีกใจก็อยากจะเห็นกับตาเพื่อความชัวร์ พอฉันเดินมาถึงหน้าประตูหนีไฟฉันก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเพื่อนตัวเอง เฌอรีน เสียงของเธอบ่งบอกว่าเธอกำลังสุขสมกับกิจกรรมสุดหรรษาแค่ไหน เสียงชายหญิงควรครางแข่งกันอย่างเมามันส์ ฉันเอื้อมมือที่สั่นเทาพยายามบังคับให้มันหยุดสั่นน้ำตาเริ่มก่อตัวขึ้นมาบดบังสายตา ฉันพยายามกั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมาตอนในนี้เพราะมันจะทำให้เห็นอะไรได้ไม่ชัด มือฉันจับที่ลูกบิดประตูพร้อมออกแรงบิดแล้วผลักมันเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำเอาฉันถึงกลับพูดไม่ออกได้แต่ยืนตัวสั่นเทิ้มรู้สึกชาไปทั้งร่าง แขนขาไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนวิณญาณได้ออกจากร่างไปแล้ว ผู้ชายที่ฉันรักกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน พวกเขากำลังมีความสุขกันสินะ ฉันยืนมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเฌอรีน เสื้อสายเดี่ยวสีครีมของเธอหล่นมากองอยู่ที่เอวคอด ตัวของเธอนั่งอยู่บนตัก คร่อมเอวหนาของผู้ชายคนนั้นไว้อยู่ เธอซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขา “มิโน่...” ฉันเอ่ยชื่อเขาอย่างแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเมื่อเห็นหน้าผู้ชายชัดๆ มิโน่ขยับตัวและกำลังเงยหน้าขึ้นมา ฉันจึงก้าวถอยหลังปิดประตูอย่างรวดเร็ว น้ำตาที่กั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้ไหลออกมาไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ ฉันหันหลังให้บานประตูแล้ววิ่งออกมาอย่างไร้ทิศทาง มารู้ตัวอีกที่ก็ตอนที่เห็นรถจอดเยอะ นี่คงจะเป็นลานจอดรถของผับ ฉันยืนนิ่งตั้งสติอยู่สักพักก่อนยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ และก้าวเท้าอันหนักอึ้งพาตัวเองเดินไปที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกรถแท็กซี่ แต่จังหวะที่ก้าวเดินนั้นก็เผลอชนใครเข้าโดยไม่ตั้งใจ “ขอโทษค่ะ” ฉันก้มหน้าเอ่ยขอโทษโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง “ไลลา” ผู้ชายที่ฉันเดินชนเรียกชื่อฉัน คนรู้จักงั้นเหรอ? ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความสงสัย “พี่เรย์” เขามากับสาวสวยคนหนึ่งซึ่งหล่อนควงแขนพี่เรย์เอาไว้อย่างต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ “ขอตัวค่ะ” ฉันรีบเดินหนีพี่เรย์เพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าฉันร้องไห้ “เดี๋ยวสิไลลา” พี่เรย์วิ่งมาดักหน้าฉันไว้ “จะกลับแล้วใช่ไหม” ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ “เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ฉันกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ ผู้หญิงที่มากับพี่เรย์ก็ประท้วงขึ้นมาซะก่อน “แล้วฉันล่ะ” เธอพูดกับพี่เรย์แล้วหันมาทำตาเขียวใส่ฉัน “กลับเองสิ” เขาตอบเธออย่างไร้เยื่อใย “ไลลากลับเองได้ค่ะ” ฉันขึงตัวไว้เมื่อพี่เรย์ถือวิสาสะยื่นมือหนามาจับมือของฉันแล้วพาไปยังรถของเขา ฉันแอบหันหลังกลับไปมองผู้หญิงที่มากับพี่เรย์ หล่อนยืนเหวี่ยงวีน เตะตีอากาศด้วยความโมโห เห็นแล้วอดนึกเห็นใจเธอไม่ได้ พี่เรย์ใจร้ายชะมัด “เออ...ไลลากลับเองได้ค่ะ” ฉันปฏิเสธเขาอีกครั้งเพราะรู้สึกเห็นใจผู้หญิงที่มากับเขา ผู้หญิงคนนั้นต้องมาโดนพี่เรย์สลัดทิ้งก็เพราะเธอแท้ๆ แต่พี่เรย์กลับไม่สนใจเขาดันหลังให้ฉันเข้าไปนั่งในรถ ฉันจึงขึงตัวไว้ไม่ยอมเข้าไปนั่งง่ายๆ “พี่ไม่ชอบพูดซ้ำนะ” พี่เรย์สั่งเสียงดุ ฉันต้องจำยอมขึ้นรถเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างที่รถแล่นอยู่บนท้องถนนฉันก็เอาแต่จ้องมองไปนอกตัวรถเพื่อดูแสงไฟยามราตรี ไม่ได้ดูเพราะมันสวยหรอกนะ แต่ดูเพราะไม่อยากเปิดโอกาสให้พี่เรย์ได้ตั้งคำถามกับฉันต่างหาก เราต่างเงียบกันมาตลอดทาง ฉันไม่ชวนคุยและเขาก็ไม่ถามอะไรเช่นกันจนถึงหน้าบ้านของฉัน “ขอบคุณค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เรย์ “จะไม่เล่าอะไรให้พี่ฟังหน่อยเหรอ” ฉันหันไปสบตากับพี่เรย์และเห็นแววตาคาดหวังจากเขาแต่ว่า...เราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่จะต้องเล่าทุกอย่างให้ฟังได้ “ไม่มีอะไรนี่ค่ะ” ตอนนี้ฉันอยากจะขึ้นไปห้องนอนของตัวเองให้เร็วที่สุด “แล้วเฌอรีนไปไหน ทำไมไม่กลับมาด้วยกัน” พอพี่เรย์เอ่ยชื่อเพื่อนสาวของฉันขึ้นมาก็ทำให้ต่อมน้ำตาเริ่มทำงานอีกครั้ง “ไม่รู้ค่ะ ขอตัวนะคะ” ฉันไม่รอให้พี่เรย์ตอบกลับรีบลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้านอย่างรีบร้อน ไม่ไหว...กั้นไว้อีกต่อไปไม่ได้ไม่ไหวแล้ว ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาให้ห้องตัวเอง ฉันก็ทิ้งตัวลงกับเตียงนอนแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนรู้สึกแสบตาไปหมด ภาพชายหญิงที่กำลังมีสัมพันธ์กันยังวนเวียนอยู่ในหัว ตามหลอกหลอนฉันจนใจพังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป หลังจากที่ส่งไลลาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับรถกลับคอนโดทันที พอมาถึงลานจอดรถของคอนโดสายตาของผมก็แลไปเห็นถุงกระดาษวางอยู่ที่บนเบาะฝั่งซ้าย ผมรีบหยิบขึ้นมาดู ภายในถุงกระดาษมีกล่องสีดำสองกล่อง ในกล่องมีสร้อยข้อมือสีเงินเมทัลลิก ผมหยิบสร้อยข้อมือเส้นใหญ่ขึ้นมาดูเส้นนี้สลักชื่อไว้ว่า LiLa ส่วนเส้นเล็กสลักไว้ว่า MiNo ผมก็เลยถือวิสาสระใส่สร้อยข้อมือที่เขียนว่า LiLa “พอดีเลย” แล้วผมก็นั่งยิ้มอยู่คนเดียวอย่างไม่มีสาเหตุ ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ แต่พอหันไปมองอีกเส้นก็ทำให้รอยยิ้มพลันหายวับไปทันที “มิโน่ เหรอ” นี่จะใช่สาเหตุที่ทำให้ไลลาร้องให้รึเปล่านะ ใช่แล้วล่ะ ผมเห็นไลลาร้องไห้ ตอนที่อยู่ต่อหน้าผมเธอแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ตัวเองวิ่งร้องไห้ออกมาจากผับแท้ๆ แถมเธอยังเป็นสาเหตุทำให้ผมอดผ่อนคลายในคืนนี้ด้วย พอเจอไลลาผมก็สลัดสาวสวยทิ้งทันทีทั้งที่กำลังจะพาเธอไปต่ออยู่แล้วเชียว “หึ” แค่นึกถึงใบหน้าหวานๆ ของไลลาก็ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว . . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม