ผิดพลาด

2872 คำ
วันนี้เป็นวันเกิดของผม เพื่อนรุ่นพี่ที่นับถือเขาพามาเลี้ยงที่เอสทีผับ วันนี้ไลลาแต่งตัวสวยมากและเซ็กซี่สุดๆ จนผมอดใจไม่ไหวแอบเอาเปรียบเธอด้วยการสำรวจร่างกายไลลาผ่านสายตา ปกติไลลาไม่ค่อยแต่งตัวเซ็กซี่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่เธอจะใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เท่ๆ มากกว่า แต่ไม่ว่าไลลาจะใส่แบบไหนเธอก็สวยที่สุดสำหรับผมอยู่ดี ต่างจากยัยเฌอรีน รายนั้นชอบแต่งตัวเซ็กซี่ล่อเสือล่อตะเข้เหลือเกิน ผมขอตัวแยกออกมาเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกมึนหัว สงสัยจะดื่มหนักไปหน่อย ผมจึงหวักน้ำจากก็อกน้ำที่อ่างล้างหน้าขึ้นมาลูบใบหน้าเบาๆ แล้วผมก็ยืนยิ้มอยู่คนเดียวที่หน้ากระจกเหมือนคนบ้าเพราะนึกถึงใบหน้าของไลลา ของขวัญที่ไลลาเตรียมไว้ให้ผมคืออะไรนะ? ผมรู้...ว่าไลลาไม่กล้าให้ของขวัญผมต่อหน้าคนอื่นๆ เพราะเธอนั้นขี้อายเป็นที่สุด ผมคงต้องพาไลลาไปหาที่สงบๆ ที่มีแค่ผมกับเธอแล้วล่ะ แต่พอเดินออกมาจากห้องน้ำก็ดันเห็นผู้ชายสองคนหิ้วปีกผู้หญิงคนหนึ่งผ่านหน้าผมไปทางบันไดหนีไฟ ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเลยถ้าผู้หญิงที่ไอ้พวกเหี้ยสองตัวนั้นมันหิ้วไปไม่ใช่เพื่อนของผม ผมรีบเดินตามพวกมันไปติดๆ พวกมันพาเฌอรีนเข้าไปที่ประตูบันไดหนีไฟ ผมผลักประตูตามพวกมันไปด้วย ไอ้พวกเหี้ยสองตัวมันกำลังจะขืนใจเฌอรีน ไอ้คนแรกมันนั่งคร่อมตัวเธอไว้ส่วนไอ้คนที่สองมันกำลังพยายามจับขาเฌอรีนให้แยกออกจากกัน “มึงทำเหี้ยไรวะ สัส!” ผมสถบคำหยาบออกมาอย่างเหลืออดพร้อมกระชากตัวไอ้คนที่นั่งคร่อมเฌอรีนออกแล้วปล่อยหมัดใส่หน้ามันหนึ่งทีแล้วผมก็หันไปถีบไอ้คนที่จับขาเฌอรีนจนมันกลิ้งตกบันได ผมหันกลับมากระชากคอไอ้คนที่โดนผมต่อยทีแรก ผมง้างหมัดขึ้นเตรียมจะซัดมันอีกรอบ “ผมขอโทษพี่ ปล่อยผมไปเถอะ” มันรีบยกมือไหว้ผมพะงาบ ๆ แต่ผมไม่สนคำขอของมันหรอกผมปล่อยหมัดหนักๆ ใส่ปากมันทันที ผมเตรียมจะซ้ำอีกรอบ “มิโน่” พอได้ยินเสียงเณอรีนเรียกก็ทำให้ผมชะงักและหันไปมองเพื่อน มันอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีออกไปทันที ส่วนไอ้คนที่ผมถีบตกบันไดไม่เห็นมันอยู่ตรงนั้นแล้ว ผมรีบทรุดตัวนั่งลงเข้าไปดูอาการของเฌอรีน “แกเป็นไงบ้างเฌอรีน” สีหน้าเฌอรีนดูไม่ค่อยดีเลย ทั้งหน้าทั้งตัวของเฌอรีนแดงเทือกเหมือนลูกตำลึงสุก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหล้าหรือเพราะของอย่างอื่น เสื้อสายเดี่ยวหลุดลุ่ยจนเห็นบราปีกนกที่เธอใส่ปกปิดหน้าอกไว้ ผมค่อยๆ พยุงเฌอรีนให้ลุกขึ้นแต่จู่ ๆ เฌอรีนก็เขามากอดผมไว้แน่น “เฌอรีน แกไหวไหม” ผมดันตัวเฌอรีนออกห่างเล็กน้อยเพื่อให้ดูหน้าเธอ “มิโน่ ฉัน ร้อน...” เสียงของเฌอรีนค่อนข้างแหบพล่า “นี่แกโดนมอมยาเหรอ” มือของเฌอรีนอยู่ไม่สุกเริ่มลูบไล้หน้าอกผมเล่นและไต่ไล่ลงมาที่หน้าท้องแล้วก็เลื่อนลงต่ำไปอีก “เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับไปที่โต๊ะ” ผมคลบกรามแน่น เธอเล่นเล้าโล้มผมแบบนี้ใครมันจะไปทนไหววะ ต้องรีบพาเฌอรีนออกไปให้เร็วที่สุดก่อนที่ผมจะไม่มีสติพาเธอออกไป “ไม่ไป อยู่กับฉันก่อนนะมิโน่” สีหน้าของเฌอรีนแสดงออกชัดเจนว่าเธอต้องการอะไร ไม่ได้นะท่องไว้มิโน่ท่องไว้... ผมจับมือเฌอรีนแล้วออกแรงดึงให้เธอเดินตามแต่เธอกลับกระชากตัวผมเข้าหาเธอแทน แรงเยอะจังวะ “ฉันไม่ไหวแล้ว มิโน่...” พูดจบเฌอรีนก็เอื้อมมือมารั้งคอผมลง ปากเล็กประกบจูบผมทันที เธอพยายามดันลิ้นเล็กๆ ของเธอเข้ามาสำรวจในปากของผม มือไม้ก็อยู่ไม่สุก เธอล้วงมือขึ้นจากชายเสื้อด้านล่างเข้ามาลูบไล้หน้าอกผมอย่างแผ่วเบาแล้วเธอลากวนไปมาช้าๆ บริเวณหน้าท้อง นิ้วเล็กหยอกเหย้ากับมัดกล้าผมเล่นจนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ปลุกอารมณ์เก่งจริงๆ แสดงว่าพอมีประสบการณ์อยู่บ้างล่ะซิ เพราะโดนปลุกอารมณ์มันก็ทำให้ผมเผลอจูบเธอตอบอย่างเร่าร้อน มือเล็กที่กำลังลูบไล้หน้าท้องผมอยู่นั้นเผลอบีบหน้าท้องผมแรงเพราะเกร็งที่โดนไล่ต้อนคืน พอได้แล้วก่อนที่จะถอยไม่ได้อีก ผมจับบ่าเณอรีนแล้วดันตัวเธอออกห่าง แต่แล้วใบหน้าที่ผมเห็นในตอนนี้กลับเป็นไลลาซะได้ เธอส่งยิ้มหวานมาให้กับสายตาอ้อนวอนนั้น...เหมือนไม่อยากให้ผมหยุดการกระทำ ไลลาจริงๆ เหรอเนี่ย จากที่กำลังจะหยุดพอเห็นว่าคนตรงหน้าคือไลลายิ่งทำให้ผมฮึกเหิมเข้าไปอีก “ไลลา” ผมเผลอเอ่ยชื่อเธอออกไป เธอทำหน้างุนงงเล็กน้อยแต่แล้วก็ส่งยิ้มหวานมาให้ อ๊า~ ไลลาจริงๆ ด้วย “น่ารักจัง” ผมกระซิบบอกที่ข้างหู ตอนนี้เธอหน้าแดงเหมือนลูกตำลึงแล้ว มือเล็กเริ่มขยุ้มหน้าอกผมเล่นอย่างเอาใจ ริมฝีปากบางก็ระดมจูบซุกไซ้ซอกคอผมเล่นอย่างเร่าร้อน ตอนนี้ในสมองผมไม่รับรู้อะไรแล้ว ผมรั้งเอวบางเข้ามาแนบลำตัวพร้อมกับบดจูบที่ริมปากบางส่งลิ้นหนาเข้าไปควานหาความหวานภายในโพรงปากเล็กของเธออย่างโหยหา ผมยังไม่เคยได้จูบเธอจริงจังสักครั้งเลย อ๊า...รู้สึกดีจัง ตั้งแต่คบกับไลลาผมก็ไม่เคยเที่ยวกลางคืนอีกเลย ทำให้ผมห่างเรื่องอย่างว่ามานาน ยิ่งเห็นไลลาไม่ว่าอะไรแล้วด้วย มันยิ่งทำให้ผมได้ใจ ผมใช้มือหนาลูบไล้ไปตามไหปลาร้าพร้อมใช้นิ้วชี้เกี่ยวสายเสื้อลง มือของผมค่อยๆ สัมผัสกับก้อนเนื้อกลมนิ่มพอดีมือ ออกแรงบีบหนักเบาสลับกันไปส่วนมืออีกข้างก็ค่อยๆ ลูบไล้บริเวณรอยแยกประโปรงไต่ขึ้นมาที่ขาอ่อนด้านบน แล้วก็ลวงเข้าไปในกางเกงในแพนตี้ของเธอ “อ๊ะ อ่า~” ผมส่งนิ้วกลางเข้าไปสำรวจภายในร่องของเธอ ร่างกายเธอตอบสนองทันที ตอดแรงชิบ! แน่นดีจัง “อ๊า~” ผมครางอยู่ในลำคออย่างพอใจก่อนจะค่อยๆ ขยับนิ้วเข้าออกอย่างช้า ๆ เนิบ ๆ “อ๊า...” ผมก้มหน้าลงซุกไซ้ซอกคอขาวเนียน มือที่บีบก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอยู่ก็เปลี่ยนไปดึงบราปีกนกของเธอออกให้พ้นทาง ผมก้มหน้าลงไปชิมยอดอกนุ่มใช้ปลายลิ้นเขี่ยเล่นกับยอดอกที่แข็งเป็นไตสลับกับแม้มดูดแรงๆ ทำให้ร่างกายของเธอสั่นนิดๆ “มิโน่ ฉัน...ไม่ไหวแล้ว” ผมเร่งจังหวะนิ้วให้เร็วขึ้น “อ๊ะ อ๊ะ เลิกทรมานฉันสักที...” ผมไม่รอช้ารีบปลดปราการที่ปกปิดความเป็นชายออกแล้วจับแก่นกายถูไถไปมากับติ่งเสียวของเธอ “มิโน่ สักทีเถอะ” เธอออกคำสั่ง “อ๊า~” ผมครางอย่างพอใจ ทันทีที่ดันแก่นกายเข้าไปรู้สึกว่าภายในของเธอตอดถี่และแรงเหลือเกิน เข้าไปได้แค่ส่วนหัวก็เสียวจะแย่แล้ว “โอ๊ย! เจ็บจัง” ผมลองขยับออกแล้วเข้าไปใหม่ทำแบบนี้อยู่สองสามทีก็สามารถเข้าไปได้เกือบสุด มันชั่งรู้สึกดีอะไรอย่างนี้ จากนั้นผมก็เริ่มบรรเลงบทรักแสนเร่าร้อนให้ทั้งเธอและผมสุขสมไปด้วยกัน ผมดันตัวเธอไปชิดกำแพงด้านหลังแล้วจับขาเธอข้างหนึ่งยกขึ้นมาเกี่ยวกับเอวผมไว้พร้อมกับส่งแรงกระแทกกระทั้นเข้าไปถี่ ๆ เธอกอดรอบคอผมไว้แน่นปากเล็กก็พรมจูบซุกไซ้ซอกคออย่างเอาใจ “อ๊ะ อ๊ะ ไม่ไหวแล้วนะ” ผมรีบเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วชั้นบันได “อ่า~” ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าสู่ร่างกายเธอ ผมพลิกตัวไปยืนพิงกำแพงแทนให้เธอซบหน้าลงที่อกแล้วค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงกับพื้นดึงเธอนั่งลงตามด้วยโดยที่ส่วนนั้นของเรายังเชื่อมกันอยู่ เธอจึงนั่งคร่อมตักผมนั่นคือท่าที่ถนัดแล้ว ผมรู้สึกเหมือนมีใครมองเราอยู่ แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมองที่ประตูก็เห็นเพียงแค่แวบๆ ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก่อนที่ประตูจะปิดลงสนิทและนั้นทำให้ผมได้สติรู้แล้วว่าตัวเองได้ทำพลาดอย่างไม่หน้าให้อภัย ไม่น่าเลย “อย่าได้พูดเรื่องนี้กับใคร โดยเฉพาะกับไลลา” ผมบอกเฌอรีนเสียงเข้ม จะว่าผมใจร้ายก็ได้นะ แต่ยังไงผมก็ไม่ยอมเสียไลลาไปเด็ดขาด ติ่งต่อง ติ่งต่อง เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นทำให้ผมและแม่หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าใครกันมาหาแต่เช้าแบบนี้ “ใครมาแต่เช้าล่ะเนี่ย” แม่ผมพูดขึ้น “เดี๋ยวมอนด์ไปดูให้ครับ” ผมที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในครัวเป็นต้องล่ะมือไว้ก่อน นานๆ ผมจะได้กลับมานอนบ้านสักที ที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้านไม่ใช่ว่าผมเที่ยวเถลไถลนะครับ เพราะว่าผมมีงานมีการทำต่างหาก ผมเป็นศิลปินของค่ายเพลง Lay Music ปีนี้เป็นทองของผมล่ะครับ ทัวร์คอนเสร์ตลอดทั้งปี ก็อย่างว่าละครับคนมันฮอต และผมก็สนุกกับงานของตัวเองด้วย ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงพักผ่อนทางค่ายเห็นว่าผมลุยงานมาตลอดก็เลยให้พักเป็นเวลาหนึ่งเดือน ผมเดินออกมาหน้าบ้านเพื่อดูว่าใครมา “อ้าว นึกว่าใคร พี่มิโน่นี่เอง หวัดดีครับ” “หวัดดี หายหน้าหายตาไปนานเลยนะ” “คนหล่อก็งี้แหละครับ ไม่ค่อยเจอตัวง่ายๆ หรอก” ผมตอบแล้วก็ส่งยิ้มกวนๆ ไปให้พี่มิโน่ “คร๊าบบบ พ่อรูปหล่อ” พี่มิโน่แขวะผม “แล้วพี่มีไร มากดกริ่งหน้าบ้านเขาแต่เช้าเนี้ย” “ก็มารับพี่สาวเราไปเรียนไง” “อ้อ แต่ว่าวันนี้พี่ไลลาไม่ไปเรียนนะ เห็นว่าไม่สบาย” “อ้าว แล้วไลลาเป็นอะไรมากไหม” พี่มิโน่ถามแสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน “นี่แม่กำลังทำข้าวต้มให้ เดี๋ยวมอนด์จะขึ้นไปดูอยู่” ผมเห็นพี่มิโน่มองขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านสีหน้าเป็นกังวล “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เดี๋ยวมอนด์ดูแลเอง” “งั้นฝากเทคแคร์แทนเค้าด้วยนะ” พี่มิโน่บอกพร้อมกับทำหน้าให้ดูน่ารัก “ขนลุกครับ” ผมแกล้วทำเป็นลูบแขนเบาๆ ทำให้พี่มิโน่ยืนขำกร๊ากจนท้องแข็ง “เออๆ ดูแลไลลาดีๆ ล่ะ” “นั้นพี่สาวผมปะ ก็ต้องพิเศษอยู่แล้ว” ผมหมายความอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเรามีกันแค่สองคนพี่น้องนี่ “งั้นพี่ไปเรียนล่ะ ฝากบอกไลลาด้วย ว่าหายเร็วๆ อยากเจอหน้าใจจะขาดแล้ว” “คร๊าบบ” พี่มิโน่เดินมาตบบ่าผมเบาๆ สองทีแล้วก็เดินขึ้นรถไป “ใครมาเหรอลูก” แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นผมเดินกลับเข้ามาในบ้าน “พี่มิโน่ครับ จะมารับพี่ไลลาไปเรียน” “น่ารักจริงๆ มิโน่เนี่ย คอยเป็นห่วงเป็นใยไลลาตลอด โชคดีของไลลาที่มีเพื่อนที่ดีอย่างมิโน่” ก็แงล่ะ พวกเขาเป็นแฟนกันนิ แต่ก็ไม่มีใครรู้หรอกนอกจากผม “ข้าวต้มเสร็จยังล่ะคุณ ผมจะได้เอาไปให้ลูก” พ่อถามแม่ “เสร็จแล้วค่ะ เตรียมใส่ถาดพร้อมกับยาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว “เดี๋ยวมอนด์เอาไปให้พี่ไลลาเองครับ ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้คุยกับพี่เลย” “งั้นก็ฝากด้วยนะ พ่อจะไปทำงานละ” ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก๊อก ๆ ๆ “พี่ไลลา แม่ให้เอาข้าวต้มมาให้” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ไม่ใช่ล่ะ “งั้นมอนด์เข้าไปละนะ” ผมถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปโดยที่ไม่รอคำอนุญาติจากเจ้าของห้อง ผมมองไปทั่วห้องก็เจอพี่สาวนอนคลุ่มโปรงอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา “หายใจออกไหมนั้น” ผมยืนหัวเราะพี่สาวตัวเองที่นอนห่มผ้าคลุ่มโปรงเหมือนเด็กเล่นซ่อนหา ผมเดินไปที่โต๊ะข้างเตียงนอนแล้ววางถาดข้าวลงที่โต๊ะก่อนจะนั่งลงบนเตียงนอนข้างๆ พี่สาว “พี่ไลลาลุกขึ้นมากินข้าวกินยาก่อน เดี๋ยวค่อยนอนต่อ” ผมบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปเขย่าตัวพี่สาวเล็กน้อย “พี่ไม่หิว” เสียงตอบอู้อี้อยู่ใต้ผ้าห่ม “ไม่หิวก็ต้องกิน” สิ่งที่ตอบกลับมาคือ เงียบ “พี่ไลลา” ผมดึงผ้าห่มที่พี่ไลลาคลุ่มโปรงอยู่ออก พรึ่บ! “นี่ป้าเป็นใครเนี่ย มาอยู่ในห้องพี่สาวคนสวยของผมได้ไง” ผมแกล้งทำหน้าเหวอสุดขีด “ไม่ตลก ไดมอนด์” พี่ไลลาทำหน้ามุ่ยทันที “อ้าว พี่ไลลาเองเหรอเนี่ย นึกว่ายัยป้าที่ไหน ฮ่า ๆ ๆ” ผมหลุดขำเพราะตอนนี้ใบหน้าของพี่ไลลาบวมตึง ตาตูบแดงเหมือนคนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ใจจริงผมตกใจมากกว่าแต่ก็อยากเล่นมุขตลกให้พี่ขำเผื่อจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง “แล้วเป็นอะไร ทำไมถึงได้ตาบวมเป่งขนาดนี้” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่มีอะไร” พี่ไลลาไม่สบตาผม โกหกไม่เนียนเลยพี่สาวผมเนี่ย เห็นอยู่ว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ ผมจับพี่ไลลาหันหน้ามามองผมตรงๆ “เล่ามา” ผมจ้องหน้าพี่สาวอย่างคาดคั้น แต่ก็ยังนิ่งอยู่ ผมถอนหายใจยาวๆ หนึ่งที อย่างระบายก่อนจะพูดกับพี่สาวอีกครั้ง “มอนด์เป็นน้องพี่นะ เราก็มีกันอยู่แค่นี้ มีอะไรก็บอกมาดิ ไม่งั้นมีงอนครับ” ผมพูดทีเล่นทีจริงกับพี่สาวเผื่อจะช่วยให้พี่ไลลาผ่อนคลายได้บ้าง พี่ไลลาก้มหน้าลง มือบางกำผ้าห่มแน่นจนสั่น ผมรีบกุมมือพี่สาวไว้ มันคงหนักมากสินะถึงได้ร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้ พี่ไลลาเงยหน้าขึ้นมองผมพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ผมตกใจรีบดึงพี่เข้ามากอด พี่ไลลาร้องไห้อย่างหนักจนตัวสั่นเทิ้ม เสียงสะอื้นปานจะขาดใจ อะไรเนี่ย เพราะอะไรกันถึงได้ทำให้พี่ไลลาเสียใจขนาดนี้ ผมกอดพี่ไลลาไว้แน่นพร้อมกับลูบหลังอย่างปลอบโยน “โอ๋ ๆ เค้าอยู่นี้แล้ว อย่าร้องน๊าคนดีของมอนด์” ผมพูดปลอบหวังให้พี่มีอารมณ์ขัน แต่พี่ไลลากลับกอดผมแน่นกว่าเดิมอีก ตอนนี้เสื้อสีขาวของผมบริเวณหน้าอกเปี้ยกหมดแล้ว “งั้นก็ร้องออกมาเถอะ ให้น้ำตามันหมดๆ ไปจะได้ไม่ต้องร้องอีก” ผมลูบผมยาวเสวยของพี่สาวเบาๆ “พี่ควรทำไงดี อึก ฮือ ไดมอนด์” “พี่ต้องบอกมอนด์ก่อน ว่าพี่เป็นอะไร” พี่ไลลาเงยหน้าขึ้นมามองผม ตอนนี้ใบหน้าสวยแปดเปือนไปด้วยน้ำตา ริมฝีปากบางค่อยๆ ขยับเล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจให้ผมฟัง สงสารพี่จัง ถ้าผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ไปไม่เป็นเหมือนกันแหละ แฟนกับเพื่อน หึ้ย... คิดแล้วขนรุก “ผมเชื่อว่า ถ้าพวกพี่สองคนรักกันจริง ต่อให้อุปสรรคมันหนักแค่ไหนพวกพี่ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้” จากที่ได้คุยกับพี่มิโน่เมื่อเช้าพี่มิโน่ก็ดูปกติดี และยิ่งพอรู้ว่าพี่ไลลาไม่สบายพี่มิโน่ก็แสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่พี่มิโน่จะนอกใจพี่ไลลา ผมคิดว่านะ ก็คงเป็นสันดานของผู้ชายทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ แม้แต่ผมเองก็เหอะ มันก็ต้องมีบ้างละน่า ที่บางเวลาอยากจะผ่อนคลายหรืออารมณ์มันพาไป ยิ่งผู้หญิงยินยอมไม่ว่าอะไรแล้วด้วย ใครจะอดใจไหว จริงไหม แต่พี่มิโน่ก็พลาดเองตรงที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนพี่ไลลา . . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม