สาเหตุ

2609 คำ
“ไลลา” เฌอรีนกระซิบเรียก แต่สายตาของเธอกลับจ้องมองที่มิโน่ เธอคงกลัวมิโน่จะได้ยินบทสนทนาของเรา “อะไรเหรอ เฌอรีน” ฉันกระซิบถามกลับไป “วันนี้วันเกิดมิโน่ใช่ปะ” “อื้อ ใช่แล้ว ทำไมเหรอ” “ไปหาของขวัญให้มิโน่กัน” “ฉันเตรียมไว้แล้ว” “เร็วจัง” ฉันแอบอมยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อนึกถึงของขวัญที่เตรียมไว้ให้มิโน่ “งั้น ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” เฌอรีนบอกพร้อมกับทำท่าทางออดอ้อนอย่างน่ารัก “แล้วจะไปยังไง ถ้ามิโน่รู้เดี๋ยวก็ไปด้วยอีกล่ะ” ไม่ว่าฉันจะไปไหนมิโน่มักจะติดตามไปทุกที่ และฉันเองก็ชอบที่เขาเป็นแบบนั้นด้วย “ก็อย่าบอกสิ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” พอพูดจบเณอรีนก็ตะโกนถามมิโน่ที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปจากฉัน “นี่ มิโน่นายจะจัดปาร์ตี้วันเกิดที่ไหนเหรอ” “รุ่นพี่ฉันจะพาไปเลี้ยงที่ ST ผับน่ะ” “ดีเลย ตอนนี้ฉันกับไลลายังไม่มีชุดสวยๆ ใส่ไปงานวันเกิดนายเลย ฉันกับไลลาไปช้อปปิ้งก่อนนะ” พูดจบเฌอรีนก็ลากฉันออกจากห้องเรียนทันที “เดี๋ยวสิ ไลลา! รอโน่ก่อน” เสียงมิโน่ร้องเรียกบอกให้รอก่อน แต่เฌอรีนก็ไม่รีรอรีบพาฉันเดินออกมาจนถึงหน้ามหาลัย “แล้วเราจะไปกันยังไงล่ะ” อย่างน้อยถ้ามิโน่ไปด้วยก็จะได้มีคนพาไปเพราะเขามีรถ “เดี๋ยวฉันโทรบอกพี่ชายฉันมารับดีกว่า” “นี่แกมีพี่ชายด้วยเหรอ ฉันไม่เห็นจะรู้เลย” เฌอรีนเป็นลูกคนเดียวของบ้าน เธอจะมีพี่ชายได้ยังไง “ลูกพี่ลูกน้องน่ะ พี่ชายฉันหล่อมากเลยนะจะบอกให้ ระวังแกจะหลงเสน่ห์เขาล่ะ” ฉันหลุดขำกับคำพูดอวดสรรพคุณความหล่อของพี่ชายอย่างเกินจริงของเณอรีน “ตอนนี้เฌอรีนอยู่หน้ามหาลัยค่ะ มารับไปช้อปปิ้งหน่อยสิ” เฌอรีนบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อนให้กับคนในสาย “น่ารักที่สุด เดี๋ยวจะติดต่อสาวสวยให้เป็นการตอบแทนนะคะ” ฉันยืนดูเฌอรีนพูดกับคนในสายโทรศัพท์ก็อดขำกับท่าทางของเพื่อนไม่ได้ ถ้าผู้ชายคนไหนโดนยัยเฌอรีนอ้อนแล้วล่ะก็..เป็นต้องหลงเธอทุกราย “เรียบร้อย” เฌอรีนหันมาบอกหลังจากวางสายแล้ว “แล้วพี่แกเขาไม่ทำงานเหรอ” ฉันถามเฌอรีนด้วยความสงสัย จะมีสักกี่งานที่ทำให้คนเรามีเวลาว่างมากพอที่จะออกไปไหนมาไหนได้อย่างใจคิด “จะทำหรือไม่ทำพี่ฉันก็ไม่อดตายหรอก เพราะว่าเขาเป็นเจ้าของค่ายเพลงชื่อดังเชียวนะ อิสระจะตาย” เฌอรีนพูดอย่างชื้นชม “เหรอ” ฉันแกล้งลากเสียงยาวอย่างกวนๆ อดแขวะเพื่อนไม่ได้ ไม่รู้จะอวยอะไรกันนักหนา เฌอรีนยักไหล่แบบกวนๆ ใส่ฉันเช่นกัน ฉันก็ได้แต่ส่ายหน้าขำกับท่าทางของเพื่อน ยืนรอสักพักก็มีรถหรูสีน้ำเงินคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าฉันกับเฌอรีน เพื่อนสาวของฉันรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ส่วนฉันก็เปิดประตูไปนั่งที่เบาะด้านหลังเฌอรีน “พี่เรย์ นี่เพื่อนเฌอรีนเองชื่อไลลา ไลลานี่พี่เรย์พี่ชายสุดหล่อที่ฉันเล่าให้ฟังไง” ฉันยกมือไหว้พี่เรย์เพราะดูแล้วเขาน่าจะอายุเยอะกว่าฉัน พี่เรย์พยักหน้ารับไหวผ่านกระจกมองหลัง จังหวะที่ฉันเงยหน้าขึ้นมาก็เผลอสบตาพี่เรย์เข้าพอดี สิ่งที่เณอรีนคุยไว้ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะไม่เกินจริงสักเท่าไหร่ พี่เรย์เป็นผู้ชายที่หน้าตาดี ถือว่าตรงใจสาวๆ หลายคนเลยล่ะ ผิวขาวเนียนอย่างกับผิวของผู้หญิง ริมฝีปากอมชมพูมีสีแดงแกมด้านในเสริมให้ใบหน้าของพี่เรย์เซ็กซี่แบบไม่ต้องพยายาม ในขณะที่ฉันกำลังประเมิณผู้ชายคนนี้อยู่ในใจก็ต้องชะงักเมื่อตาคมจ้องเขม็งอย่างกะจะกินฉันเข้าไปทั้งตัวอย่างงั้นแหละ “คนนี้เหรอที่จะติดต่อให้พี่” ฉันแทบสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อได้ยินสิ่งที่พี่เรย์พูด “แล้วพี่เรย์ชอบไหมคะ” ยิ่งได้ยินเฌอรีนพูดเสริมต่อฉันยิ่งอึ้งหนนักกว่าเดิม “ยัยเฌอรีน” ฉันท้วงเพื่อนด้วยเสียงดุ “น่ารักดี พี่ชอบ” พี่เรย์พูดพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ผ่านกระจกมองหลัง “งั้นก็จีบเลยสิ” เฌอรีนยุยงส่งเสริมไม่หยุด “ถ้าแกยังไม่เลิกเล่น ฉันจะไม่ไปกับแกแล้วนะ” ฉันบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “โธ่ ฉันล้อเล่นน่าไลลา ไม่เห็นจะต้องทำเสียงดุขนาดนั้นเลย” เฌอรีนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “สงสัยเพื่อนเฌอรีนหัวใจไม่ว่างแน่ ๆ ไม่งั้นคงไม่ทำท่าทางเหมือนไม่พอใจแบบนั้นหรอก” คำพูดของพี่เรย์ทำให้เฌอรีนหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาสงสัย “นี่แกมีแฟนแล้วเหรอไลลา” ตากลมโตจ้องมองฉันอย่างคาดคั้น และนั่นก็ทำให้ฉันพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเฌอรีนยังไม่รู้เรื่องฉันกับมิโน่ “แล้วแกเห็นฉันคุยกับใครไหมล่ะ” ฉันเลี่ยงไม่ตอบแต่ถามกลับไปแทนเพื่อไม่ให้เฌอรีนจับพิรุธได้ “ก็ไม่นิ” เฌอรีนพูดพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด “จะไปกันได้หรือยังคะ” ฉันหันไปถามพี่เรย์ที่ตอนนี้เขาเอาแต่จ้องจับผิดฉันอยู่ นิ่งไว้ไลลาอย่าร้อนตัวเกินเหตุ ห้างสรรพสินค้า เฌอรีนลากฉันเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนรู้สึกเวียนหัว แต่ละร้านก็มีเสื้อผ้าสวยๆ ทั้งนั้น แต่ก็ยังไม่ถูกใจคุณหนูเฌอรีนสักร้าน จนมาถึงร้านหนึ่งตั้งอยู่สุดทางเดินชั้นสองของห้างฯ สไตล์เสื้อผ้าร้านนี้ค่อนข้างเซ็กซี่ ฉันขึงตัวยืนนิ่งอยู่หน้าร้านเพราะเฌอรีนทำท่าจะลากฉันเข้าร้านนี้ “อะไรของแก ไลลา” เฌอรีนหันมาถามเมื่อฉันไม่ยอมเดินตามแรงดึงของเธอ ฉันส่ายหน้าจนผมที่ยาวถึงกลางหลังสะบัดไปมา “เถอะน่า แป๊บเดียว” แต่เฌอรีนก็ไม่ยอมเช่นกัน ในที่สุดฉันก็ถูกเพื่อนสาวลากเข้ามาในร้านเป็นที่เรียบร้อย สาเหตุที่ฉันไม่อยากเข้าร้านนี้ก็เพราะฉันต้องมาเป็นหุ่นให้ยัยเพื่อนตัวดีลองชุดนั้นชุดนี้ให้หล่อนดูนะสิ เฌอรีนบอกว่าฉันหุ่นดีใส่ชุดไหนก็ดูดีไปหมด ไม่ว่าจะลองชุดไหนฉันก็ต้องเดินออกมาให้เฌอรีนดู แค่เพื่อนคนเดียวฉันก็ไม่ได้อายอะไรหรอก แต่นี่มีพี่เรย์อยู่ด้วยนะสิ และเพื่อนตัวดีของฉันก็ชอบหันไปถามความเห็นของพี่เรย์ด้วย เขายิ่งชอบจ้องมองอย่างกะจะกินฉันงั้นแหละ หน้าหล่อแบบนี้ไม่น่าจะอดอยากปากแห้งนะ คงมีให้กินถึงที่เลยล่ะมั้งนั่น แต่ก็ไม่เลิกจ้องฉันสักที เฌอรีนหยิบชุดเสื้อสายเดี่ยวสีขาวกับกระโปรงสีเดียวกัน กระโปรงยาวถึงเข่าแต่ก็ผ่าสูงขึ้นมาถึงขาอ่อนด้านบน ฉันรีบส่ายหน้าทันทีที่เฌอรีนเอาชุดนั้นมาทาบบนตัวฉัน “ฉันไม่ลองชุดนี้เด็ดขาด” ฉันบอกเพื่อนเสียงแข็ง “ก็ได้ งั้นใส่คืนนี้เลยแล้วกัน” เฌอรีนพูดเสร็จก็หยิบอีกชุดแบบเดียวกันแต่เป็นสีครีมไปคิดเงินทั้งสองชุดที่เคาร์เตอร์ “แกหมายความว่าไงเฌอรีน” ฉันเดินตามเพื่อนไปจนถึงเคาน์เตอร์เพราะไม่อยากจะไว้ใจเพื่อนสักเท่าไหร่ “ก็หมายความว่า แกต้องใส่ชุดนี้เป็นเพื่อนฉัน” นั่นไง เคยไว้ใจได้ที่ไหนล่ะ “แล้วทำไมฉันต้องใส่ด้วย” “เพราะถ้าแกไม่ใส่ ฉันก็จะแก้ผ้าไปร่วมงานเลยไงล่ะ” เฌอรีนบอกพร้อมกับหัวเราะชอบใจที่เห็นฉันทำหน้าเหวอ “แกไม่กล้าหรอก” ฉันเชื่อว่ายัยเฌอรีนไม่กล้าทำหรอก “ใช่ คนเดียวไม่กล้าหรอก แต่ฉันจะจับแกแก้ผ้าไปด้วยกัน ฮ่า ๆ ๆ” เสียงเพื่อนตัวแสบหัวเหาะชอบใจ “ยัยบ้าเฌอรีน” ก็ด่าได้แค่นี้แหละ ทำไงได้ล่ะ ถึงจะบ้ายังไงแต่ยัยนี่ก็เพื่อนฉันนิ หลังจากที่พวกเราสองเพื่อนรักเลือกซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่เรย์ก็ไปส่งเราสองคนถึงหน้าบ้านของเฌอรีน “ขอบคุณนะคะ พี่เรย์” เฌอรีนบอกลูกพี่ลูกน้องของเธอ “ไม่เป็นไรครับ พี่ไปละนะ” พี่เรย์บอกพร้อมกับออกรถไปทันที “ปะ แต่งตัวกัน” เอสทีผับ หลังจากที่แยกจากสองสาวแล้วผมก็มานั่งดื่มเหล้าที่ผับของโลโค่ซึ่งเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญและเป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องชายที่ถือว่าสนิทกับผมมากรองจากเฮียเจและเฮียซัมดี จากผับเล็กๆ ของโลโค่ตอนนี้กลายเป็นผับใหญ่โตหรูหราแตกต่างไปจากเดิมไปเยอะ มีลูกเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย แต่ละคนดูแล้วกระเป๋าหนักๆ กันทั้งนั้นพูดง่ายๆ ก็พวกลูกผู้ดีมีเงินทั้งหลายนั้นแหละ ตอนนี้ผมนั่งอยู่โซนวีไอพีชั้นสองซึ่งสามารถมองเห็นชั้นล่างได้อย่างทั่วถึง “ว๊าว อะไรทำให้เฮียเรย์ของผมยอมออกมาจากถ้ำได้เนี่ย” เสียงพูดกวนประสาทแบบนี้ โลโค่แน่นอน ที่มันพูดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกเพราะผมไม่ค่อยออกมาดื่มสักเท่าไหร่ วันๆ นั่งทำแต่เพลงให้เด็กในค่าย ก็ผมเป็นโปรดิวเซอร์นี่น่ะ “ก็แค่อยากผ่อนคลายบ้างไรบ้าง” ผมตอบโลโค่พร้อมกับยกแก้วเหล้าที่มีเหล้าอยู่ครึ่งแก้วขึ้นมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว “เฮียเรย์มาเที่ยวทั้งที เดี๋ยวโลโค่จัดสาวสวยเด็ดๆ ให้จะได้ช่วยผ่อนคลายยิ่งขึ้น” โลโค่พูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “มาดิ” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์กลับไปให้โลโค่เช่นกัน โลโค่เดินออกไปไม่ถึงสองนาทีก็กลับมาพร้อมกับผู้หญิงสี่คน มันไม่ได้เอามาคนเดียวหรอก มันเอามาแค่สองคน อีกสองมากับเฮียซัมดีและเฮียเจ ผมนับถือทั้งสองเฮียเหมือนพี่ชายแท้ๆ เพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันและที่สำคัญคือเฮียทั้งสองเป็นหุ้นส่วนค่ายเพลงของผมด้วย “ไง ออกมาจากถ้ำได้แล้วเหรอ” เฮียซัมดีถาม ผมไม่ตอบแต่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกับเฮียซัมดีแทน แถมยักคิ้วใส่แบบกวนๆ ไปให้ด้วย เฮียซัมดียิ้มกวนกลับมาเช่นกัน “นี่ สาวสวย เธอรู้ไหม วันนี้เป็นบุญของเธอแล้วล่ะ ที่จะได้เจอของดี” เฮียเจพูดกับสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างผม ผมหันไปส่งสายตาหื่นๆ ใส่ เธอเองก็ส่งสายตาร้อนแรงกลับมาเช่นกัน “เอาให้ถึงใจเลยนะ คนสวย” โลโค่บอกเธอ โลโค่พูดยังไม่ทันขาดคำ มือของสาวสวยก็เริ่มอยู่ไม่สุก ลูบไล้หน้าอกผมเล่นอย่างสนุกมือ ปากสวยพรมจูบซอกคอเบาๆ อย่างยั่วยวน ขยันปลุกอารมณ์จริงๆ ในขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับสาวสวย สายตาของผมก็แลไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ชั้นล่างกับเพื่อนหลายคน ผมจำได้ดีเพราะเธอคือไลลา เพื่อนสาวคนสวยของเฌอรีนญาติลูกพี่ลูกน้องของผม ผมเจอไลลาครั้งแรกเมื่อตอนกลางวันที่หน้ามหาลัย ใบหน้าสวยรูปไข่ ริมฝีปากกระจับสีชมพูน่าสัมผัส ผิวขาวออร่าพุ่งกับหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัว หุ่นไลลาค่อนข้างเอ็กซ์ เอวคอดกิ่วน่าลูบไล้ที่สุด ไลลาสวมชุดสายเดี่ยวสีขาวที่เฌอรีนซื้อให้เมื่อตอนกลางวัน เธอนั่งตรงกลางระหว่างเฌอรีนกับผู้ชายคนหนึ่ง ผมเห็นมันนั่งมองไลลาด้วยสายตาหวานเยิ้ม ก็แงล่ะ เธอออกจะน่ามองขนาดนั้น ผมยังอดมองไม่ได้เลย “ไลลา แกสวยมาก เหมือนเจ้าสาวยั่วสวาทเลยอะ” “แกก็ใช่ย่อย เฌอรีน” ฉันชมเพื่อนกลับบ้าง ฉันกับเฌอรีนเหมือนแฝดคนละฝาเลย เพราะชุดที่เราใส่มันเหมือนกันมากแตกต่างก็แค่สี ฉันใส่สีขาวส่วนเฌอรีนใส่สีครีม ฉันมองตัวเองในกระจกอย่างกังวล ก็ไอ้เสื้อสายเดี่ยวที่ฉันใส่อยู่เหมือนจะหลุดแล่ไม่หลุดแล่มันรู้สึกหวิวๆ มากอะ กระโปรงก็ผ่าขึ้นสูงจนถึงขาอ่อนด้านบน ถ้านั่งไม่ระวังนะ มีโผล่แน่ ฉันกับเฌอรีนเดินออกมาพร้อมกับเค้กวนิลาก้อนใหญ่ที่บนหน้าเค้กเขียนว่า Happy Birth Day Mino ฉันเดินมาหยุดตรงหน้ามิโน่พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ มิโน่เองก็ยิ้มหวานกลับ “สุขสันต์วันเกิดนะมิโน่ (สุดที่รักของไลลา)” ฉันได้แต่พูดในสิ่งที่คิดอยู่ในใจ ฉันไม่มีความกล้าพอที่จะพูดมันออกมา “ขอบคุณนะ ไลลา” มิโน่ตอบพร้อมส่งสายตาแสนอบอุ่นมาให้ฉัน “ขอบคุณไลลาคนเดียวได้ไงย่ะ ฉันก็ช่วยไลลาซื้อเค้กเหมือนกันนะ” เฌอรีนพูดแบบงอนๆ อย่างไม่จริงจังนัก “รู้น่า ขอบคุณเธอด้วยเฌอรีน” มิโน่ตอบด้วยน้ำเสียงขำๆ “ย่ะ” “เอาล่ะ มาดื่มให้กับหนุ่มหล่อมิโน่กันดีกว่าพวกเรา” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น ทั้งโต๊ะจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นแก้วมาชนกัน “หมดแก้ว” เฌอรีนบอกทุกคน หลังจากนั้นทุกคนก็เอาของขวัญให้มิโน่ เฌอรีนซื้อนาฬิกาให้เขา ระหว่างที่มิโน่กำลังเกะของขวัญ ฉันก็ยังไม่กล้าให้ของขวัญมิโน่ต่อหน้าเพื่อนๆ เพราะถ้าให้ตอนนี้มิโน่ต้องเกะโชว์ทุกคนแน่ ของขวัญที่ฉันจะให้มิโน่มันคือสร้อยข้อมือสีเงินเมทัลลิกมันมีสองเส้น เส้นหนึ่งเป็นของผู้ชายอีกเส้นเป็นของผู้หญิง ซึ่งฉันสลักชื่อ LiLaไว้ที่เส้นของผู้ชาย ส่วนเส้นเส็กฉันสลักว่า MiNo มันคือสร้อยคู่นั่นเอง “เดี๋ยวของไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ มึนหัวมากอะตอนนี้” มิโน่หันมาบอก ฉันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะหันมาหาเฌอรีน แต่ก็ไม่เห็นเพื่อนสาวนั่งอยู่ตรงนี้แล้ว สงสัยไปห้องน้ำแน่เลย จังหวะที่มองหาเพื่อนนั้นสายตาของฉันก็แลเห็นสายตาของใครบางคนซึ่งกำลังจ้องมองฉันจากชั้นสอง พอเขาเห็นว่าฉันมองกลับเขา พี่เรย์ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาชูให้ฉันหนึ่งที ฉันทำเมินใส่เพราะไม่อยากจะสนใจเท่าไหร่ . . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม