ห้ามยุ่ง

1559 คำ
ก่อนจะถึงงานกีฬาสีในวันพรุ่งนี้นักกีฬาก็ได้มีการซักซ้อมโค้งสุดท้าย วันนี้ตอนบ่ายฉันไม่มีเรียนเพราะอาจารย์ที่สอนมีประชุมดาวเลยชวนฉันมาดูพวกรุ่นพี่ซ้อมบาสกันฉันไม่อยากมาเลยเพราะรุ่นพี่ที่ว่ามีกลุ่มของพี่เสืออยู่กันครบทุกคนแต่ดาวน่ะสิก็บังคับให้ฉันมาเป็นเพื่อนจนได้และพอมาถึงยังไม่เท่าไหร่อาจารย์ฝ่ายกิจกรรมก็เรียกให้ดาวไปหา “น้องคะช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหม” ตอนที่ฉันกับดาวกำลังจะเดินออกไปก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงคนนึงวิ่งเข้ามาหาฉัน ฉันจำได้ว่าเป็นรุ่นพี่ม.6แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร “มีอะไรหรอคะ” “อาจารย์สมเกียรติเรียกให้พี่ไปหาแต่พี่ต้องคอยเก็บบาสให้เพื่อนพี่พี่เลยอยากวานให้น้องช่วยเก็บลูกบาสแทนพี่ก่อนได้ไหมไม่นานหรอกพี่ไปแค่แปปเดียว” พอฉันทำท่าจะปฏิเสธรุ่นพี่ก็ทำหน้าขอร้องฉันไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเลยจำใจรับปาก หลังจากที่รุ่นพี่คนนั้นเดินออกไปพร้อมกันกับดาวแล้วฉันมองไปที่ตระกร้าที่ใส่ลูกบาสอยู่นับคร่าวๆน่าจะมีไม่ต่ำกว่ายี่สิบสามสิบลูก “น้องครับน้อง….น้องผู้หญิงคนนั้นน่ะ” รุ่นพี่ผู้ชายคนนึงที่ซ้อมบาสด้วยกันกับพวกกลุ่มพี่เสือเหมือนจะเรียกฉันนะ “พี่เรียกหนูหรอคะ” ฉันชี้หน้าตัวเองแบบงงๆ “ใช่ครับ คือพวกพี่จะซ้อมชู้ตบาสกันก่อนเลยวานให้น้องช่วยเก็บลูกบาสให้พวกพี่ด้วยนะ” “ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับหงึกๆก่อนจะเดินตามพี่เขาไป หลังจากที่พวกพี่เสือวอร์มร่างกายเสร็จแล้วพวกพี่เขาก็เริ่มซ้อมโยนลูกบาสลงห่วง ในทีมมีกันทั้งหมดห้าคนไม่รวมตัวสำรองอีกเจ็ดคนซึ่งแต่ละคนจะผลัดกันชู้ตคนละลูกโดยจะยืนชู้ตบ้าง กระโดดชู้ตบ้าง ลอยตัวชู้ตบ้างหรือยืนชู้ตอยู่ไกลๆแล้วคนที่ต้องคอยวิ่งเก็บลูกก็คือฉัน “เกะกะ” ในตอนที่ฉันกำลังก้มเก็บลูกบาสอยู่นั้นก็ได้ยินน้ำเสียงห้วนๆที่แสนคุ้นเคยพอฉันเงยหน้าขึ้นไปก็เจอเจ้าของใบหน้าเย็นชาที่ไม่เคยจะมีรอยยิ้มหรือพูดดีๆกับฉัน ฉันทำเป็นไม่สนใจพี่เสือก่อนจะรีบเก็บลูกบาสที่เหลือต่อแต่เพราะพวกรุ่นพี่พากันซ้อมทีเดียวทั้งทีมฉันเลยเก็บลูกให้ไม่ทัน “เป็นเต่ารึไงขาสั้นแล้วยังจะอืดอาดอีก” ท่ามกลางสายตาของทุกคนพี่เสือที่ยืนอยู่กลางสนามก็หันมาว่าให้ฉัน น้ำเสียงของพี่เสือไม่ได้ห้วนเหมือนเมื่อกี้แต่หน้าหล่อๆนั่นก็ไม่มีความเป็นมิตรอยู่เลย ถ้าข้าวเป็นเต่าพี่ก็ต้องลิงแล้วล่ะ คนอะไรกระโดดเอากระโดดเอา ........ฉันแอบบ่นอยู่ในใจ “ใจเย็นดิวะมึงจะว่าให้น้องเขาทำไม” เป็นอีกครั้งที่รุ่นพี่ที่ชื่อนัทเข้าข้างฉันมันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย “แล้วไง” พี่เสือตอบอย่างหน้าตาเฉยก่อนจะเดินเข้ามาหยิบลูกบาสไปจากมือฉันด้วยสายตาที่โคตรจะเย็นชาคู่นั้น พี่เขาไปยืนอยู่ห่างจากแป้นบาสประมาณ 6-7เมตรแล้วกระโดดชู้ตลูกบาสเอาเป็นเอาตายอย่างกับจะเตรียมตัวลงแข่งทีมชาติแล้วพอพี่เสือชู้ตลูกบาสลงห่วงฉันก็ต้องคอยวิ่งไปเก็บใส่ตระกร้าเพื่อจะได้ให้นักกีฬาทีมชาติเขาซ้อมต่อ แฮ่กๆๆๆ ฉันหอบหายใจด้วยความเหนื่อยพลางยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลเหมือนคนพึ่งอาบน้ำมาใหม่ๆตอนนี้ตัวฉันเต็มไปด้วยเหงื่อแข้งขาก็ล้าไปหมดเพราะตั้งแต่ที่พวกพี่เสือลงซ้อมเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาฉันยังไม่ได้หยุดวิ่งเก็บลูกบาสเลย ไหนรุ่นพี่คนนั้นบอกว่าจะไปแค่แปปเดียวไง ฮื้อออ เหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ “มัวเหม่ออะไรอยู่ไม่เห็นหรอว่าไม่มีลูกบาสจะซ้อมแล้ว” ยังคงเป็นน้ำเสียงห้วนๆที่พี่เสือตั้งใจจะหาเรื่องฉัน ทั้งที่ลูกบาสก็ตกอยู่ใกล้ๆตัวเองแต่ก็ยังจะใช้ให้ฉันเก็บ “มึงให้น้องเขาพักบ้างดิวะน้องเขาเป็นผู้หญิงนะเว้ย” พี่นัทเดินเข้ามาอย่างหล่อ ถ้าไม่ได้พี่เขาช่วยพูดฉันคงจะยืนร้องไห้ไปแล้วแน่ๆ เมื่อวานที่เทน้ำลงมาใส่ฉันยังไม่สะใจพอหรอวันนี้ถึงยังอยากแกล้งฉันอีก “น้องข้าวไปนั่งพักก่อนก็ได้เดี๋ยวพี่ทำแทนเอง” พี่นัทพูดกับฉันด้วยสีหน้าที่เป็นมิตร พี่เขาดูใจดีกับฉันนะ แล้วก็ดูเป็นแกะดำในฝูง วันต่อมา ในที่สุดงานกีฬาสีที่นักเรียนทุกคนรอคอยก็มาถึง บรรยากาศในวันที่ไม่มีการเรียนการสอนเป็นไปด้วยความคึกครื้น นักเรียนแต่ละคนต่างก็สวมชุดพละที่เป็นสีประจำของตัวเอง ฉันเป็นคนนึงที่ชอบงานกีฬาสีของโรงเรียนเอามากๆเพราะนอกจากจะไม่ได้เรียนแล้วฉันยังได้ทำในสิ่งที่ฉันชอบ เสียงอึกทึกครึกโครมดังสนั่นหวั่นไหวทั่วทั้งโรงเรียนโดยเฉพาะเต๊นท์อำนวยการที่เป็นจุดเปิดเพลงอยู่ในตอนนี้มันช่วยสร้างสีสันให้งานกีฬาสีสนุกมากขึ้น “น้องๆแต่งตัวเสร็จกันหรือยังใกล้ได้เวลาแล้วนะ” รุ่นพี่ม.6 ที่ควบตำแหน่งประธานสีแดงของฉันยื่นหน้าเข้ามาในห้องแต่งตัว ไม่สิ ต้องเรียกว่าเร่งยิกๆตั้งแต่เช้าเลยล่ะ วันนี้ฉันทำหน้าที่เป็นหลีดประจำสีตอนนี้ฉันเลยอยู่ในชุดกระโปรงสั้นจู๋มองเห็นขาเรียวเล็กของฉันผ่านถุงน่องสีเนื้อ “เสร็จแล้วค่ะพี่เดี๋ยวพวกหนูตามออกไปนะคะ” เพื่อนที่เป็นหลีดด้วยกันชะโงกหน้าออกไป ก่อนที่พวกฉันจะออกมาจากห้องแต่งตัวพอเห็นว่ายังพอมีเวลาก่อนพิธีเปิดพวกฉันเลยพากันซ้อมเชียร์รอ พอจบสเต็ปการเชียร์ที่ซักซ้อมกันอยู่หลายวันในบรรดาหลีดทั้งหมดฉันเป็นคนเดียวที่ยืนหลังโค้งเป็นสะพานพร้อมกับฉีกขาข้างนึงขึ้นจนพวกผู้ชายที่อยู่บริเวณนี้ต่างก็พากันเป่าปากแซวฉันกันใหญ่ อย่างที่บอกว่าฉันไม่เอาไหนเรื่องเล่นกีฬาแต่ดันมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ฉันเลยฝึกเต้นและฝึกดัดตัวมาตั้งแต่เด็กๆเพราะงั้นแค่ทำสะพานโค้งแค่นี้เลยสบายมาก “ข้าวดูพวกรุ่นพี่พวกนั้นสิมองมาที่แกหมดเลย” เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ห้องเดียวกับฉันและเป็นหลีดด้วยกันหันมากระซิบกระซาบ อ่อ ลืมบอกไปว่าฉันกับดาวอยู่คนละสีกันนะ ดาวอยู่สีฟ้าแล้วดาวก็เป็นหลีดเหมือนกัน “ก็วันนี้ข้าวสวยแล้วก็น่ากินมากเลยนินา” เพื่อนอีกคนหันมาแจมด้วยอาจเป็นเพราะชุดที่ฉันใส่อยู่มันทั้งสั้นทั้งรัดเลยทำให้มองเห็นสัดส่วนของฉันแล้ววันนี้ฉันก็แต่งหน้าด้วยแต่ไอ้คำว่าน่ากินของเพื่อนฉันนี่มันยังไงยังไงอยู่นะ “ไปเหอะนู่นพี่หมวยเรียกแล้ว” ฉันพยักเพยิดหน้าไปที่ประธานสีที่กำลังเรียกพวกฉันให้ไปจัดแถวรอพิธีเปิดงานกีฬาสีประจำปีอย่างเป็นทางการ หลังจากพิธีเปิดเสร็จสิ้นฉันกับหลีดคนอื่นๆก็มาประจำที่สีของตัวเอง ตอนนี้กีฬาหลายชนิดกำลังแข่งขันกันอย่างเข้มข้นและสนุกสนานแต่กีฬาที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอดูโดยเฉพาะพวกผู้หญิงเห็นจะเป็นการแข่งบาสที่จะถึงในอีกไม่กี่นาทีเพราะรุ่นพี่ ม.5 กับ ม.6ลงแข่งกันหลายคนแถมแต่ละคนก็หน้าตาดีกันทั้งนั้นโดยเฉพาะพี่เสือพวกสาวๆในโรงเรียนรอให้กำลังใจเพียบ “นั่นไงแกพี่เขาเดินมานู่นแล้ว อร๊ายย….!โคตรเท่ห์เลยแกว่าไหม” “ใช่ พี่เสือของฉันใส่ชุดอะไรก็หล่อเนอะ ” อยู่ๆเพื่อนที่เป็นหลีดด้วยกันก็ทำท่าตื่นเต้นที่เห็นพี่เสือเดินมาจนฉันรู้สึกหมั่นไส้นิดๆ ตอนนี้พี่เสืออยู่ในชุดกีฬาเสื้อกล้ามสีดำทั้งตัวเป็นภาพที่ทำให้ฉันเผลอมองจนไม่กระพริบตา ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกผู้หญิงในโรงเรียนถึงได้พากันปลื้มพี่เสือนักหนาคงเพราะพี่เขาทั้งหล่อทั้งเท่ห์ล่ะมั้ง ดูเอาเหอะขนาดพี่เสือเดินมาเฉยๆแถมยังไม่เคยยิ้มสาวๆยังพากันกรี๊ดกร๊าด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม