บทที่ 4

1457 คำ
ภาพของเจ้านายที่เดินลงมาจากชั้นบนแต่เช้าตรู่ทำให้เหล่าคนงานที่เป็นห่วงนายจนไม่มีใครกล้าไปไหนไกลบ้านใหญ่ จำต้องพากันนอนค้างที่ใต้ถุนเพราะกลัวพวกคนเลวๆ จะวกกลับมาเล่นงานเจ้านายของพวกเขาได้อีก หากแต่ก็อดไม่ไหวที่ต้องชะเง้อมองหาใครบางคนที่ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้างแล้ว เพราะเมื่อคืนกว่าเสียงร้องของเอมอรจะเงียบหายไปก็เกือบตีสี่ หากเป็นคนเจนจัดเรื่องอย่างว่าก็คงมีความสุขราวกับได้ขึ้นสวรรค์มาตลอดทั้งคืนไม่ผิดแน่ แต่นั่นคงใช้ไม่ได้กับสาวน้อยไร้เดียงสา คงไม่ใช่เอมอรผู้ซึ่งไม่เคยมีแม้แต่แฟนคนแรก “เอ่อ…แล้วนังอรล่ะครับนายอยู่ที่ไหน นายจะให้พวกผมจัดการกับมันยังไงต่อดีครับ” นายดำที่ทำงานร่วมกับเจ้านายมานานหลายปีแถมยังเป็นคนที่สนิทกับเอมอรมากกว่าใครๆ เพราะเขาเองก็ชอบพอหญิงสาวไม่น้อยคือหน่วยกล้าตายเอ่ยถามก่อนจะก้มหน้าหลบแทบไม่ทันยามเมื่อสายตาไม่พอใจต่อคำถามของเจ้านายตวัดกลับมามองตนเองตาขวางเหมือนไม่พอใจคำถามของลูกน้องที่ดังขึ้นก็ไม่ปาน ใครต่างก็หวาดกลัวต่อสายตาคู่นี้ “ยังไม่ตาย! แล้วก็ไม่ต้องมีใครจัดการอะไรทั้งนั้น สำหรับเอมอรฉันจะจัดการเอง ส่วนอีกสองคนที่เหลือฉันอยากให้พวกแกไปสืบหาที่อยู่พวกมันมาให้ฉันโดยด่วน และต้องทำกันอย่างลับๆ ห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด! เข้าใจไหม!!” เมฆาตวาดสั่งก่อนจะนึกหงุดหงิดที่ได้เห็นท่าทีเป็นห่วงเป็นใยของลูกน้องที่มีต่อเอมอร มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าหล่อนเป็นที่ชอบพอของใครหลายๆ คนในไร่ แต่ตอนนี้หล่อนเป็นเมียของเขาแล้ว แม้จะไม่ได้รักไม่ได้ชอบแต่ใครกล้าไหนก็ห้ามแตะหรือแม้แต่จะซ้ำรอยกันก็ไม่มีสิทธิ์จนกว่าที่เขาจะเบื่อไปเอง และเมื่อถึงเวลานั้นเมื่อไหร่เธอจะไปนอนทอดกายถวายหัวให้กับผู้ชายหน้าไหนมันก็แล้วแต่เธอ “ครับนาย!” ทั้งหมดรับคำสั่งเป็นเสียงเดียวกันก่อนจะพากันแยกย้ายไปคนละทิศละทางเมื่อได้รับคำสั่ง เหลือเพียงแต่เมฆาที่ยังคงยืนนิ่งคิดไม่ตกอยู่ที่เดิมจนกระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นร่างของใครบางคนที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากป้าบัวแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของคุณแม่ของเขาเองจึงได้เอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นด้วยท่าทางเป็นกันเอง “ป้าบัว นี่ป้ากลับมาจากงานบุญเมื่อไหร่ครับ” เพราะอีกฝ่ายขอลากลับบ้านต่างจังหวัดไปงานบุญเกือบอาทิตย์ เขาจึงอดที่จะถามไม่ได้เมื่อเห็นแม่บ้านชรากลับมาก่อนกำหนดซึ่งจะถึงก็อีกสามวันข้างหน้า แม้จะพอเดาออกแต่ก็เลือกที่จะถาม “เดี๋ยวนี้เองค่ะ ป้าเพิ่งรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน! นายอย่าทำอะไรนังอรมันเลยนะคะ มันคงจะถูกนังอินพี่สาวบังคับเอาอีกตามเคย นังนี่มันหัวอ่อนค่ะ ป้าเลี้ยงมันมากับมือรู้นิสัยมันดี มันคงไม่ทำแบบนั้นถ้าไม่ถูกใครบังคับ!” คำพูดยาวเหยียดของแม่บ้านใหญ่ทำให้เมฆานิ่งไปครู่ เห็นทีว่าป้าบัวคงจะขอร้องช้าเกินไปหลายชั่วโมงเพราะตอนนี้คนดีของท่านไม่ใช่เด็กอ่อนเดียงสาอีกแล้ว แต่เธอเป็นเมียเขาไปแล้ว แถมยังเป็นหลายครั้งหลายคราจนสลบไปอีกด้วย ชายหนุ่มคิดก่อนจะตอบกลับไปตามความจริงที่ต่อให้อยากปิดก็คงไม่มิดอยู่ดี เพราะป่านนี้เรื่องที่เขาลากเอมอรเข้าห้องคงแพร่กระจายไปทั่วไร่ด้วยปากต่อปากแล้ว ปากคนช่างเป็นสิ่งที่ห้ามยากเหลือเกิน และมันคงเป็นเรื่องเดียวภายในไร่ที่เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้จากทุกๆ คน “คนผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิดครับป้า ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆ ในไร่จะเอาเยี่ยงอย่าง อีกอย่างต่อให้ถูกบังคับจริง! แต่เขาก็ได้เลือกแล้วนี่ครับว่าจะเลือกทรยศหักหลังผม!” เหตุผลของอีกคนทำเอาหญิงชราพูดไม่ออกไปนานหลายนาทีก่อนเอ่ยขึ้น “โถคุณเมฆคะ แต่ว่าป้า…” “เอมอรยังไม่ตาย! ถ้าป้าบัวเป็นห่วงผมอนุญาตให้ขึ้นไปดูได้ แต่ห้ามให้เธอออกไปไหนเด็ดขาดจนกว่าผมจะเป็นคนสั่ง ฝากด้วยนะครับผมมีงานด่วนต้องรีบไปทำ” เมฆาจำต้องรีบพูดดักขึ้นเพราะไม่อยากรับฟังอะไรอีกในช่วงเวลานี้ เวลาที่เขาไม่อยากจะรับรู้หรือแม้แต่ในยินชื่อของพวกคนทรยศสักเท่าไหร่ ทว่ายังไม่ทันจะได้เดินออกไปไหนเสียงของหญิงชราก็ดังขึ้นถามกันเสียก่อนทำให้ต้องหยุดชะงักเท้าลงเพื่อหันกลับไปตอบคำถามให้อีกฝ่ายที่ถามขึ้นเพราะไม่รู้ว่ายามนี้เด็กที่น่าสงสารไปอยู่เสียที่ไหนกันแน่ ไม่มีใครรู้นอกจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ “ขะ…ขึ้นเหรอคะ ขึ้นไปที่ไหน แล้วนี่นังอรอยู่ไหนคะ” “ห้องนอนของผมครับ!” คำตอบที่ได้รับทำเอาหญิงชราแทบเป็นลม นางข่มใจอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นมายังชั้นบนของตัวบ้านมุ่งหน้าสู่ห้องนอนของเจ้านายหนุ่มเดือดร้อนที่ไม่ค่อยมีใครจะได้เข้าไปง่ายๆ ภาพแรกที่ได้เห็นทำเอานางบัวแทบจะกลั้นน้ำตาแห่งความสงสารเอาไว้ไม่อยู่ สภาพของเอมอรที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยถูกย่ำยีทำให้นางต้องรีบโผเข้าไปใกล้แต่แค่เพียงสัมผัสร่างเปลือยเปล่าก็ต้องรีบชักมือออกอย่างรวดเร็วเมื่อพบว่าหญิงสาวตัวร้อนจัด วิ่งวนรอบห้องอยู่เป็นนานก่อนจะตัดสินใจเดินลงกลับมาที่ชั้นล่างเพื่อโทรตามใครบางคนที่น่าจะพอช่วยเหลือกันได้บ้างให้รีบมาที่นี่โดยด่วน ใครบางคนที่นางคิดว่าเธอน่าจะพอช่วยพูดให้เมฆาใจเย็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น! ไม่นานเกินรอแพทย์หญิงนงนาง คุณหมอสาวประจำตำบลที่มีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอกอีกทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเมฆาอีกด้วยก็มาถึงที่หมาย หญิงสาวไม่ได้ถามอะไรมากนอกจากเดินตามหญิงสาวมาจนกระทั่งถึงห้องนอนของเพื่อนสนิทที่บัดนี้มีร่างบอบบางของใครบางคนที่เธอพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้างนอนหมดสติอยู่บนเตียงในสภาพที่ไม่น่าดูชมเท่าไหร่ แค่เห็นเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวที่มีท่าทีหวาดกลัวคนตลอดเวลาตามสัญชาตญาณความเป็นหมอ “ฝีมือใครกันคะป้าบัว! ใครกันที่ทำกับเอมอรแบบนี้!!” คุณหมอสาวเอ่ยถามเสียงแข็งเมื่อเข้ามาเห็นสภาพของเอมอร เด็กสาวที่เธอเคยพบอยู่บ่อยๆ ยามเมื่อมาหาเมฆาเพื่อนสนิทที่ไร่แห่งนี้ของเขา แต่สภาพที่ได้เห็นตอนนี้นั้นทำให้ต้องรีบถามเพราะรู้ดีว่าร่องรอยตามเนื้อตัวของเด็กสาวที่กำลังนอนซมเพราะพิษไข้อยู่บนเตียงนั้นเกิดจากอะไร แต่ที่อยากรู้ในตอนนี้คือใครเป็นคนทำมันขึ้นมามากกว่า ใครกันช่างใจร้ายทำเรื่องบัดสีเช่นนี้กับเธอ “นังอรมันอยู่ห้องใครก็ฝีมือคนนั้นแหละค่ะ ป้าล่ะสงสารมันจริงๆ” นางบัวตอบไปตามความจริงไม่คิดปกปิด “เมฆเป็นคนทำเหรอคะ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ เล่าให้นางฟังหน่อยได้ไหมคะ” นางบัวถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเล่าเรื่องที่ตัวเองก็รู้มาจากเสียงซุบซิบนินทาของคนงานให้คุณหมอสาวฟังเพื่อหวังว่าอีกฝ่ายจะพอช่วยอะไรได้บ้าง เมื่อได้รับรู้ความสงสารเชลยสาวก็มีมากขึ้นพอๆ กับความโกรธเพื่อนรักที่เธอไม่คิดเลยว่าเมฆาจะร้ายกาจถึงขั้นนี้ได้ลงคอ ไม่เคยคิดเคยฝันว่าเพื่อนรักจะกล้าหักหาญน้ำใจคนในปกครองถึงขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม