บทที่ 1 หลบหนี
บทที่ 1 หลบหนี
ร่างบอบบางของหญิงสาววัยยี่สิบสี่ถูกเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรงด้วยฝีมือเหล่าคนงานชายสองคนที่กว่าจะตามจับแม่ตัวดีที่กำลังทำการหลบหนีความผิดกลับมาได้ก็เล่นเอาพวกเขาแทบจะพากันหมดแรงไปตามๆ กัน ผิดจากใครอีกคนที่กำลังนั่งไขว่ห้างเฝ้ารอการกลับมาของใครสักคนที่หนีไม่พ้นและจะต้องรับผิดชอบกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนด้วยท่าทีที่ใครก็ยากจะเข้าหน้าติด เมื่อเจอเข้ากับสายตาดุดันของผู้เป็นนายหนึ่งในสองคนงานจึงเอ่ยขึ้นด้วยรู้ดีว่าเจ้านายกำลังอยากจะรู้เรื่องอะไร
“นังอินกับไอ้ชาติมันสองคนหนีไปได้ครับนาย!” แววตาที่โกรธเคืองอย่างหนักแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ไม่สบอารมณ์ถึงที่สุดเมื่อได้ยินคำตอบที่เขาไม่อยากจะได้ยินจากลูกน้อง แต่ถึงกระนั้นก็ยังดีที่ว่ายังเหลืออีกคนที่คนของเขาสามารถจับตัวกลับมาที่นี่จนได้ใครอีกคนที่จะต้องรับความผิดทั้งหมดไปแต่เพียงคนเดียว!
“พวกแกสองคนออกไปก่อน! แล้วก็สั่งพวกที่เหลือว่าห้ามไม่ให้ใครเข้ามาถ้าฉันไม่เรียก!” สองชายฉกรรจ์พยักหน้ารับคำสั่งเจ้านายก่อนจะรีบพากันออกไปจากห้องปล่อยให้หน้าที่เค้นคนผิดเป็นของอีกฝ่ายไป เมื่อภายในห้องนอนใหญ่ที่ตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ย่างกายเข้ามาเลยสักครั้งตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัดคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งก็ถึงกลับเย็นวาบไปทั่วร่างเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เธอเองก็มีส่วนรู้เห็นไปกับมันอยู่บ้าง แต่ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอกใครออกไปสักคนได้รู้ด้วยความจำเป็นต้องเลือกระหว่างสายเลือดกับความถูกต้อง และเธอก็ได้เลือกมันแล้วในตอนนี้
เอมอร รักษ์คม หญิงสาวกำพร้าที่ถูกคุณหญิงสายใจกับพ่อเลี้ยงแสงชัยเก็บมาเลี้ยงพร้อมกับพี่สาวของเธอ อินทิรา สองเด็กสาวมีอายุห่างกันแค่สองปีแต่ดูเหมือนว่าอินทิราคนเป็นพี่จะได้รับความรักและความสนอกสนใจต่อผู้คนรอบข้างมากกว่าเธอที่เป็นน้องสาวแต่กลับมีนิสัยหวาดระแวงไม่กล้าเข้าสังคมกับใครๆ แม้สถานะของทั้งสองจะเป็นพนักงานของไร่ข้าวโพดแห่งนี้แต่การเอาใจใส่ของนายใหญ่ทั้งสองกลับมีให้มากกว่าคนงานปกติทั่วไป พวกท่านปลูกบ้านหลังเล็กๆ ให้เธอกับพี่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านใหญ่ที่นอกจากจะมีทั้งสองคนแล้วก็ยังมีใครอีกคนที่มีความสำคัญของเธอทั้งสองเป็นอย่างมาก หนำซ้ำยังส่งเสียให้เรียนจนจบมหาลัยอีกด้วยเธอทั้งรักและเทิดทูนท่านทั้งสองเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะคอยห่วงใยกันแล้วท่านยังไม่คิดรังเกียจที่พี่สาวของเธอกับเมฆา หรือคุณเมฆ ลูกชายของพวกท่านจะรักชอบกันอีกด้วย ทั้งสองดูเหมือนจะชอบพอใจในอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็น เช่นเดียวกันกับเธอที่ต้องทนอยู่กับความรู้สึกแอบรักคนรักของพี่สาวมาเพียงลำพัง แม้ว่าจะไม่มีเลยสักครั้งที่เขาจะชายตามองหา แต่กลับเป็นเธอที่คอยดูแลเขาในหลายเรื่องอย่างลับๆ โดยไม่ให้ใครรับรู้เพราะรู้ดีว่าตัวเองต่ำต้อยและไร้ความหมายเพียงใด
จนเมื่อนายใหญ่ของไร่จากไปด้วยอุบัติเหตุเมฆาจึงขึ้นมาแทนพ่อของเขา ชายหนุ่มจำต้องทำงานหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำไปพร้อมๆ กับความสัมพันธ์รักระหว่างเขากับพี่สาวของเธอก็ดูเหมือนจะดื่มด่ำและเป็นไปได้ด้วยดีถึงขนาดนั้นเขาประกาศจะแต่งงานกับเธอและมันคงเป็นเช่นนั้นไปแล้วหากไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น
เรื่องราวที่เธอต้องรู้สึกเจ็บปวดหัวใจทุกครั้งที่คิดถึงมัน
เพราะเมฆาเอาแต่ทำงานหนักมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้พี่สาวของเธอเกิดพบรักครั้งใหม่ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนนอกจากชาติชาย หัวหน้าคนงานภายในไร่คนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานที่ไร่แห่งนี้ได้ไม่นานแทนคนเก่าที่ขอลาออกไป
ทั้งสองแอบพบกันหลายต่อหลายครั้งลับหลังชายหนุ่มโดยที่มีเธอเป็นคอยดูต้นทางให้ด้วยถูกพี่สาวขู่บังคับให้ต้องทำ เธอจำต้องทรยศหักหลังเมฆาไปด้วยอีกคนพร้อมๆ กับแอบภาวนาให้พวกเขาสองคนสำนึกได้และจากกันด้วยดี แต่ดูเหมือนความภาวนาของเธอจะไม่สำเร็จเมื่อจู่ๆ วันนี้อินทิราพี่สาวก็วิ่งเข้ามาหากันพร้อมกับบอกว่าจะหลบหนีไปกับคนรักใหม่ของเธอด้วยทั้งสองคนนั้นกำลังจะมีลูกด้วยกัน เธอจำต้องยอมทำตามคำขอร้องของพวกเขาทั้งสองคนด้วยการวางยาเมฆาให้หลับเพราะหน้าที่ทำอาหารนั้นเป็นของตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยที่เธอจะทำเช่นนั้นได้ เมื่อเขาหลับไม่ได้สติแล้วเธอก็ยังต้องคอยดูลาดเลาให้พี่สาวกับคนรักของเธอแอบเข้าไปขโมยของมีค่าของเขาก่อนที่ทั้งสามคนจะพากันหลบหนีออกไปแต่ก็ยังไปได้ไม่เท่าไหร่เมฆากลับรู้สึกเร็วกว่าที่คาดและเขาก็ฉลาดเกินกว่าจะใช้เวลาเดาเรื่องต่างๆ ได้นานจนคนทำผิดพากับหลบหนีไปได้
เพราะทันทีที่คำสั่งสายฟ้าฟาดถูกสั่งออกไปทั่วทั้งไร่ก็เกิดชุลมุนยกใหญ่แทบจะทันทีก่อนเหล่าคนงานนับร้อยชีวิตจะพากันออกตามล่าตัวทั้งสามกระทั่งพบเข้าที่ท้ายไร่ อินทิราก็ยังไม่วายแสดงความเห็นแก่ตัวด้วยการขอร้องให้น้องสาวช่วยล่อคนงานไปอีกทางเพื่อที่เธอกับคนรักใหม่จะได้หลบหนีไปได้สำเร็จ เอมอรจำต้องยอมรับคำขอร้องของพี่สาวเพราะเป็นห่วงหลานในท้องที่กำลังจะเกิดมาอย่างไม่มีทางเลือก เธอจำเป็นต้องทำมันทั้งๆ ที่ใจไม่เคยมีเลยสักครั้งที่อยากจะคิดทรยศหักหลังบุตรชายผู้มีพระคุณ
เธอรู้ดีกว่าเมฆาเป็นคนอารมณ์ร้ายแค่ไหน เขาต้องไม่เอาพี่เธอไว้แน่หากรู้เรื่องลูกของชูกที่อยู่ในท้องเธอ หญิงสาวยอมอยู่ต่อเพื่อรับโทษด้วยการวิ่งล่อคนงานไปอีกทางกระทั่งถูกนายดำและนายอิฐคนงานที่เธอรู้จักดีจับตัวได้และพากลับมาในที่สุด
“ไงแม่ตัวดี! เธอมีอะไรจะสั่งเสียก่อนตายรึเปล่าเอมอร!!” น้ำเสียงเกรี้ยวโกรธของคนตรงหน้าดูเยือกเย็นกว่าทุกๆ ครั้งที่เขายอมลดตัวมาคุยด้วยนั้นทำเอาหญิงสาวตัวสั่นไปด้วยความกลัว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว
“ดี! ถ้าเธอไม่มีอะไรจะพูดฉันคงหมดคำพูดกับงูพิษอย่างเธอ!” น้ำเสียงดุดันเอ่ยขึ้นอีกคราเมื่อคนผิดตรงหน้าไม่แม้แต่จะพูดอะไร เธอไม่คิดจะร้องขอชีวิตจากเขาเลยด้วยซ้ำนั่นยิ่งทำให้ความโกรธเกลียดที่มีอยู่ภายในใจยิ่งเพิ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนอดใจไม่ไหวต้องเอื้อมมือไปคว้าเอาปืนพกสีดำที่วางอยู่ไม่ไกลตัวออกมาถือ เสียงบางสิ่งบางอย่างที่ดังขึ้นทำให้เอมอรต้องเงยหน้าขึ้นช้าๆ ก่อนดวงตาของหญิงสาวจะเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นเมฆาชี้ปืนในมือของเขามาที่เธอเหมือนจะบ่งบอกกันเป็นนัยๆ ว่าเขาพร้อมที่จะเหนี่ยวไกลคร่าชีวิตกันได้ตลอดเวลาก็ไม่ผิด ซึ่งเธอรู้ว่าเขากล้าที่จะทำมันจริงๆ เพราะคนอย่างเมฆาไม่เคยเกรงกลัวต่ออะไรทั้งนั้น
“ถ้าคุณเมฆจะฆ่าอร อรขอได้ไหมคะ ปล่อยพี่อินไป คุณเมฆอย่าทำร้ายพวกเขาสองคนได้ไหมคะ อรขอร้อง” แม้ในวินาทีสุดท้ายของชีวิตผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่วายเป็นห่วงพี่สาวที่รักตัวกลัวตายเอาตัวเองรอดหนีไปกับชู้แต่กลับปล่อยให้น้องสาวเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่เธอเพียงแค่มีส่วนร่วม แค่นั้นความผิดของเอมอรก็ร้ายแรงมาพอที่จะทำให้เขาเกลียดจนไม่อยากมองหน้ากัน
“งูพิษเลี้ยงไม่เชื่องอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาขอร้องฉัน!! เธอกล้าที่จะร่วมมือกับพี่สาวของเธอทำเรื่องชั่วๆ ถามจริงๆ เถอะ! บุญคุณที่พ่อกับแม่ฉันมีให้พวกเธอสองคนพี่น้องมันไม่ได้ช่วยทำให้จิตใจที่แสนจะต่ำทรามของพวกเธอคิดได้เลยรึไงหา!” คำด่าที่เสียดแทงใจทำเอาหญิงสาวแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ทำไมเล่าเธอจะไม่รู้สึกผิดต่อผู้มีพระคุณทั้งสองคน ในเมื่อทุกๆ วันก็เฝ้าภาวนาขอโทษท่านทั้งสองกับสิ่งที่จำใจต้องทำเพราะไม่อยากให้พี่สาวต้องถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงสองใจคบชู้สู่ชายลับหลังเขา เธอคิดแค่ว่าอินทิราพี่สาวจะคิดได้ว่าในที่สุดแล้วคงไม่มีผู้ชายคนไหนรักเธอได้เท่ากับผู้ชายคนนี้ แต่ใครเลยจะไปคิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ได้ เธอไม่เคยคิดเลยจริงๆ จนกระทั่งมันเกิดขึ้นจริงๆ และยากที่จะควบคุมหรือทำการเปลี่ยนแปลงอะไร
“ฮึก! อรขอโทษ…อรไม่ได้ตั้งใจ…”
“หุบปาก! อย่ามาพูดว่าไม่ได้ตั้งใจเพราะสิ่งที่เธอทำไปทั้งหมดมันคงจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าหากขาดความตั้งใจที่จะทำ! เธอตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้นเอมอร!!” หญิงสาวก้มหน้ารับความผิดโดยไม่คิดจะขอร้องอะไรเขาอีกเพราะความผิดที่เธอก่อเอาไว้มันหนักหนาสาหัสเหลือเกิน หนักหนาขนาดที่เธอยังไม่เคยคิดจะอภัยให้ตัวเองที่หักหลังเขา ทำร้ายลูกชายของผู้มีพระคุณอย่างเลือดเย็น
เธอรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์แต่ก็ยังเลือกที่จะทำ เพราะฉะนั้นจะโทษใครได้นอกเสียจากตัวเธอเองที่เห็นแก่สายเลือดมากกว่าบุญคุณ เธอเองที่เป็นคนตัดสินใจทำมันเอง
หญิงสาวหลับตาลงช้าๆ เฝ้ารอความตายอย่างใจเย็น หากวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของเธอมันก็ดีที่ได้ตายด้วยฝีมือของชายที่รัก แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะไม่เคยมองเห็นมันเลยก็ตาม ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา
ความรักที่แสนจะไร้ค่า…ของผู้หญิงที่แทบจะไม่เคยมีตัวตนอะไรในสายตาของเขาเลย