เสี่ยอ๊อด
ห้างสรรพสินค้าในตัวจังหวัดสุพรรณบุรี
ใบหน้าสวยเงยขึ้นจากราวแขวนเสื้อที่กำลังเลือก ก่อนจะหันไปมองเมื่อเพื่อนสะกิดที่แขน ตากลมโตมองตามนิ้วของดาราไปหยุดที่ผู้ชายสูงใหญ่คุ้นตาที่เดินเคียงคู่มากับหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่ใส่ชุดนักศึกษารัดติ้ว เรียกว่าเดินคู่คงไม่ถูก เพราะชายหญิงคู่นั้นกอดกันมาเลยก็ว่าได้ เป็นธรรมดาของ หนุ่มสาวที่จะแสดงความรักต่อกัน เพียงขวัญถอนหายใจเมื่อ ได้ยินประโยคถัดมาของเพื่อน เธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่สามีของเธอ
“เพียง... นั่นเสี่ยอ๊อดใช่ไหม มากับใคร เดินกอดกันมาเลย น่าเกลียดจริง ๆ จะเลือกตั้งอยู่แล้ว ทำไมไม่ระวังตัวเลย” ดาราบอกกับเพียงขวัญ และไม่วายว่าให้เสี่ยหนุ่ม คำพูดของดาราไม่ได้มีผลกับความรู้สึกของเพียงขวัญเลยสักนิด เพราะเธอเห็นภาพแบบนี้จนชิน แต่งงานกันมาสี่ปีเสี่ยอ๊อดเคยเป็นอย่างไ รก็เป็นอย่างนั้น เธอก็แค่เมียที่มีชื่อในทะเบียนสมรส แต่ชีวิตจริงไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลยสักนิด
“เด็กนั่นไม่น่าใช่คนที่นี่นะ หน้าไม่คุ้นเลย” ดารายังพูดต่อ เพื่อให้เพียงขวัญเห็นการกระทำของสามี แอบสะใจเมื่อเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนสีของเพื่อน
“อย่าไปสนใจเลยเพียง รีบ ๆ ซื้อของเถอะจะได้รีบกลับ ไปทำงาน” กรวีบอกกับเพื่อน เธอรู้ว่าเพียงขวัญรู้สึกอย่างไร แม้เพื่อนจะไม่พูดออกมาก็ตาม ดาราก็เหลือเกิน แทนที่จะ เห็นใจเพื่อนแต่กลับพูดแบบนี้ คนทั้งอำเภอต่างก็รู้ว่าเสี่ยอ๊อดเป็นคนเจ้าชู้ เด็กสาวที่มาด้วยคงเป็นเครื่องบรรณาการจากคน ที่ต้องการผลประโยชน์จากเขา
“ไม่ไปทักสักหน่อยเหรอเพียง นางเด็กนั่นจะได้รู้ว่าเสี่ย มีเจ้าของแล้ว” ดารายังคงยุ เธออยากให้เพียงขวัญลุกขึ้นมาอาละวาด เสี่ยอ๊อดจะได้อับอาย ถ้าสองคนนี้ทะเลาะกันบ่อย ๆ บางทีเสี่ยอาจจะหย่าเร็วขึ้นก็ได้
“ไปทางโน้นเถอะเพียง” กรวีดึงแขนเพื่อน เมื่อเสี่ยอ๊อดเดินมาทางนี้
เพียงขวัญยังยืนอยู่กับที่ ในหัวครุ่นคิดอะไรบางอย่าง บางทีเธอก็อยากแสดงตัวให้สามีเห็นเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ เพราะเสี่ยอ๊อดไม่เคยแคร์เธอเลยสักนิด
“เพียงครับ เพียง”
เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เพียงขวัญและเพื่อน ๆ ต้องหันไปมอง กมลชัยยืนอยู่ตรงนั้น ชายหนุ่มท่าทางเขินอาย เมื่อมองมาที่เธอ ในมือของเขามีเสื้อเชิ้ตอยู่สองตัว
“คะ?” เพียงขวัญขานรับ มองหน้าผู้อำนวยการหนุ่ม แล้วก็ต้องยิ้มอ่อน เมื่อเขายกเสื้อเชิ้ตในมือให้เธอดู
“ตัวไหนดีครับ” ถามอย่างเขินอายเมื่อสบกับตากลมโตของคนที่เขาแอบมองอยู่พักใหญ่
“ผอ.จะใส่ไปงานอะไรคะ” ถามเพราะจะได้เลือกสีให้เข้ากับงาน
“งานแต่งครับ”
“สีชมพูดีไหมวี” หันมาถามกรวี เพราะรู้ดีว่ากรวีรู้สึกอย่างไรกับคนตรงหน้า กรวีมองเสื้อในมือชายหนุ่มแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“ชมพูค่ะ” ช่วยเลือกเพราะอยากให้กมลชัยไปจากตรงนี้ ตอนนี้เสี่ยอ๊อดมาหยุดอยู่ใกล้ ๆ ตาคู่คมมองภรรยาคนสวย ก่อนจะบิดปากเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่กับเธอ
“รอแป๊บนะหนูนา เสี่ยเจอคนรู้จัก” พูดจบก็ปล่อยมือจากหญิงสาว แล้วเดินเข้ามาในวงสนทนา
“ไม่ยักรู้นะครับว่าข้าราชการออกมาชอปปิงในเวลาราชการได้ ระวังจะถูกร้องเรียนนะครับ” นายก อบต. ตั้งคำถาม และเป็นคำถามที่ทำให้คุณครูสาวต้องถอนหายใจ เธออุตส่าห์ทำเหมือนกับว่าไม่เห็นเขา แต่เสี่ยก็ยังมาหาเรื่องพวกเธออีก
“มาซื้อของเหรอคะเสี่ย” ดาราถาม
“มาทานข้าวครับ” เสี่ยหนุ่มตอบคำถามดารา แต่กลับจ้องหน้าภรรยาเขม็ง กรามแกร่งขบเข้าหากัน เมื่อเห็นเธอเดินไปหยิบเสื้อในมือกมลชัย
“ตกลงเอาตัวนี้นะคะ เดี๋ยวเพียงไปคิดเงินให้”
“ครับ” กมลชัยพยักหน้ารับ
“เพียง! ไม่สอนหนังสือหรือไง” เสียงดังใส่เมื่อเพียงขวัญทำเหมือนเขาเป็นอากาศ
“พักเที่ยงค่ะ” หันมาตอบแล้วดันรถเข็นออกไป กรวีกับกมลชัยเดินตาม เหลือแค่ดาราที่ยังทำท่าทางอาลัยอาวรณ์ เขาอยู่
“ดาจะคิดว่าไม่เคยเห็นเสี่ยที่นี่นะคะ”
คำพูดของดาราทำให้ศิระยกยิ้มมุมปาก ภรรยาเขายัง ไม่หึงหวง แล้วของเล่นอย่างดารามีสิทธิ์อะไร
“เด็กนั่นมาจากไหนคะ”
“ผมไม่จำเป็นต้องตอบ” พูดจบก็เดินจากไป
“ระวังนะเสี่ย ปลาย่างกับแมวอยู่ใกล้กันแบบนี้ สักวันแมวคงอดใจไม่ไหว”
“หมายความว่าไง”
คำพูดของดาราทำให้ศิระถามกลับทันที
“ดูไม่ออกเหรอคะว่า ผอ.บีกับยายเพียงสนิทกัน”
“เพียงขวัญเป็นเมียผม”
“ก็ถ้าเสี่ยละเลยเพียงมาก ๆ บางทีเพียงก็อาจจะคิดได้”
“ขอบคุณนะที่หวังดี กลับไปดูแลครอบครัวคุณเถอะ ไม่ต้องเผื่อแผ่มาที่ผม ผมรู้ว่าควรทำยังไง ไปกันเถอะ” พูดจบ ก็เดินกอดเอวณาราออกไป
“ผัวก็หยิ่ง เมียก็โง่” ดาราด่าตามหลัง
ศิระไม่แคร์เธอเลยสักนิด ครั้งหนึ่งเขาก็เคยหลงเธอหัวปักหัวปำ ถึงขนาดยอมเป็นชู้ เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะลืมเธอ ได้จริง ๆ ขนาดเพียงขวัญจืดชืดไร้รสชาติ เขายังไม่ยอมหย่า กับเธอเลย