เมียเสี่ย

1395 คำ
ณารามองคนที่เอาแต่นั่งดื่มเหล้าด้วยความไม่เข้าใจ วันนี้เสี่ยอ๊อดเปลี่ยนไป ตั้งแต่เข้ามาในรีสอร์ตเสี่ยก็เอาแต่ ดื่มเหล้า โดยไม่สนใจเธอเลยสักนิด ต่างจากทุกครั้งที่พอ เจอหน้ากันเสี่ยจะพาขึ้นเตียงทันที เธอรู้จักกับเขาในงานเลี้ยง เขาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หน้าตาหล่อเหลา เจ้าของงานบอกให้เธอดูแลเขา จึงมีคบหากันเรื่อยมา เธอจะมาหาเขาบ่ายวันศุกร์ และจะกลับมหาวิทยาลัย เย็นวันอาทิตย์ วันนี้ไม่มีเรียนตอนบ่ายจึงมาก่อนเวลา รถไฟของเสี่ยจึงชนกันขบวนใหญ่ ผู้หญิงที่ชื่อเพียงขวัญคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา ส่วนคนที่เหลือน่าจะเป็นของเล่นของเขา เสี่ยก็เหมือนของสาธารณะ ถ้าเสี่ยพอใจและผู้หญิง เล่นด้วยก็ได้หมด ใจหนึ่งเธอก็สงสารเมียเสี่ย แต่นี่มันคืองานของเธอ มีเสี่ยแค่คนเดียวได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ใครบ้างจะ ไม่เอา ร่างบางเดินเข้ามาหา หย่อนสะโพกลงบนตักกว้าง แขนเรียวคล้องคอเขาเอาไว้ จับหน้าเสี่ยหนุ่มให้หันมาทางเธอ ศิระยิ้มให้หญิงสาว วางแก้วในมือลงบนโต๊ะ เมื่อคนบนตักเริ่มไม่อยู่นิ่ง “มีเรื่องให้คิดเหรอคะ” ถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน มองตาเสี่ยหนุ่มอย่างเว้าวอน “อย่าใจร้ายกับหนูนาสิคะ หนูนาคิดถึงเสี่ยนะ” “ไม่มีอะไรหรอก รอแป๊บนะเสี่ยอาบน้ำก่อน” “ไม่ต้องค่ะเสี่ย หนูนาชอบกลิ่นตัวเสี่ย มันได้อารมณ์ดี” พูดจบก็เงยหน้าขึ้นมาปิดปากหนา ศิระยิ้มให้กับคำพูดและท่าทางเอาอกเอาใจของหญิงสาว แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกกังวล เมื่อนึกถึงใครอีกคน นอกจากเธอจะไม่หึงหวงเขาแล้ว ในสายตาของเธอยังมีแววเกลียดชังอยู่ในนั้น เมื่อก่อนเขายังเห็นความน้อยใจและเสียใจในดวงตาคู่นั้น แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าเขาเคยมีความ สัมพันธ์กับดารา เพียงขวัญก็ไม่ต่างจากน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ เย็นชาและไร้หัวใจ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้สมองด้านดีที่มีเพียง น้อยนิดก็สั่งให้เขาหยุด เพราะถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปเธอคงไม่เหลือความรู้สึกอะไรกับเขาอีกเลย ความเกลียดชังที่เธอมีให้ ทำให้เสี่ยหนุ่มรู้สึกดี เพราะอย่างน้อย ๆ เธอก็ยังมีความรู้สึก กับเขาบ้าง แม้มันจะเป็นความเกลียดก็ตาม ร่างสูงผละออกจากหญิงสาวเหมือนเป็นของร้อน “โอ๊ย!” ณาราร้องเสียงหลง เมื่อถูกผลักลงไปกองกับพื้น “เสี่ยเพิ่งนึกได้ว่ามีประชุม หนูนาพักผ่อนไปก่อนนะ เดี๋ยวเสี่ยมา” พูดจบก็คว้ากระเป๋าสตางค์และมือถือเดินออกไป ณารามองตาม แม้จะไม่พอใจแต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ เป้าหมายเธอไม่ได้อยู่แค่นี้ ถ้าเสี่ยหย่ากับเมีย นั่นก็หมายความว่าเธออาจจะได้ขึ้นไปอยู่ตำแหน่งนั้นก็ได้ “อดทนไว้หนูนา ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักเสี่ย อีกไม่นานคงหย่ากัน” ที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว... แต่เธออยากได้มากกว่านี้ เลิกงานแล้วแต่เพียงขวัญยังไม่อยากกลับบ้าน ครูสาวนั่งตรวจการบ้าน และเตรียมการสอนสำหรับวันพรุ่งนี้ ภาพของสามีลอยเข้ามาในหัว เธอแน่ใจว่าความรู้สึกที่มีต่อเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ความรักมันหมดไปตั้งแต่วันที่เธอรู้ว่าเขา มีคนอื่น ทุกวันนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เสี่ยไม่ยอมหย่ากับเธอ บางครั้งก็ไม่เข้าใจว่าจะทนเพื่ออะไร ทำเรื่องขอย้ายไปสอนที่อื่น เพื่อจะได้ไปให้ไกลไปจากเขา แต่ก็อีกนั่นแหละ... เสี่ยอ๊อดก็คือเสี่ยอ๊อด ถ้าเขาไม่พอใจ เธอก็คงหาความสงบในชีวิตไม่ได้ ทนมาตั้งสี่ปี... ทนต่ออีกนิดจะเป็นไรไป เด็กณารานั่นก็อยู่กับเสี่ยมานาน บางทีเสี่ยอาจจะคิดจริงจัง กับเธอก็ได้ ก็แค่รอเวลา... ครูสาวคิดในใจ ตากลมโตมองออกไปทางหน้าต่าง รถกระบะยกสูงสีดำยังจอดอยู่ที่เดิม นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เธอเบื่อหน่าย เสี่ยจะให้ลูกน้องมาเฝ้าเธอทุกวัน ในขณะที่เขามี คนอื่นไปทั่ว ทำร้ายจิตใจเธอสารพัด แต่เธอต้องซื่อสัตย์กับเขาคนเดียว นี่คือความเห็นแก่ตัวของเสี่ย ถามว่าเธอจะทนเพื่ออะไร คำถามนี้เพียงขวัญก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน “เพียงจะกลับยังครับ ฝนจะตกแล้วนะ” คำถามที่ดังมาจากหน้าประตู ปลุกเพียงขวัญให้ออกจากภวังค์ความคิด ครูสาวยิ้มให้ ผอ.หนุ่ม แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ฝนกำลังจะตกจริง ๆ เธอต้องรีบกลับบ้านเพราะขับรถมอเตอร์ไซค์มา “ผอ.ยังไม่กลับเหรอคะ” ถามแล้วรีบเก็บของลงกระเป๋า “กำลังจะกลับครับ” “เพียงทำให้ ผอ.ลำบากหรือเปล่าคะ” เพียงขวัญรู้ว่า ที่กมลชัยไม่กลับบ้าน ก็เพราะเป็นห่วงเธอ “ผมอยู่เตรียมวาระการประชุมครับ จะลอยกระทงแล้ว คงต้องเชิญคณะกรรมการสถานศึกษามาหารือร่วมกัน เรื่อง จัดงานโรงเรียนครับ” “ขอโทษนะคะ เพียงลืมเรื่องนี้ไปเลย” “ผมให้ครูวีจัดการแล้วครับ เพียงครับถ้าเพียงมีอะไร ไม่สบายใจ...” “ไม่เป็นไรค่ะ ผอ. เพียงโอเค” เพียงขวัญขัดขึ้น เพราะไม่อยากให้กมลชัยพูดอะไรไปมากกว่านี้ สถานะที่เธอเป็นอยู่คง ไม่เหมาะสมกับคนดี ๆ อย่างเขา ผอ.เป็นคนดีก็ต้องคู่ควรกับ คนดี ๆ เช่นกัน “เพียงกลับก่อนนะคะ เรื่องงานลอยกระทง เพียงจะช่วยวีอีกแรง ขอโทษที่บกพร่องในหน้าที่นะคะ” เพราะกิจกรรมลอยกระทงคือโครงการของเธอ เพียงขวัญจึงรู้สึกผิดที่มัวแต่คิดเรื่องตัวเองจนลืมเรื่องของส่วนรวม กระบะสีขาวคันใหญ่ขับเข้ามาในโรงเรียน เมื่อเพียงขวัญก้าวลงมาจากอาคาร คนขับโดดลงมาจากรถ แล้วสั่งให้ลูกน้องที่อยู่หน้าประตูช่วยกันยกรถมอเตอร์ไซค์ของครูสาวขึ้นรถ เพียงขวัญทำได้เพียงยืนกำมือ เพราะทำอะไรไม่ได้ ร่างบางเ ดินมาที่รถเปิดประตู แล้วขึ้นไปนั่งคู่คนขับ กลิ่นแอลกอฮอล์ ผสมกับน้ำหอมราคาแพงลอยมาเข้าจมูก “ฮัดชิ่ว!” ครูสาวใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากแล้วจามออกมา ชุดใหญ่ เพราะน้ำหอมที่อยู่บนตัวเขาไม่ได้มีแค่กลิ่นเดียว เสี่ยหนุ่มมองซีกหน้าภรรยา เธอเป็นภูมิแพ้ อีกหน่อยก็คงแน่นจมูกแล้วหายใจไม่ออก มือหนาเปิดลิ้นชักแล้วหยิบบางอย่างออกมาส่งให้ “ทาซะจะได้ไม่เป็นหวัด” เพียงขวัญมองขวดสีฟ้าที่อยู่ในมือของเขา รับมาแต่ยังเมินเฉย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจที่เขามีของพวกนี้ติดรถเอาไว้ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ขวดน้ำมันหอมระเหยในมือถูกวางลงในที่วางแก้วน้ำ ครูสาวเปิดกระเป๋าแล้วหยิบหน้ากากอนามัยขึ้นมาสวม หลับตาลงเมื่อไม่อยากเห็นหรือฟังอะไรทั้งนั้น เธอไม่ต้องการความห่วงใยจากเขา แม้แต่อากาศก็ไม่อยากหายใจร่วมกัน หัวใจแกร่งกระตุก เมื่อเห็นการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา เขาอุตส่าห์เสียเวลามารับ แต่เธอทำแบบนี้กับเขาอย่างนั้นเหรอ กรามแกร่งขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน เกลียดเขานักใช่ไหม “เสี่ย!” เพียงขวัญสะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกกระชากแขนอย่างแรง ร่างบางหันมาเผชิญหน้ากับเขา มือหนาดึงหน้ากากอนามัยออก แล้วขว้างมันไปให้พ้นทาง ริมฝีปากสีคล้ำประกบลงมา บนกลีบปากสีชมพูเต็มอิ่มอย่างแรง ศิระรู้ดีว่าริมฝีปากแสนหวานยั่วยวนนี้มีเพียงลิปมันเคลือบไว้บาง ๆ เท่านั้น เขาคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์แตะต้องมัน แม้เจ้าของจะไม่เต็มใจก็ตาม “อื้อ...” มือบางทุบตีอกแกร่ง ตกใจจนแทบสิ้นสติที่ถูก จู่โจมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม