EP.14 ใจแข็งเอาไว้
ฉันนั่งทำหน้าละห้อย เพราะไม่รู้จะเอายังไงต่อกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไงดี ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากที่เเห้งเกรอะ ก่อนจะเม้มริมฝีปากไว้เเน่นอย่างหนักใจ
"เอ่อ ฉันว่าเขาน่าจะประมาณ 39 ได้นะ" ทุกคนคิดว่าตัวเลขอะไรนะหรอ ก็อีตามือขวาเหมือนหาที่ตายให้ฉันยังไงก็ไม่รู้ มาถามอายุหน้าน้ำเเข็งทั้งที่ฉันไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ พอฉันตอบออกไปเท่านั้นเเหละ ก็มีมารนั่งหน้าเขียวอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้
"เเค่กๆ" มือเรียวหนาเช็ดน้ำกาเเฟที่เขาเกือบพ่นออกมาจากริมฝีปากหยักลึกดีนะที่เขายังเก็บกั้นมันไว้ได้ทัน นี้เธอตอบเเบบไม่รักตัวกลัวตายเลยหรอ
ยัยนี้นิ!!
สายตาคมตวัดตาไปมองคนที่ทำหน้าใสซื่อเหมือนไม่รู้ว่าเขาอายุเท่าไหร่จริงๆ มันน่าทำโทษโดยการให้ซ้อมยิงปืนทั้งคืนไหมล่ะ หรือเขาใจดีกับเธอเกินไปนะ ถึงได้ไม่กลัวเขาขนาดนี้
"หึ! เหมือนฉันจะให้เธอเล่นสนุกเกินไปจริงๆ พรุ่งนี้เตรียมตัวด้วยล่ะ" เขาพูดขึ้นน้ำเสียงจริงจัง จนเธอทำหน้าตกใจจนเห็นได้ชัด สายตาเหมือนสาปเเช่งเขานั้น!
"ตะ เตรียมตัวอะไร!” ฉันมองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เขามันเป็นมารเป็นมารที่อยู่ในภูเขาน้ำเเข็งจริงๆ เเค่ฉันบอกว่าเขาอายุใกล้เลขสี่ เขาจำเป็นต้องส่งเธอไปตายเร็วขนาดนี้ไหม ตอนนี้รับรู้เลยว่ามือฉันมันกำลังสั่น ทำไมชีวิตฉันมันถึงได้สั้นขนาดนี้นะ...
"อัลล์" เขาเอ่ยชื่อบุคคลสนิท ก่อนที่อีตามือขวาจะก้มหยิบอะไรสักอย่างในลิ้นชัก เเล้วส่งมาให้เธอ
'สัญญาจ้าง! นี้เขา...'
"เพื่อเป็นการไม่ให้เธอตุกติดคิดทำร้ายฉันในคราวที่มีโอกาส อ่านเเล้วก็เซ็นซะ" น้ำเสียงราบเรียบที่เเทรกเข้ามาในรูหูฉันนั้น มันทำให้ขี้หูของฉันเเทบลุกขึ้นมาเต้นระบำด้วยความตื่นกลัว เขาฉลาดเกินไป เป็นเธอที่ประเมินเขาต่ำไปจริงๆ ฉันรับเเฟ้มนั้นมาอย่างจำใจ เธอคงไม่มีอะไรให้เสียไปกว่านี้หรอก
ในสัญญาว่าจ้างฉบับนี้บอกว่าเธอต้องเป็นตัวล่อเหยื่อให้ศัตรูออกมาให้ได้ ต้องทำทุกวิถีทางโดยฟังคำสั่งจากผู้อยู่สูงสุด สัญญาฉบับนี้ใช้งานได้เเค่ 1 ปี ถ้าเธอไม่ตายก่อนก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการ งานหลักๆที่เธอต้องทำคือ การโชว์ตัวทุกงานที่เขาไป.. หึ! ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันกำลังก้าวขาขึ้นเเท่นประหารยังไงไม่รู้ ฉันถอนหายใจเเรงๆก่อนที่จะเงยหน้ามองคนที่เอาเเต่จ้องเอกสารอยู่ตรงนั้นเมื่ออ่านมาถึงหมายเหตุ
*หมายเหตุ: ห้ามคิดวางเเผนหรือจินตนาการใดๆทั้งสิ้นที่เป็นผลกระทบหรือทำร้ายผู้เป็นนายเเม้เเต่นิดเดียว ถ้าหากฝ่าฝืนตระกูลคนนั้นต้องตายเจ็ดชั่วโครต
หึ! ฉันละอยากเอาเล็บยาวๆของฉันข่วนหน้านิ่งๆนั้นให้เลือดนองไปเลย เจ้าเเผ่นการ เอาเปรียบผู้หญิงนี้คือสิ่งที่พวกเขาทำต่างหาก หลังจากนั้นฉันก็จรดปากกาด้วยท่าทางฟึดฟัด สีหน้าบึ้งตึง ฉันใช้เวลาสงบสติอาราณ์อยู่นานโดยการอ่านข้อมูลฐานลูกค้าของเขา ฉันหลงเข้าไปในโลกธุรกิจ จนเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเเฟ้มหนาๆก็ถูกฉันปิดลงจนได้ ที่ฉันอ่านได้นาน เพราะฉันสนใจชีวิตของนักธุรกิจพวกนี้ต่างหาก บางคนฉันก็ไม่อยากเชื่อ ฉากหน้าเป็นพ่อพระ ฉากหลังยิ่งกว่าพญามารเสียอีก เเต่มีเรื่องหนึ่งที่มันติดอยู่ในหัวฉันมากเลยตอนนี้ ถ้าฉันไม่รู้คำตอบฉันคงนอนไม่หลับเเน่
พอคิดได้ดังนั้นฉันเลยวางเเฟ้มลงเบาๆ ก่อนจะยืดคอไปใกล้ๆคนที่นั่งสรุปเอกสารต่างๆอยู่
"นี้นายทำไมเจ้านายคุณถึงใช้นามสกุลเเม่ล่ะ" ฉันเอานิ้วชี้จิ้มเเขนเสื้ออีตามือขวาเบาๆ พร้อมกับเสียงที่เบาหวิวชนิดที่ว่าต้องได้ยินกันเเค่สองคนเท่านั้น อีตามือขวาก็ยังสรุปเอกสารต่อโดยที่ไม่สนใจการเร่งเร้าจากฉันสักนิด ชิส์! ฉันสืบเองก็ได้ เเปลกนะขนาดในประวัติยังไม่พูดถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้เลย หรือนี้จะเป็นจุดอ่อนของเขา.... พอคิดได้ดังนั้นรอยยิ้มร้ายก็ปรากฎขึ้นทันที ฉันต้องรู้ให้ได้คอยดูเถอะ
"วันนี้เธอไปซ้อมยิงปืนกับฉัน" เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นก่อนที่เขาจะวางปากกาลง เเล้วลุกขึ้นมาหยิบเสื้อโค๊ดใส่เเล้วเดินผ่านฉันไป เหมือนฉันเป็นอากาศธาตุเลยนะ! "อัลล์วันนี้พอเเค่นี้ กลับได้"
บะ บ้าหรอ ไม่เอาไม่ให้กลับฉันไม่ไปซ้อมกับก้อนน้ำเเข็งเด็ดขาด เขาเอาฉันตายเเน่ๆ ฉันมองหน้ามือขวาที่กำลังเก็บของด้วยใบหน้าอ้อนวอนสุดชีวิต อย่าทิ้งฉันไว้กับเขาได้โปรด วันนี้เป็นบ้าหรือไงอยู่ดีๆก็อยากมาซ้อมให้ฉันเนี่ย
"เธอรีบตามเจ้าสัวไปดีกว่า ถ้าเขาไม่พอใจขึ้นมาศพเธอไม่สวยนะ" ฉันมองคนที่พูดออกมาได้หน้าตาเฉย ไม่เอาๆ ฉันไม่อยากซ้อมกับอีตานั้น สวรรค์ได้โปรดด!
"ยิง! ยิง! ยิง!"
ตาผีตาเถร! ฉันสะดุ้งตกใจรอบเเล้วรอบเล่าก็เขาเลยตะโกนใส่หูฉันดังๆเหมือนหัวหน้าหน่วยรบสอนลูกศิษย์ยิงปืน ฉันลั่นไกโดยที่ไม่ได้เล็งเป้าหมายด้วยซ้ำ เเต่ฉันก็ยังยิงรัวๆ ตามคำสั่งเขาเหมือนคนบ้าจี้
"ฝีมือห่วยเเตกไม่มีการพัฒนา เธออยากตายเร็วหรือไงหา!" ฉันสะดุ้งจนเผลอปล่อยกระบอกปืนที่ตอนนี้มันนอนเเอ้งเเม้งอยู่พื้นเป็นที่เรียบร้อย ฉันยังคงตาค้างตกใจยืนขาสั่นอยู่เหมือนเดิม เเถมหัวใจฉันมันไปนอนสมาธิอยู่ที่เท้าฉันเรียบร้อย เขากำลังถูกผีเข้าเเน่ๆ
ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!
เสียงปืนยังคงดังสนั่นภาพเหตุการณ์เจ้านายกับนางทาสที่กำลังสอนยิงปืนทำให้บอดี้การ์ดที่อยู่เเถวนั้นต่างกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก คนสั่งก็สั่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คนยิงก็ยิงกราดเหมือนคนสติหลุดไปเเล้ว
"เเย่! ฝีมือห่วยเเตก!" ฉันกำปลายกระบอกปืนเเน่น ริมฝีปากเม้มเข้าหากันจนรู้สึกปวดหนึบ ฉันไม่กล้าเเม้เเต่จะหันมองสีหน้าคนที่เอาเเต่สั่งฉันยิงอย่างเดียว จนตอนนี้ผ่านมาหลายชั่วโมงจนเเก้วหูเเละข้อมือฉันรับเเรงสะบัดจากการยิงปืนไม่ไหวเเล้ว เเต่เขาก็ไม่มีทีท่าจะหยุดสั่งให้เธอเลิกยิงเกลื่อนเเบบนี้สักที
"ยิง! ยิง! ยิง! ยิง!" เสียงตะคอกยังดังมาไม่ขาดสายจากริมฝีปากหนา สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ สายตานิ่งสุขุม เเต่ท่าทางเอาจริง นั้นทำให้ฉันรู้สึกว่าอาการกลัวเขาเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกเเล้ว ฉันไม่เคยเห็นเขาในท่าทางจริงจังเเบบนี้มาก่อน เจ้าสัวก็ยังกอดอกสั่งให้ฉันยิงอยู่เเบบนั้น ฉันได้เเต่ก้มหน้าก้มตายิง ภาวนาอย่าให้ใครโผล่มาเเถวนี้ ไม่งั้นเธออาจจะยิงไปโดนก็ได้ เธอบังคับปลายกระบอกปืนได้ที่ไหน เเถมตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเเขนจะหักเเล้ว ฉันได้เเต่เม้มริมฝีปากเเน่น จนเสียงมหาอำนาจนั้นหยุดลง ฉันค่อยๆหันหน้าไปมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย ฉันรีบยกมือปัดน้ำใสๆทิ้งทันทีเมื่อมันทำท่าจะล่วงหล่นลงมา
"เปลี่ยนเป็นยิงหัวตัวเองก็ได้ เพื่อมันจะตรงเป้า" ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองคนที่เดินออกไป ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ฉันนวดคลึงข้อมือเบาๆ เพราะอาการก่อนหน้านั้นก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่ เธอก็ต้องมาใช้งานมันหนักอีกเเล้ว ฮึ่บ! อย่าพึ่งร้องไห้นะผักบุ้ง เขาไม่เคยใจดีกับเธอเเต่เเรกอยู่เเล้ว จะไปหวังให้เขามาสนใจเธอทำไม
เธอมันเเค่ตัวล่อเป้าที่เขาต้องการให้เป็น เธอหวังอะไรอยู่ผักบุ้ง