ทั้งสองอ้าปากค้างด้วยความเสียวซ่านประสานกันระงมไปทั่วห้องนอนกว้าง ต่างรับต่างรุกโยกกายถี่ ๆ ตามแรงอารมณ์
ความพิศวาสได้รุกเร้าเข้าหากันอย่างรุนแรง ก่อนที่กายสาวจะเกร็งกระตุกเสร็จสมคาท่อนเนื้ออวบใหญ่แข็งคึกของเขาอย่างรุนแรง
เธอเบียดกายเข้าหาท่อนชายด้วยความเสียว มือบางกดที่หน้าท้องแกร่งเอาไว้แน่น ส่ายสะโพกหมุนวนตอดรัดท่อนชายด้วยร่องสวาทเป็นจังหวะถี่ ๆ ทำเอาหอยร้องครางออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“คราวนี้ก็ตาผัวละนะ” ประโยคของหอยคือการโอบอุ้มสะโพกผายของเมียรักขึ้นไปให้ห่างจากการแนบชิดเล็กน้อย เขาเล็งเป้าให้ตรงแล้วระรัวจังหวะรักขึ้นไปหา ทำเอาคนที่อยู่เหนือร่างครวญครางไม่เป็นภาษาจนแทบขาดใจคาอกแกร่งเสียตั้งแต่ตอนนั้น
“อูว์... พี่หอยจ๋า เมียกำลังจะตายแล้วจ้ะ”
“ผัวก็เหมือนกันจะตายแล้วร่องเมียตอดของผัวจนเสียวไปหมดเลยจ้ะ” หอยร้องบอกเสียงสั่นระริกกระแทกกายถี่ยิบแบบถวายหัว
“อ๊าย... ผัวจ๋า เมียเสร็จอีกแล้วจ้ะ” เธอร้องครางสุดเสียง สั่นกระตุกหอบหายสะท้านอยู่บนร่างของผัวรักอีกครั้ง
“ให้ผัวขึ้นให้เมียนะ” เขาร้องบอกเธอ อยากขึ้นขย่มเธอบ้าง
“ได้สิจ๊ะพี่หอยคนดีของเมีย” หนูนารับคำอย่างว่าง่าย เธอขยับกายไปนอนหงายเปิดขาอ้ากว้างเพื่อให้เขาสอดแทรกท่อนกายชายเข้ามาในร่องสวาท
หอยคุกเข่าทับส้นเท้าก่อนจะสอดแทรกท่อนกายเข้าไปในร่องสวาทของเมีย
“อ๊า... พี่หอยจ๋า” เธอร้องครางก่อนจะอ้าปากค้างเพราะเขาเสียดสีส่วนปลายของความแข็งแกร่งกับปากถ้ำสวาทก่อนจะมุดเข้ามาจนหมดลำ
ร่างน้อยของเธอหยัดสะโพกรับด้วยความเสียวซ่านสุดใจ ในขณะที่เขากอดรัดร่างน้อยแนบอกอย่างแนบแน่น
เธอกอดตอบเขาอย่างแนบแน่นไม่แพ้กัน ร่างแกร่งของเขาเริ่มโยกกายเข้าหาอย่างรุกเร้ารุนแรงเป็นจังหวะถี่ยิบ โยกคลอนจนเธอร้องครางไม่เป็นภาษา
ก่อนที่เขาจะเหยียดขาตรงเพื่อบดเบียดเนื้อกายชายให้ลึกเข้าไปในร่องเสียวมากยิ่งขึ้น
จังหวะรักของผัวทำเอาหนูนาร้องครางไม่เป็นส่ำ ร่างกายของทั้งสองโยกคลอนเข้าหากันอย่างรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ
หนูนาร้องบอกผัวรักว่าเธอกำลังจะเสร็จสมอีกครั้ง หอยก็รีบบอกเมียอย่างเอื้อเอ็นดูว่า
“เสร็จเลยจ้ะเมียจ๋า ผัวจะเอาเมียแบบถวายหัวเลย” หอยโยกคลอนร่างกายเข้าออกในร่องถี่ยิบจนหนูนาหวีดร้องไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้าอย่างรุนแรง
“คุกเข่าให้ผัวเอาต่อนะ ผัวยังไม่เสร็จเลย”
“ผัวอึดจังเลยจ้ะ” แม้ปากจะพูดแบบนั้นหนูนาหน้ามนในร่างคนสวยก็คุกเข่ากระดกก้นให้ผัวสอดเสียบเข้ามาทางด้านหลัง
เธอร้องครางด้วยความซี้ดเสียว ใบหน้าเหยเกเพราะจุกกับท่อนใหญ่ที่สาวเข้าสาวออกในร่องเสียวฉ่ำเยิ้ม ไม่นานเธอก็ตรงดิ่งไปพานพบกับสวรรค์อีกครั้ง
“ยกขาขึ้นพาดบ่าของผัวสิจ๊ะเมียจ๋า” หอยร้องบอกเขาอยากเสร็จสมในร่องรักของเมียในท่วงท่านี้
เธอก็ยอมนอนหงายยกขาขึ้นพาดบ่าของเขาในทันที เพียงแค่เขาฝากฝังเข้ามา เธอก็ถึงกับอ้าปากค้าง มันเสียวซ่านจนร้องไม่ออกเมื่อเจอท่อนใหญ่ ๆ เข้าเสียบในร่องเต็ม ๆ ลำ
“อ๊าย... พี่หอยจ๋า ฉันทนไม่ไหวแล้วจ้ะ”
“ทนหน่อยเมียจ๋า ผัวจะพาเมียไปถึงสวรรค์เร็ว ๆ นี้แหละ”
“แล้วพี่หอยล่ะจ้ะ อ๊า...” ถามไปครางไปไม่ขาดปาก
“พี่ก็จะตามเมียไปด้วยไงจ๊ะ” สิ้นประโยคของหอยเธอก็เกร็งกระตุกเสร็จสมคาท่อนกายของเขาอีกรอบ ในขณะที่เขาเร่งเร้าบอกเธอว่ากำลังจะเสร็จแล้ว
“ผัวจะเสร็จแล้ว ไม่นานเขาก็อัดกายเข้าหาอย่างมิดเม้นปลดปล่อยน้ำรักเต็มร่องเมียเต็ม ๆ” เขาครางยาว ซวนซบอกเมียอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ในขณะที่หนูนากอดรัดร่างผัวเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน
ทั้งสองกอดจูบลูบคลำกันอีกครั้งเพื่อสั่งลาเพราะต้องออกจากร่างของธีระและกมลชนกแล้ว
“ที่เราทำกันเมื่อกี้ จะเอายังไงดีพี่” หนูนาเอ่ยถามหอยอย่างปรึกษาหารือ
“ก็ทำให้เป็นความฝันเสียสิ” แล้วหอยก็เนรมิตให้ธีระกับกมลชนกฝันว่าได้ร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน
ตื่นเช้าขึ้นมาทั้งธีระและกมลชนกก็หน้าแดงร้อนผ่าวในทันทีที่ได้สบตากัน ไม่คิดว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาจะฝันไปว่าได้ร่วมรักกับอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน
ความรู้สึกลึก ๆ เกิดขึ้นในหัวใจ นั่นทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกหวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกัน วิญญาณทั้งสอง ทั้งหอยและหนูนาก็มักจะสร้างบรรยากาศอันโรแมนติกหรือปัดข้าวของให้ตก หรือทำอะไรต่าง ๆ นานาให้กมลชนกหกล้มบ้าง ปวดท้องบ้าง จะได้ให้ธีระเข้ามาช่วยเหลือ
ธีระเป็นคนดีอยู่แล้วก็เข้าช่วยเหลือจนได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม ทั้งดูแลยามป่วย ทั้งทำอาหารให้กิน ทั้งช่วยทำงานบ้านอย่างไม่เกี่ยงงอน เพียงไม่นานทั้งสองก็มีใจให้กัน
กมลชนกรู้สึกว่าธีระคือคนที่ใช่ เธอนอนคิดเรื่องของเขาแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คิดว่าคืนนี้คงนอนไม่หลับเป็นแน่เพราะเอาแต่คิดเรื่องของธีระ เธออยากพาเขาไปทำความรู้จักกับมารดาและน้อง ๆ ทั้งสามเหลือเกิน
กมลชนกคิดว่าจะนอนไม่หลับ แต่สุดท้ายก็นอนหลับลงในที่สุด
เธอเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ นาฬิกาปลุกหัวเตียงบอกเวลาหกโมงเช้า เธอสะดุ้งตื่น ก่อนจะบิดตัวไปมา การเป็นครูนั้นต้องไปโรงเรียนตั้งแต่เช้านั่นเป็นสิ่งที่ครูทุกคนควรกระทำ อาชีพครูไม่เหมือนอาชีพข้าราชการอาชีพอื่นที่เข้าทำงาน 8.30 น. และกลับ 16.30 น. แต่อาชีพครูต้องไปคอยรับนักเรียน ไปยืนแถวหน้าเสาธง ต้องไปตั้งแต่เจ็ดโมง รอให้นักเขียนกลับบ้านหมดเสียก่อน ห้าโมงหกโมงเคลียร์งานการบ้านเด็กนักเรียนอีก ถ้าทำไม่ทันก็ต้องแบกกลับมาตรวจที่บ้าน เธอเคยเห็นคุณครูที่นับถือและเคารพรักมาก ๆ แบกสมุดการบ้านเด็กนักเขียนใส่กระสอบมัดท้ายรถมอเตอร์ไซค์เก่า ๆ เพื่อพากลับไปตรวจที่บ้าน
เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวเพียงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จสิ้นภารกิจในตอนเช้า พอลงมาด้านล่างก็เจอกับธีระ เขาเดินออกมาจากห้องครัวพอดิบพอดี
“อ้าว... คุณนกจะไปทำโรงเรียนแล้วเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ นกไม่อยากไปทำงานสายน่ะค่ะ”
“เพิ่งจะหกโมงกว่าๆ เองนะครับ กินข้าวต้มหมูสับก่อนเถอะครับ ผมทำเผื่อคุณนกด้วย”
“อุ๊ย! เกรงใจจังเลยค่ะ” เธอรู้สึกว่าตัวเองตื่นสายไปในทันที เพราะลงมาเขาก็ทำอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงตื่นมาทำตั้งแต่หัวรุ่ง
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ เราอยู่ร่วมบ้านกัน มากินพร้อมกันครับ ยังมีเวลาอีกเยอะครับ”
“ค่ะ” เธอนั่งรับประทานข้าวต้มหมูสับของเขาก่อนจะเอ่ยชม
“อร่อยจังเลยค่ะ คุณธีนี่ทำอาหารอร่อยทุกอย่างเลยนะคะ”
“เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ” เขายิ้มรับก่อนจะอาสาอย่างมีน้ำใจ
“คุณไม่ไปทำงานเหรอคะ”
“ไปครับ แต่ผมเข้าหมู่บ้านครับ วันนี้เลยไม่ต้องรีบ”
“ดีจังเลยค่ะ” เธออมยิ้มให้เขา
“เมื่อคืนนอนหลับสบายไหมครับ”
“หลับสบายดีค่ะ”
“แล้วเอ่อ... คุณคุยกับวิญญาณได้จริงๆ เหรอครับ” เขายังติดใจเรื่องที่เธอเคยบอกว่าคุยกับวิญญาณได้
“จริงค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขาทำหน้าปูเลี่ยน
“วิญญาณก็เหมือนเรานั่นแหละค่ะ คนที่ไม่มีสัมผัสจะไม่เห็นหรอกค่ะ แต่ก็ดีไปอย่างนะคะ จะได้ไม่ต้องหลอน” เธอพูดแล้วหัวเราะคิกคัก การได้แกล้งเขาก็ทำให้เธอหัวใจชุ่มชื่นไม่น้อย แม้ทุกคืนเธอจะฝันอันแสนวาบหวามกับเขา แต่เธอก็ยังชอบแหย่เขา แกล้งเขาเล่นอยู่เหมือนเดิม
“แล้วคุณนกไม่หลอกนเหรอครับ”
“นกชินแล้วล่ะค่ะ”
“ครับ” เขารับคำก่อนจะรับประทานข้าวต้มจนหมดชาม เขาจัดการขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งเธอเอง เพราะเธอไม่มียานพาหนะขับไปทำงาน