"ขาดอีกละ..." ส้มจี๊ดมองกระเป๋าผ้าตัวเองที่ขาดเพิ่มอีกรู เธอมองอย่างเสียดายก่อนจะหาเข็มในกระเป๋าที่พกติดตัวตลอดมาเย็บรูขาดตามประสา
"ซื้อใหม่เหอะฉันอายเขา แกจะประหยัดอะไรหนักหนาบ้านก็ไม่ได้จนสักหน่อย ป้าแกรวยออกดูพี่สาวแกสิถอยกระเป๋าใหม่มาอวดเพื่อนในคณะอีกละ" ตาต้ามองเพื่อนสาวที่นั่งเย็บกระเป๋าที่เขามองอย่างไรมันก็เหมือนผ้าขี้ริ้วชัดๆ แต่ดูเธอจะไม่สนใจก้มหน้าก้มตาเย็บต่อให้เสร็จเพื่อให้ได้ใช้งานต่อ
"มันยังใช้ได้อยู่ดูสิเย็บนิดหน่อยก็ใช้ได้ละ หนึ่งเดียวในโลก" เธอยักคิ้วให้เพื่อนก่อนจะสนใจหนังสือตรงหน้า
"ว้าว... พี่เสือ พี่แดน พี่ปาล์มมี่คนอะไรเท่เถื่อนชะมัด แกดูพี่เสือสิคนอะไรหล่อวัวตายควายล้มเลยแกอ้ายยย!!"
"เวอร์ไปละตาต้า แล้วพวกเขาเป็นใครเหรอส้มจี๊ดไม่เห็นรู้จัก?"
"อ้าวชะนี... ไปมุดหัวอยู่ไหนยะถึงไม่รู้จัก พี่เขาออกจะดังข้ามสถาบันนะยะ พี่เขาเรียนสถาปัตย์เหมือนกับเรานี่แหละเดี๋ยวอยู่ไปก็รู้เอง ฉันขี้เกียจเล่าละไปเติมแป้งดีกว่า" ตาต้าเดินไปห้องน้ำปล่อยส้มจี๊ดมองดูกลุ่มเสือที่เดินมาทางโต๊ะเธอ รุ่นพี่จอมโหดเมื่อวานนี่มองใกล้ๆ หล่ออย่างที่ตาต้าพูดจริงด้วย โห... คนหรือเปรตสูงมากมิน่าล่ะด่าเราว่ายัยเตี้ย
"จ้องหน้าฉันทำไมหน้าฉันเหมือนพ่อเธอเหรอยัยเตี้ย"
"ฮือ.... พี่พูดกับส้มจี๊ดเหรอคะ?" เธอหันซ้ายขวาดู
อ้าวไม่มีใครนี่หว่า
"ปัญญาอ่อนเปล่าก็เธอนั่งอยู่คนเดียวจะให้ฉันพูดกับใคร!" เสือจ้องคนตรงหน้าอย่างหงุดหงิด "นี่โต๊ะประจำพวกฉันหลบไป!"
"อ้าวขอโทษที่ค่ะส้มจี๊ดไม่รู้ว่าพี่ซื้อไว้ พี่หน้าจะเขียนชื่อไว้นะคนอื่นจะได้ไม่มานั่ง" เธอพูดอย่างใสซื่อบื้อรีบเก็บข้าวของ
"เธอกวนประสาทฉันเหรอฮะ!" เสือปัดหนังสือส้มจี๊ดทิ้งจนเธอตกใจมองหนังสือที่พื้นก่อนรีบก้มเก็บทันทีพลางมองคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจบ่นเบาๆ แต่ได้ยินทั่วถึง
"ส้มจี๊ดก็ขอโทษแล้วไงทำไมต้องทำลายหนังสือส้มจี๊ดด้วย คุณครูไม่เคยสอนพี่เหรอคะว่าทำลายหนังสือมันบาป จะเรียนโง่ด้วย"
"ฮ่าๆ ๆ น้องแม่งฮาวะมึง น้องนี่ซื่อบื้อจริงปะเนี่ยหรือหลอกด่ามัน" ปาลม์มี่สาวสวยผมสั้นไถข้างท่าทางคลายทอมผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มหัวเราะเยาะเสือที่โดนตรอกกลับอย่างเจ็บแสบ
"จริงของน้องมันนะเว้ยพ่อมึงมาสร้างไว้ตอนไหนนั่งโต๊ะอื่นก็เหมือนกันแหละ" ปาล์มมี่ไม่อยากมีเรื่องรีบดึงเสือมาโต๊ะข้างๆ แต่เขาขัดขืนบอกจะนั่งโต๊ะเดิมก่อนจะคิดอะไรออก
"เธอน่ะ เมื่อวานทำเสื้อตัวใหม่ฉันเลอะยังไม่ได้ชดใช้เลย"
"อ๋อ...ได้สิคะ พี่จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่เดี๋ยวหนูจ่ายคืน" เธอเปลี่ยนอารมณ์ทันทีคว้านหากระเป๋าเงินออกมาเตรียมไว้รอเสือเรียกค่าเสียหาย
"สองหมื่น"
"หะ หา! สองหมื่นบอกผิดหรือเปล่าไม่ใช้สองร้อยห้าสิบเหรอ! ส้มจี๊ดเห็นขายอยู่หลังมหาลัยคล้ายกันเลย!" แม่เจ้าแพงอะไรขนาดนั้น
"อย่าเอาเสื้อฉันไปเปรียบกับของตลาด จ่ายมาหรือจะติดคุกเป็นผู้หญิงฉันก็ไม่เว้นนะ" ส้มจี๊ดยืนนิ่งใช้ความคิดเงินขนาดนั้นจะมีได้ไงลำพังมาเรียนได้เฉลี่ยวันละร้อยห้าสิบบาท เงินเป็นหมื่นเธอจะมีได้อย่างไร
"หนูผ่อนขั้นต่ำวันละร้อยได้มั้ยพี่ เดี๋ยวจะรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุด" เธอมองเสือตาละห้อย
"ถุย! กระจอกเศษเงินแค่นี้จะไปทำอะไรได้เหม็นสาบคนจนว่ะ" เสือดูไม่อยากเชื่อว่าเธอไม่มีเงิน
ยัยเตี้ยนี่เป็นคุณหนูบ้านรวยขนาดนั้นจะไม่มีเงินได้ไง จะตอแหลอะไรอีกหรือว่าเรียกร้องความสนใจวะ
"ฉันให้เธอผ่อนก็ได้แต่เธอต้องคอยรับใช้ฉันจนกว่าจะจ่ายเงินครบเป็นค่าดอกเบี้ย ว่าไงจะทำหรือไม่ทำ"
อืม... เอาไงดีนะ ถ้าไม่ทำพี่แกจะทำอะไรเราก็ไม่รู้ดูนักเลงน่ากลัวจะตาย เอาละยอมๆ ไปก่อนเถอะ
"ก็ได้ พี่จะให้ส้มจี๊ดทำอะไรล่ะแต่หนูมีเรียนตอนเก้าโมงนะ" เสือมองดูส้มจี๊ดที่ยืนมองเขาแววตาดูใสซื่ออย่างไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เขาไม่หลงกลผู้หญิงง่ายๆ หรอกนะ
"ไปซื้อโค้กมาสามกระป๋องเสร็จแล้วเอาเอกสารนี่ไปถ่ายสิบแผ่น ฉันให้เวลาสิบห้านาทีมาช้าโดน" เสือยื่นแบงค์ห้าร้อยให้ส้มจี๊ดก่อนนั่งจะรอที่โต๊ะจับเวลา
"มึงทำบ้าอะไรของมึงวะเสือ ไปแกล้งน้องเขาทำไมเดี๋ยวก็ร้องไห้หรอกดูแล้วไม่หน้าจะสู้คน" แดนเพื่อนสนิททักเห็นใจรุ่นน้อง
"ยัยเด็กนี่ตอแหลเว้ย กูขับรถผ่านบ้านเมื่อคืนนี้เป็นคุณหนูบ้านรวยจะตายแล้วจะไม่มีเงินได้ไงแค่หมื่นสองหมื่น แถมเมื่อวานนี้ก็เดินชนจนเสื้อเลอะพอตกเย็นก็มายืนเอ๋อที่ถนนจนกูเกือบขับรถเหยียบ กูว่ายัยนี่ต้องมีแผนอะไรสักอย่าง" หน้าซื่อๆ อย่างนี้ตอแหลเก่งเขาเห็นมานักต่อนักแล้ว
"จริงดิ"
"เออ มึงคอยดู" เขาจะคอยดูว่ายัยเด็กแคระนี่จะเล่นละครได้นานแค่ไหน
"โอ้ยเธอเรามาก่อนอย่าแซงคิวสิ!"
"ก็เธอนะชักช้าหลบไป!" สมจี๊ดโดนนักศึกษาแกล้งแซงคิวถ่ายเอกสารแถมยังผลักเธอออกไปไกลก่อนเธอจะเดินไปเข้าคิวใหม่ กว่าจะถ่ายเอกสารเสร็จใช้เวลาเกือบแปดนาที เธอจีงรีบวิ่งไปร้านขายน้ำเพื่อซื้อน้ำอัดลมตามคำสั่ง
"เจ็ด หก ห้า สี่ สาม..."
"มาแล้วๆ!! แฮกๆ... โอ้ย... เหนื่อย... เอานี่น้ำนี่เงินทอน!" เธอยืนหายใจเข้าปอดแรงๆ
"ไหนละหลอด"
"อ้าวพี่ไม่ได้สั่งนี่"
"แล้วเธอแดกน้ำใช้หลอดมะ... ยังจะมองหน้าอีกไปเอามา! แม่งโง่จริงๆ" เสือไล่ให้ไปเอาหลอดมาให้สีหน้าสะใจที่เห็นคนตัวเล็กวิ่งลืมตายทำตามคำสั่ง
"อะพี่หลอดดูดส้มจี๊ดเอามาเผื่อด้วย เห็นแมงวันมันชอบเกาะเผื่ออยากเปลี่ยน" พูดเสร็จเธอจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกันแต่โดนห้าม เสือบอกให้เธอนั่งโต๊ะข้างๆ รอเรียกใช้งาน
"เสือช่วงนี้แกเข้าไปดูระเบียบพวกเด็กปีหนึ่งบ้างนะฉันได้ยินว่าพวกมันตีกันเอง กำลังหาตัวอยู่ว่าเป็นใครจะได้จัดการทัน" ปาล์มมี่นั่งดูดโค้กที่เสือเลี้ยงบอกข่าวที่ได้ยินมา
"ไม่ว่างว่ะ ต้องไปฝึกงานที่บริษัทพ่อโยนงานมาให้ฉันทำ ฉันฝากพวกแกดูแลน้องๆ หน่อยแล้วกันใครมีปัญหาจัดการได้เลยไม่ยั้ง" ดูเขาจะเบื่อๆ เซ็งๆ กับปัญหาเรื่องรุ่นน้องในคณะที่ตีกันทุกปี ห้ามไปก็เท่านั้นตีกันให้ตายๆ ไปเลย
ทั้งสามนั่งคุยกันจนลืมว่าสมจี๊ดนั่งคอยอยู่ข้างๆ นานจนเผลอหลับในไปแล้วเพราะได้นอนแค่สามชั่วโมงเองเพราะมินนี่เมาเหล้ากลับบ้านอ้วกแตกให้เธอดูแลทั้งคืน
"เฮ้ยไอ้เสือดูลูกหนี้มึง แม่งนั่งหลับไปละเด็กอนามัยจัด" ส้มจี๊ดนั่งสัปงกอ้าปากหวอเสือเดินไปตบที่โต๊ะอย่างแรง
ปึง!!
"ขอโทษค่ะคุณป้าหนูจะไม่ทำจานแตกอีกแล้ว! ขอโทษๆ! อะ อ้าว เผลอหลับเหรอเนี่ย..."
"ชีวิตนี้พูดเป็นแต่ขอโทษเหรอ แล้วใครบอกให้เธอหลับ"
"ก็ส้มจี๊ดง่วงนี่พวกพี่คุยกันนานจะตาย"
"เออๆ ๆ แม่งจะไปไหนก็ไป ไป เฮ้ยเดี๋ยวเอาเบอร์เธอมาซิ" เขาบันทึกเบอร์ส้มจี๊ดไว้
"ถ้าฉันโทรตามต้องเห็นหน้าเธอภายในห้านาทีไม่งั้นตาย โทรไปไม่รับตายและถ้าเบี้ยวหนี้ฉันก็ตาย.. .เข้าใจมั้ย" เธอนิ่งเงียบไม่ตอบ
"ฉันถามว่าเข้าใจมั้ยยัยแคระ!!"
"เข้าใจค่ะ! อยู่ใกล้กันแค่นี้ต้องตะโกนด้วยพี่บ้าเปล่า"
"เธอว่าไงนะ!!"
"ปะ เปล่าค่ะ บอกว่ามีเรียนพอดี" ส้มจี๊ดรีบคว้ากระเป๋าวิ่งขึ้นอาคารเรียนทันทีกลัวโดนบาทาของเสือฟาดปาก แดนกับปาล์มมี่มองดูส้มจี๊ดขำๆ ที่เธอแอบด่าจอมโหดอย่างเสือไปหลายคำแล้ววันนี้ก่อนมองหน้าเพื่อนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
"ไอ้แดนเรารีบหนีเถอะก่อนระเบิดจะลง"
"ฉันก็ว่างั้นแหละ"
ตกเย็น
บ้านหลังนี้กำลังจะถูกยึด มีใครล้อเล่นกับเราหรือเปล่า จะเป็นไปได้ไงก็บ้านนี้รวยออกจะตายอยากจะหัวเราะเป็นภาษาตากาล็อกเสียจริง
"นี่คือเรื่องจริง เจ้าหนี้ลุงแกกำลังจะมายึดบ้านหลังนี้เขาให้เวลาเก็บข้าวของหนึ่งอาทิตย์ แกสองพ่อลูกก็ต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น" คุณพจณีประมุขของบ้านแจ้งข่าวร้ายให้ลูกหลานฟังถึงเรื่องการยึดบ้านสามีของนางที่ตายไปเมื่อปีก่อน ท่านได้สร้างหนี้ไว้หนึ่งร้อยล้านบาทซึ่งแน่นอนว่านางไม่มีปัญญาจ่าย ส้มจี๊ดผู้เป็นหลานสาวนั่งที่พื้นมองป้าสะใภ้กับพี่สาวนอกไส้ตาไม่กระพริบ
"บ้านกับที่ดินหลังนี้เขาประเมินราคาเท่ากับหนี้ห้าสิบล้านฉันเลยให้เขายึดไปซะ ที่เหลือก็พอมีเงินจ่ายอยู่เล็กน้อยเดี๋ยวฉันจะคุยกับญาติฉันให้ช่วยเอง" นางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนจับอารมณ์ไม่ถูก
"แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหนคะคุณป้า"
"ก็เรื่องของแกสิยัยส้มเน่า คิดว่าฉันกับแม่จะเอาแกไปดวยให้เป็นภาระหรือไง เหอะ! แค่เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำที่อยู่อาศัยจ่ายค่าเรียนให้ตั้งนานบุญคุณฉันกับแม่ก็ล้นหัวไปทั้งชาติแล้ว อยากไปอยู่ที่ไหนก็เรื่องขอแกเลยฉันกับแม่จะไปใช้ชีวิตใหม่ที่ไม่มีเหาอย่างพวกแกเกาะหัว" มินนี่ดาราสาวสวยวัยยี่สิบสองมองดูผู้มีศักดิ์เป็นน้องสาวอย่างดูถูกดูแคลน ต่างกับแม็กพี่ชายวัยยี่สิบห้าปีเจ้าของใบหน้าอันหล่อเหล่าสไตล์ไทยที่รักและสงสารส้มจี๊ดอยู่เสมอ
"พูดดีๆ กับน้องจะตายหรือไง ยัยส้มจี๊ดก็มีสายเลือดเดียวกับเรานะ"
"สายเลือดอีกาน่ะสิ แม่ก็ทิ้งไปมีผัวใหม่พ่อก็แค่คนแก่ไรน้ำยาแถมยังพิการไม่เอาไหนอีก ฉันทนเลี้ยงพวกแกมาตั้งนานถึงเวลาที่พวกแกจะเลิกเกาะฉันได้แล้ว หลังจากนี้ตัวใครตัวมัน!" คุณพจณีเดินหนีจากห้องนั่งเล่นตามด้วยลูกสาว แม็กได้แต่ขอโทษส้มจี๊ดที่แม่กับน้องสาวพูดจาไม่ดีกับเธอแบบนั้นและสัญญาว่าถ้าเขาได้งานใหม่มีเงินเดือนเขาจะรีบมารับเธอกับพ่อไปอยู่ด้วยกันสามคน
"ไม่ต้องเสียใจไปลูก เข้มแข็งไว้พ่อตุคนนี้จะไม่ยอมให้หนูลำบากนานหรอก สักวันต้องเป็นวันของเรา" ชายวัยกลางคนกอดลูกสาวไว้แน่นพร้อมปลอบโยนเธอ ทั้งสองยืนมองบ้านที่เขามาขออาศัยนายประเสริฐผู้ที่ก่อกรรมให้คนข้างหลังลำบาก เขาเป็นพี่ชายของแม่สมจี๊ดที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกมาพึ่งใบบุญตอนเธออายุได้สิบห้าปี เมื่อนายตุเกิดอุบัติเหตุรถชนจนขาขาดต้องออกจากราชการอีกทั้งบ้านยังถูกไฟใหม้หมดตัวอีก ต่อมาแม่ของเธอก็หนีออกจากบ้านเงียบหายไปเลยไม่ได้ยินข่าวคราวแต่ผู้เป็นลุงยังใจดีให้สองพ่อลูกอาศัยอยู่โดยทำงานดูแลบ้านเป็นการตอบแทนหรือเรียกง่ายๆ ว่าคนใช้นั่นเอง
"แล้วเราจะไปอยู่ไหนล่ะ ส้มจี๊ดเอ้ย... เรานี่นางเอกในละครน้ำเน่าชัดๆ" เมื่อไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้แล้วชีวิตเธอกับพ่อจะเป็นอย่างไรก็ยากที่จะเดาออก