Chapter 7 เรือนร่างของเจ้าเป็นของข้า
“นะ...นายท่านจะทำอะไรเจ้าคะ”
ผีสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รับรู้ได้ว่าคุณชายรูปงามตรงหน้ามีพิษสงร้ายกาจ เขาสามารถจับผีอย่างนางกลับมาได้อย่างไร มนุษย์ธรรมดาเหตุใดจึงทำเช่นนี้ได้
“หึ...”
คุณชายรูปงามไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มมุมปาก กิริยาเพียงเท่านั้นแต่กลับให้ความรู้สึกมากเล่ห์และเจ้าแผนการ ทำให้ผีสาวอยากจะกลั้นใจตายซ้ำซากแล้วหายไปจากตรงนี้เสียเหลือเกิน
เทียนอี้โน้มกายลงต่ำจนปลายจมูกโด่งเกือบสัมผัสกับปลายจมูกเล็กเชิดรั้น
“เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้...”
ผีสาวรับรู้ได้ถึงไออุ่นของกายมนุษย์ ลมหายใจแรงที่พ่นออกมาเต็มไปด้วยกลิ่นสุราชวนมอมเมา เรือนร่างแข็งแกร่งของบุรุษเพศคร่อมทับร่างของนางไว้ จนนางไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนกาย แม้ใจอยากจะหนีแต่รู้แน่ว่าไม่อาจหนีพ้น ในเมื่อเขามีอาคมสามารถควบคุมวิญญาณอย่างง่ายดาย เช่นนี้แล้วก็นับได้ว่านายน้อยห้าแห่งสกุลเฉินไม่ธรรมดา
ผีสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อเขาโน้มต่ำลงมาจนปลายจมูกโด่งชิดกับปลายจมูกของนาง เร็วกว่าความคิดนางรีบยกสองมือดันแผงอกของชายหนุ่มเอาไว้สุดแรง
“หึ”
คุณชายเฉินแค่นหัวเราะในลำคอ ดูแคลนเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของผีสาวที่ริอ่านขัดขืน แล้วจัดการรวบข้อมือบอบบางเอาไว้ด้วยมือหนาเพียงข้างเดียวแล้วตรึงไว้เหนือศีรษะของนาง
“นะ...นายท่าน ยะ...อย่า อื้อ....”
ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ร้องประท้วง เขาก็ปิดริมฝีปากของนางเสียสิ้น จูบแผ่วเนิบช้าราวกับต้องการละเลียดชิมความหอมหวานจากกลีบปากอวบอิ่มสีกุหลาบ เขากดน้ำหนักลงเบาๆ จูบเม้มริมฝีปากบน เลื่อนลงมางับริมฝีปากล่างโดยใช้ฟันขบลงราวกับหยอกเย้า ล่อหลอกให้คนในอ้อมแขนเผลอไผลก่อนจะบดจูบอย่างรุนแรงเร่งร้อน สลับกันไปเช่นนี้จนผีสาวอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งลนไฟ
“อะ...อื้อ”
ผีสาวครางเสียงสั่นด้วยความรู้สึกวาบหวาม เมื่อเขาค่อยๆ ใช้ลิ้นร้อนดุนดันให้ริมฝีปากเผยอออกแล้วแทรกลิ้นร้อนเข้าไป กระหวัดพันเกี่ยวลิ้นของนางเพื่อดื่มด่ำความหอมหวานจากโพรงปากสีกุหลาบ
จูบมันเป็นเช่นนี้เองหรอกหรือ...
หัวสมองขาวโพลน ร่างกายอ่อนระทวยร้อนผ่าว มวนท้องหวิวไหวราวกับมีเหล่าชาติพันธุ์แห่งปีกบินวนอยู่ในนั้นนับพันนับหมื่น
“อะ...อื้อ นะ...นายท่าน”
คุณชายห้าทำราวกับจะปล่อยริมฝีปากของนางให้เป็นอิสระ แต่กลับโน้มลงบดจูบรุนแรงและรุกเร้ากว่าจูบครั้งแรก จนทำให้ผีสาวถึงกับครางเสียงพร่า
นางรู้สึกสั่นราวกับสะท้านในอก มันหนาวหวามกลางหัวใจ แต่เมื่อเขากอดรัดจนแทบประสานร่างทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน ความอบอุ่นจากเรือนกายของชายหนุ่มได้ขับไล่ความหนาวเหน็บออกไป แทนที่ด้วยความเร่าร้อนแห่งเพลิงปรารถนาที่กำลังลุกโชนยากที่จะดับให้มอดลง
“หลิงหุนเจ้าทำให้ข้าทนไม่ไหว...”
เสียงแหบทุ้มต่ำเอื้อนเอ่ยราวกับกระซิบแผ่ว ค่อยๆ ปลดปล่อยริมฝีปากของนางให้เป็นอิสระ ดวงตาคมราวกับดวงตาราชสีห์จ้องมองผีสาวที่บัดนี้มีใบหน้าแดงระเรื่อราวกับมีชีวิต
เทียนอี้ซุกปลายจมูกโด่งเป็นสันลงไปยังซอกคองามระหง ซุกไซ้แล้วจูบด้วยริมฝีปากเนิบช้า ยังผลให้ขนอ่อนบริเวณนั้นลุกชันด้วยความซ่านสะท้าน สองแขนบอบบางของนางยกขึ้นโอบรัดรอบคอเขา นางพริ้มตาลงปิดสนิทแล้วเผยอปากน้อยๆ เมื่อเขาขบเม้มซอกคอของนางจนเกิดเป็นรอยแดงริ้ว
“อื้อ...”
นางเสียวจนรับรู้ได้ว่าเนินหนันของนางกำลังเปียกชื้น ช่างน่าละอายเหลือเกิน ขนาดเป็นวิญญาณนางยังไม่สามารถหลุดพ้นจากความกำหนัดที่ผูกมัดทุกดวงจิตให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดไปได้
“หลิงหุนเจ้าช่างมีกลิ่นกายหอมเหลือเกิน”
เทียนอี้เลื่อนใบหน้าต่ำลงช้าๆ ค่อยขยับปลายนิ้วปลดเปลื้องเสื้อตัวบางสีขาวของนางออกเปิดเปลือยให้เห็นทรวงอกสล้างเต็มสองตา
เขาหยัดกายขึ้นเพียงน้อยเพื่อจ้องมองสองเต้าด้วยความหลงใหล
กว่าห้าปีมานี้เขามีชีวิตเกี่ยวพันกับดวงวิญญาณนับร้อย แต่ไม่เคยมีดวงวิญญาณใดที่มีรูปสัมผัสราวกับมนุษย์เช่นนี้มาก่อน และแน่นอนว่ากฎสำคัญที่ท่านอาจารย์สอนสั่งก็คือห้ามหลับนอนกับวิญญาณโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้ดวงวิญญาณดูดพลังปราณของผู้เสพสังวาสจนร่างกายอ่อนแอ
‘จำไว้ให้ดี เจ้าต้องควบคุมวิญญาณ อย่าปล่อยให้พวกมันควบคุมเจ้าเป็นอันขาด การเสพสังวาสกับวิญญาณจะทำให้ปราณมนุษย์ของเจ้าค่อยๆ ลดน้อยลง แล้วในที่สุดเจ้าจะกลายเป็นปีศาจ’
เขาฉุกคิดถึงคำสอนของท่านอาจารย์แค่เพียงวูบเดียวเท่านั้น ก่อนที่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจะถูกตีจนแตกพ่ายเพราะทรวงอกที่น่าหลงใหลเบื้องหน้า
ชายหนุ่มค่อยๆ กลืนน้ำลายลงคอ ลูกกระเดือกกลิ้งกลอกไปมาจนเห็นได้ชัด ขบกรามเข้าหากันกรอดราวกับกำลังต่อสู้กับความต้องการของตนเอง
“แค่ครั้งเดียวเท่านั้น คงไม่เป็นไร”
คุณชายเฉินพึมพำราวกับกำลังละเมอ ยื่นไปจับทรวงอกอิ่มขาวสล้างเอาไว้เต็มมือ ก่อนจะค่อยๆ บีบเบาๆ พร้อมกับลมหายใจที่ขาดห้วง
แปลก...มันนิ่ม มันอุ่น และให้ความสัมผัสที่น่าหลงใหลจนเขาเผลอโน้มกายลงไปจูบเบาๆ ที่เนินอกอิ่ม
“อื้อ...”
ผีสาวครางเสียงแผ่ว เปิดเปลือกตาขึ้นสบตาเขา นางรู้สึกลำคอแห้งผากจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากช้าๆ ทว่าการกระทำเช่นนั้นกลับทำให้สติสุดท้ายของเฉินเทียนอี้ขาดสะบั้นลง
“อ๊ะ...อาห์”
นางครางเสียงหลงเมื่อจู่ๆ เขาก็อ้าปากครอบครองปทุมถันเอาไว้เต็มคำ ในขณะที่สองมือฟอนเฟ้นจนเป็นรอยริ้วมือ ส่วนริมฝีปากอุ่นก็ทั้งดูดทั้งใช้ลิ้นดุนดันจนนางถึงกับผวากอดรัดเขาเอาไว้แน่น
“นะ...นายท่านเจ้าขา ขะ...ข้าเสียวเหลือเกินเจ้าค่ะ”
ผีสาวแอ่นหน้าอกเบียดเข้าหาใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างเผลอไผล สองมือจับศีรษะของชายหนุ่มกดลงจนใบหน้าแนบไปกับทรวงอกใหญ่