Chapter 6 เลิกลวนลามข้าได้แล้ว

1152 คำ
Chapter 6 เลิกลวนลามข้าได้แล้ว “ถ้าเช่นนั้นข้าจะมอบร่างกายของข้าให้กับท่าน ตอบแทนที่ท่านยอมให้ข้าติดตาม อีกทั้งยังให้ที่พัก ให้อาหารแก่ข้า ท่านทำให้ผีหิวโซเร่ร่อนอย่างข้าได้กลับมามีความสุขอีกครั้ง” ผีสาวโผงออกมาด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะชะงักด้วยความประหลาดใจ หากนางมิได้ตาฝาดเพราะฤทธิ์สุรา นางมั่นใจว่าเห็นดวงตาของเจ้านายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะกลับมาเรียบเฉยดังเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เป็นไปไม่ได้ ไม่เคยมีมนุษย์คนใดเห็นข้า” นางพึมพำแผ่วเบา ก่อนจะสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป เพราะแผงอกของเจ้านายหนุ่มทำให้เลือดในกายผีสาวพลุ่งพล่าน นางค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสที่แผงอกแล้วก็ถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความขวยเขิน “เรือนร่างของข้าเป็นของนายท่านเจ้าค่ะ” ผีสาวกระซิบพร่าที่ข้างใบหูของเจ้านายหนุ่ม สุราทำให้นางเริ่มร้อน ร้อน ร้อน ร้อนจนลำคอแห้งผาก ร่างกายเร่าระริกดังไฟแห่งความปรารถนาแผดเผา นางใช้ฟันเล็กคล้ายเมล็ดข้าวโพดเรียงสวยขบกัดริมฝีปากล่างราวกับต้องการสะกดอารมณ์บางอย่างที่กำลังจะระเบิดออกมา ทว่าสุราทำลายสติที่นางควรจะมีไปจนหมดสิ้น มือเล็กจึงเริ่มถอดชุดนอนสีขาวของตนออกช้าๆ เผยให้เห็นทรวงอกอิ่มสล้างชูชัน เทียนอี้ยังคงนิ่งเฉยมีเพียงลูกกระเดือกของเขาที่กลิ้งกลอกไปมา บ่งชัดว่าเขากำลังลอบกลืนน้ำลาย ขณะที่สายตาคมจดจ้องมองดวงจันทร์กระจ่าง ราวกับว่ากำลังพยายามเพ่งความสนใจไปที่ดวงจันทรา ริมฝีปากเล็กเย็นสัมผัสลงบนต้นคอแข็งแกร่ง ก่อนที่นางจะค่อยๆ จูบไซ้ขยับขึ้นไปที่ใบหู วนเวียนอย่างหยอกเอิน แล้วขยับมาจูบที่แก้มสากของเจ้านายหนุ่ม นางหัวเราะคิก “ข้าได้กลิ่นหอมบนกายท่าน” นางเอื้อนเอ่ยแล้วย่นจมูกน้อยๆ อย่างนึกสนุก ทว่าจังหวะที่นางหัวเราะทรวงอกเต่งตึงดุจบัวตูมในสระชลทิพย์กลับกระเพื่อมไหว เบียดชิดต้นแขนของเทียนอี้จนแทบประสานเป็นเนื้อเดียว “ตรงนี้ก็หอม” จมูกซนซุกลงไปยังซอกคอของชายหนุ่ม นางขยับกายอย่างย่ามใจจนบัดนี้ได้นั่งอยู่บนตักของเขาอย่างถือวิสาสะ จะว่าไปแล้วนับตั้งแต่นางเป็นผี นางยังใช้ชีวิตความเป็นผีไม่คุ้มเลยด้วยซ้ำ เพราะวันๆ นางเอาแต่ล่องลอยหิวโหยอย่างไร้จุดหมาย เมื่ออิ่มท้อง สบายกาย นางก็คิดว่าอันดับแรกที่นางควรจะทำในฐานะผีสาวก็คือ... การลวนลามชายรูปงามทั่วทั้งปฐพี โฮะ โฮะ โฮะ นางหัวเราะกับแผงอกของชายหนุ่ม ก่อนจะบรรจงจดริมฝีปากลงไปแผ่วเบา ค่อยๆ ไล่จูบโดยใช้นิ้วมือลูบไล้ไต่ไปตามมัดกล้ามชวนมอง ก่อนจะหาญกล้าเงยหน้าขึ้นแล้วแนบริมฝีปากสีชาดของตนลงบนริมฝีปากหนาหยักได้รูปของชายหนุ่ม ปล่อยให้ริมฝีปากนิ่งค้างอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน อย่างไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการต่ออย่างไรถึงจะเรียกว่า ‘จูบ’ หาใช่แค่เพียง ‘สัมผัส’ กันเช่นนี้ ผีสาวค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า นางแลบลิ้นน้อยๆ เลียริมฝีปากของตนเองไปมา ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของเขา เริ่มต้นที่หน้าผากได้รูป คิ้วเข้มหนา ดวงตารีราวกับพญาเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากหยักที่นางเพิ่งได้สัมผัส “นี่เป็นจูบแรกของข้าเลยนะนายท่าน ข้ายกให้ท่านเจ้าค่ะ” หญิงสาวยิ้มเขินขยับตัวลงจากตักอุ่นของเจ้านายหนุ่ม ก่อนจะกลอกสายตาไปยังเรือนร่างส่วนต่างๆ ของเขาอย่างซุกซน ต่ำลง ต่ำลง จนไปหยุดอยู่บริเวณหน้าขาของชายหนุ่ม “ข้าอยากเห็น...” ถ้ามีลมหายใจ ตอนนี้นางคงรู้สึกเหมือนลมหายใจกำลังขาดห้วง ความตื่นเต้นทำให้นางรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิในร่างกายของนางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ลองแค่จับน่าจะดีกว่า ถ้าอยากเห็นเอาไว้แอบดูตอนนายท่านอาบน้ำก็ได้นี่นา เอ...จะเอายังไงดีนะ...” นางเคาะปลายนิ้วลงบนริมฝีปาก แล้วทำปากจิ๊จ๊ะเบาๆ อย่างใช้ความคิด ก้มมองบริเวณหน้าขาของชายหนุ่ม อยากจะถอดกางเกงของเขาออกแต่คงต้องใช้พลังมากและอาจทำให้เจ้านายผู้มีพระคุณหวาดกลัว แต่ถ้าแค่ล้วงมือไปจับเจ้านายหนุ่มก็คงแค่รู้สึกเหมือนมีไอเย็นพัดผ่านเท่านั้น “ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ขอข้าลองจับอาวุธลับของนายท่านหน่อยนะเจ้าคะ” ผีสาวหลับตา หัวใจเต้นแรงดัง ตึก! ตึก! ตึก! จนแทบกระโจนออกมานอกอก มือเล็กเรียวค่อยๆ ยื่นออกไปหมายจะคว้าหมับจับให้เต็มมือ ทว่า... หมับ! ผีสาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจสุดขีด ใบหน้าของนางคงซีดขาวเสียยิ่งกว่าเดิม เมื่อมือหนาของเจ้านายหนุ่มกำลังจับข้อมือของนางเอาไว้แน่น อีกทั้งดวงตาคมกร้าวยังจับจ้องมายังใบหน้าของนางชนิดไม่วางตา “เลิกลวนลามข้าได้แล้ว!” ราวกับสายฟ้าฟาดลงตรงหน้า ผีสาวเบิกตาโพลง อ้าปากค้างจนเห็นลิ้นเล็กสีชมพูระเรื่อ “นะ...นายท่านมองเห็นข้า!” ผีสาวสะบัดมือออกจากการจับกุม รีบรวบเสื้อขึ้นปิดบังทรวงอกอิ่มสล้างด้วยความเขินอาย กระถดสะโพกไปกับพื้นถอยกรูดจนแผ่นหลังชิดผนังอีกฟาก ก่อนจะตัดสินใจปล่อยให้ร่างของตนเองโปร่งแสงทะลุหายไปในผนังเพื่อหลบหนีความอัปยศ นางวิ่งสุดแรงก่อนจะทะยานร่างให้ลอยไปในอากาศ หมายจะหนีไปตั้งหลักให้ไกล ไม่สิ...นางทำเรื่องน่าบัดสีไว้ตั้งมากมาย ทั้งอวดความตะกละและความหื่นให้คุณชายเฉินเทียนอี้ได้เห็น ชาตินี้ชาติไหนนางคงไม่มีหน้ากลับมาให้เขาพบเจอ “วาสนาของข้ากับท่านคงมีแค่นี้...ลาก่อน” นางลอยออกนอกกำแพงจวน กำลังจะกระโดดเกาะรถลากที่กำลังผ่านไป ทว่า... กรี๊ด! นางกรีดร้องอย่างเสียขวัญเมื่อจู่ๆ ก็มีผ้าสีขาวพันรัดรอบร่างบางแล้วกระชากแรงจนนางตัวลอยทะลุกำแพงจวน ต้นไม้ ศาลากลางน้ำ และท้ายสุดผนังห้องนอนของคุณชายเฉินเทียนอี้ เมื่อตั้งสติได้นางพบว่าบัดนี้นางนอนอยู่บนพื้นโดยมีร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นนายกำลังคร่อมทับร่างของนางเอาไว้ด้วยท่าทางคุกคาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม