บทที่ 18

1223 คำ
“ผู้ชายคนนี้มันเป็นใคร คนรัก หรือว่าผัวของเจ้า” เจ้าชายคามิลตรัสถามสุรเสียงลอดไรฟัน ความหึงหวงพุ่งพล่านอยู่ทั่วพระวรกาย ขณะเดียวกันก็ขอให้คำตอบที่หลุดออกมาจากเรียวปากอิ่มแดงระเรื่อเป็นไปในทางบวก แต่จะว่าไปแล้ว พระองค์ก็พอรู้ว่าฐิติรดานั้นไม่เคยต้องภมรใด มิเช่นนั้นแล้วเธอคงไม่จูบตอบแบบสะเปะสะปะอย่างไร้เดียงสา ในทุกๆ ครั้งที่ถูกพระองค์มอบจุมพิตเร่าร้อนให้ เจ้าชายคามิลก็ไม่ผิดหวัง เมื่อได้ยินคำตอบที่หลุดออกมาจากเรียวปากอิ่มแดงระเรื่อ “จะคิดอกุศลไปถึงไหน ฉันกับคุณติณภพแค่กำลังคบหาดูใจกันเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นคนรัก หรือเป็นผัวเมียเหมือนที่คุณกล่าวหามา” ฐิติรดาไม่รู้เลยว่าทำตอบของเธอนั้น สามารถเรียกรอยยิ้มให้ปรากฏอยู่บนพระพักตร์หล่อเหลาได้ในทันทีทันใด “ดีแล้วที่เจ้ายังไม่มีสามี เพราะเราอยากเป็นสามีคนแรกและคนเดียวของเจ้า” เจ้าชายคามิลตรัสบอกอย่างหมายมาด ยังไงๆ วันนี้ฐิติรดาก็ต้องตกเป็นของพระองค์อย่างแน่นอน “แหม! ช่างตอบอย่างมั่นใจเสียเหลือนะคะ ไม่ถามสักนิดหรือคะว่าฉันอยากเป็นภรรยาของคุณหรือเปล่า” “จะถามให้เปลืองน้ำลายทำไมกันล่ะน้ำอิง สู้ปฏิบัติเลยซะดีกว่า” ว่าแล้วเจ้าชายคามิลก็ไม่รอช้า พระองค์สอดพระหัตถ์ไปใต้หัวเข่า ก่อนจะตวัดอุ้มฐิติรดามาไว้ในอ้อมแขน โดยไม่นำพากับอาการดิ้นรนของอีกฝ่าย “กรี๊ดดด!!! ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ” ฐิติรดาหวีดเสียงร้องลั่น ไม่ยอมให้ถูกอุ้มง่ายๆ ทว่าแรงของอิสตรีอันมีน้อยนิด มีหรือจะสู้แรงอันมหึมาของชายชาติบุรุษได้ เจ้าชายคามิลหัวเราะร่วน ไม่สนใจเสียงหวีดร้องแสบแก้วหู พออุ้มร่างบางอรชรได้แล้วก็อุ้มไปพาดอยู่บนหลังม้าในลักษณะคว่ำห้อยหัวห้อยเท้า ทำเอาฐิติรดาถึงกับหน้ามืดจวนจะเป็นลมขึ้นมาทันที “คุณคามิล ฉันเวียนหัว ให้ฉันนั่งดีๆ ได้ไหม” ฐิติรดาพยายามอ้อนขอร้องเสียงหวาน เพราะตอนนี้กำลังรู้สึกเช่นนี้จริงๆ ทว่าคนที่ฟังคำสั่งใครไม่เป็นอย่างเจ้าชายคามิล กลับปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่มอบความปราณีให้กับฐิติรดาแม้แต่นิดเดียว “เสียใจด้วยยาหยี เจ้านะฤทธิ์เยอะนัก ขืนให้นั่งสบายๆ ก็กระโจนหนีเราอีกรอบ บอกตามตรงว่าตอนนี้เราเบื่อการวิ่งไล่จับเจ้าแล้ว เราก็อยากรักเจ้าใจจะขาดแล้วน้ำอิง” ขณะตรัสบอก เจ้าชายคามิลก็กระทุ้งสีข้างเจ้าอาชาไนยให้ออกแรงวิ่งตรงไปยังหมู่บ้านอีกครั้ง โดยไม่สนใจฐิติรดา ซึ่งปล่อยคำพรุสวาทตะโกนด่าพระองค์ตลอดเส้นทาง จวบจนกระทั้งไปถึงตำหนักที่พักของพระองค์ในที่สุด ฐิติรดารู้สึกพะอืดพะอมราวกับจะอาเจียนให้ได้ เมื่อถูกห้อยหัวโตงเตงเป็นเวลานาน แต่ก็ยังดีหน่อยที่เจ้าชายคามิล ซึ่งหญิงสาวยังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของพระองค์ และยังคงเข้าใจอยู่ว่าอีกฝ่ายเป็นองครักษ์ตามที่บอกมา ได้จับให้เธอคว่ำหน้าพาดอยู่บนตักของเขา ช่วยให้เวลาเจ้าอาชาไนยออกวิ่งห้อเต็มฝีเท้า ทำให้เธอไม่เจ็บตัวเวลากระเด้งกระดอนตามจังหวะการวิ่งของม้า ทว่าในตอนแรกๆ ก็รู้สึกสบายตัวไม่เจ็บตัวกับการสัมผัสแผ่นหลังแข็งๆ ของเจ้าอาชาไนย แต่พอผ่านไปหลายนาที หญิงสาวก็เริ่มคิดว่าไม่ค่อยดีสักเท่าไร เมื่อรู้สึกได้ว่าหน้าท้องแบนราบของเธอกำลังถูกความร้อนผะผ่าวของความเป็นบุรุษเพศอันยิ่งใหญ่ดุนดันอยู่ จนเธอรู้สึกร้อนวูบไปทั้งตัว และใช่ว่าจะมีแค่เพียงฐิติรดาที่รู้สึกร้อนผ่าวสั่นสะท้านไปทั้งตัว เจ้าของพระวรกายล่ำสันเองก็ปวดร้าวไปทั่วแก่นกาย เมื่อหน้าท้องแบนราบกดแนบมากับกายแข็งขึง คราใดที่ฐิติรดาขยับตัวดิ้นไปมาปทุมอิ่มเต็งตึงทั้งสองก็บดเสียดสีกับหน้าตักจนพระองค์ต้องกัดฟันแน่น สะกดความต้องการ สะกดอารมณ์พิศวาสไม่ให้ลุกฮือไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเพียงเท่านี้พระองค์ก็ปวดร้าวจวนเจียนจะระเบิดอยู่รอมร่อ “ไมอาร์ เจ้าช่วยวิ่งให้เร็วกว่านี้ได้ไหม” เจ้าชายคามิลกระซิบเป็นภาษาถิ่นกับเจ้าอาชาไนยสีดำสนิทที่ชื่อไมอาร์ และทั้งๆ ที่เจ้าไมอาร์วิ่งห้อเต็มฝีเท้าอันชัดจ้านของม้าแข่งแล้ว แต่กระนั้นพระองค์ก็รู้สึกว่าวันนี้อะไรก็ไม่ได้ดั่งพระทัย เจ้าองครักษ์นาฟฟาลขับรถไม่ต่างจากเต่าคลาน แถมเจ้าไมอาร์ก็วิ่งเยาะๆ ราวกับไม่ได้ถูกบำรุงด้วยหญ้าหรืออาหารเสริมราคาแพง ที่สั่งตรงมาจากเมืองนอก กว่าเจ้าไมอาร์จะพาพระองค์มาถึงตำหนักได้ ก็กินเวลานาน ทำเอาพระองค์ปวดหนึบจนตัวเกร็งไปหมด เมื่อเจ้าไมอาร์พาราชนิกุลผู้พระทัยร้อนมาถึงหน้าตำหนักได้ในที่สุด เจ้าชายคามิลก็ลอบถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก “ถึงรังรักของพวกเราแล้วน้ำอิง” ทรงตรัสบอกเสียงแหบพร่า แล้วยกร่างบางอรชรเบาราวกับปุยนุ่นให้ลงไปยืนบนพื้น ก่อนจะกระโดดตามลงไปอย่างรวดเร็ว ฐิติรดายังเวียนหัวจากการห้อยหัวโตงเตงเป็นเวลานาน พอถูกอุ้มให้ลงจากหลังเจ้าไมอาร์ หญิงสาวก็ไม่มีแรงยืน ร่างบางอรชรจึงค่อยๆ รูดลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น โอนเอนไปมาราวกับจะคว่ำไม่คว่ำแหล่ และแทนที่เจ้าชายคามิลจะเห็นใจนึกสงสารหญิงสาว พระองค์กลับหัวเราะร่วน แล้วตรัสเยาะตามประสาคนไร้พระหฤทัย “ถูกจับนอนคว่ำหน้าอยู่บนหน้าตัก สัมผัสกายแข็งแกร่งของเราเพียงแค่นี้ ถึงกับหมดแรงยืนเลยหรือน้ำอิง” ฐิติรดาเงยหน้าขึ้นจ้องมองเจ้าชายคามิลด้วยแววตาวาววับราวกับนางเสือ แต่เนื่องจากพะอืดพะอมทำท่าจะอาเจียน อีกทั้งยังเวียนหัวอยู่มาก จึงไม่มีแรงจะตอบโต้อีกฝ่าย นอกจากทำปากขมุบขมิบเจริญพรอีกฝ่ายด้วยความโกรธจัด “อย่าให้ฉันมีแรงกว่านี้นะคุณคามิล ไม่งั้นคุณได้เจอดีแน่” “พูดดังๆ หน่อยสิน้ำอิง เราได้ยินไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร” ขณะตรัสถามยิ้มๆ เจ้าชายคามิลก็ทรุดพระวรกายลงนั่งยองๆ อยู่เบื้องหน้าฐิติรดาด้วย “ฉันบอกว่าไปตายซะไป!” และเมื่อเจ้าชายคามิลขอมา ฐิติรดาก็จัดให้ทันที และมีของแถมชิ้นพิเศษให้กับพระองค์ด้วย พอตะเบ่งเสียงพรุสวาทไปแล้ว เท้าเล็กก็ยกขึ้นเตะผ่าหมากไปตรงกล่องดวงใจของเจ้าชายคามิลเต็มแรงเกิด เรียกเสียงร้องลั่นได้จากราชนิกุลหนุ่ม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม