บทที่ 14

1497 คำ
“สำหรับอามันอาจจะไม่จำเป็น แต่สำหรับน้อยมันจำเป็นมากค่ะ” “ต่อให้อาจะคิดยังไง มันก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าน้อยกับวาวหน้าเหมือนกัน และน้อยเองก็มีใจให้อาไม่ได้หรอก” “ใครบอกอาคุณคะ ว่าน้อยมีใจให้อา” “ตา... สายตาของน้อยไง ไม่มีผู้หญิงคนไหนเขามองผู้ชายที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย แบบที่น้อยมองอาหรอก” หล่อนรู้ว่าเขาฉลาด และมีความมั่นใจสูง แต่ถึงกับขนาดมองออกตั้งแต่แรกเรื่องความรู้สึกของหล่อนนี่ มันดูจะน่ากลัวเกินไป... ที่สำคัญคือน่าอายขายขี้หน้าด้วย “แต่น้อยจะไม่ยอมตกลงคบกับคนที่เขาเห็นน้อยเป็นแค่ตัวแทนของคนอื่นหรอกค่ะ... อาคุณไม่ชอบโกหก และน้อยเชื่อว่าต่อให้อาชอบน้อยจริงๆ อาก็จะชอบน้อยเพราะในตัวน้อยมีเงาสะท้อนของใครบางคนอยู่ จริงมั้ยคะ” ดอกเตอร์หนุ่มทำหน้าเหมือนประหลาดใจ แต่ครู่เดียวก็กลับมายิ้มให้คนที่ทำเหมือนพะอืดพะอมและจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ มือใหญ่เอื้อมไปกุมมือเล็กนุ่มนิ่มไว้ “คิดไปไกลจังเด็กน้อย อาแค่บอกว่าชอบเอง ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นคบหาดูใจกันสักหน่อย อาไม่อยากให้เด็กดีของอาต้องมากังวลอะไร จะไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างเรานอกจากคนของอา จะไม่มีใครมาก่อกวนหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้น้อยต้องรับมือ เพราะทุกคนจะยังเข้าใจว่าน้อยเป็นหลานสาวของเพื่อนอา และอาก็ไม่เคยมีประวัติคบเด็กขนาดน้อยมาก่อน” เพล้ง !! ดาราตรีรู้สึกเหมือนหน้าตัวเองแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเลือดค่อยๆ ไหลออกมาจนชุ่มโชกไปหมด นั่นสินะ... หล่อนมันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน คิดหรือว่าคนที่เพียบพร้อมอย่างเขาจะมาคิดจริงจังอะไรด้วย ดาราตรีเอ๋ย เส้นชัยของหล่อนยังดูห่างไกลนัก “ถ้าอย่างนั้นน้อยก็คงต้องกราบขอโทษอาด้วยค่ะ ถ้าน้อยเผลอแสดงกิริยา หรืออาการใดๆ ออกไปแล้วทำให้อาคุณเข้าใจว่าน้อยตั้งใจจะอ่อยอา นะ... น้อยไม่ได้ดีเด่อะไรก็จริง แต่ก็ยังไม่อยากจะไปเป็นของเล่นในคอลเลกชันของดอกเตอร์เศรษฐ์” หญิงสาวป้ายน้ำตาที่มันไหลออกมาง่ายๆ ปกติต่อให้เศร้าหรือเจ็บแค่ไหน ก็ไม่มีสักครั้งที่หล่อนจะควบคุมน้ำตาของตัวเองไม่ได้ เพิ่งรู้ว่าภูมิต้านทานนี้ของหล่อน ใช้ไม่ได้กับเรื่องหัวใจเลย “อ๋อ ไม่สิ แค่ผู้หญิงในคอลเลกชัน น้อยก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้เป็น...อาคุณใจร้ายมากรู้มั้ยคะ” เขาตกใจมากกับน้ำตาและคำพูดที่พรั่งพรูออกมาแข่งกันของดาราตรี พอจะเช็ดน้ำตาให้เจ้าหล่อนก็เบี่ยงหน้าสะบัดหนี แล้วหันไปคว้ากระเป๋าถือของตัวเองขึ้นมา “น้อยกลับก่อนนะคะ แล้วต่อไปน้อยจะบอกกับอาเต้เองว่าอาคุณติดงาน คงจะมารับมาส่งน้อยเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว” หล่อนลุกเขาก็ลุก “หยุดเลยดาราตรี !” โชคดีที่วันนี้เขาเลือกร้านนี้ เพราะเสียงตะคอกที่ดังออกไปเมื่อครู่ คงจะทำให้ใครต่อใครขวัญกระเจิงได้บ้าง ถ้าเขาอยู่ในร้านอาหารปกติ ไม่ได้อยู่บนแพแบบส่วนตัวอย่างตอนนี้ “อาไปส่งน้อยเถอะค่ะ เย็นแล้ว เดี๋ยวอาวาวกับอาเต้จะเป็นห่วงเอาค่ะ” “คงไม่จำเป็น” หล่อนไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าเสียงเกรี้ยวกราดก่อนหน้านี้กลายเป็นน้ำเสียงเยียบเย็นขึ้นมากะทันหัน “ทำไมล่ะคะ” “วาวกับไอ้เต้รู้แล้วว่าวันนี้เราจะไม่กลับ” “หา...” ดาราตรีถึงกับอ้าปากค้างน้ำตาเหือดแห้งในทันใดกับคำตอบที่ได้ยิน ไม่กลับ ! คืออะไร อาๆ ก็รู้แล้ว หมายความว่ายังไง คุณเศรษฐ์แอบยกยิ้มมุมปากบนใบหน้าดุดันหล่อเนี้ยบ ลืมความขุ่นเคืองที่ยายเด็กดื้อทำให้เขาปวดหัวเมื่อครู่ไปเกือบหมด “พรุ่งนี้อามีนัดดูที่แถวนี้ เลยไม่อยากขับรถไปกลับหลายรอบ” แถวนี้ของเขาคือกาญจนบุรี ซึ่งหล่อนก็เข้าใจถ้าหากเขาจะไม่อยากเทียวไปเทียวมา แต่ที่ไม่เข้าใจคือแล้วเขาจะไปรับหล่อนมาจากกรุงเทพฯ เพื่อ !? “แล้วทำไมอาไม่บอกน้อย น้อยจะได้ให้รถที่บ้านมารับ” “อาลืม” คำตอบง่ายๆ บนสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนนั้นทำให้หล่อนทำใจเชื่อได้ยากลำบากจริงๆ “แล้วอาเต้กับอาวาวยอมให้น้อยมาค้างอ้างแรมที่อื่นหรือคะ” แม้ภารกิจครั้งนี้ของหล่อนกับคุณอาทั้งสองคือพิชิตใจสิงโตหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าหล่อนผู้นี้ก็ตาม แต่การเชียร์หรืออำนวยความสะดวกจนเกินงามและออกนอกหน้าขนาดนี้ ทั้งอาเต้และอาวาวไม่ทำแน่ “ไม่ยอม” เขาว่าเสร็จก็เงียบ “ไม่ต้องมาถามคำตอบคำเลยนะคะอา อธิบายมาให้หมดเดี๋ยวนี้เลย” หล่อนละหมั่นไส้ดอกเตอร์คุณเศรษฐ์ผู้แสนจะปากจัด ปากคม จิกกัดคนอื่นได้อย่างร้ายกาจ แต่มาคราวนี้ละทำเป็นพูดน้อยต่อยหนัก มีเลศนัยไปซะหมด “ไอ้เต้โวยวายจนหูอาแทบดับให้เอาน้อยไปคืน...” คิดถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายที่เขาโทรไปรายงานผู้ปกครองของดาราตรีแล้วยังอารมณ์ดีไม่หาย “แล้ว ?” “อาก็บอกมันไปว่าไม่คืน” “โธ่ อาอย่าล้อน้อยเล่นสิคะ ให้พี่เสือไปส่งน้อยก็ได้” “ไม่เอา อาไม่ไว้ใจไอ้เสือมันหรอก” “ข้ออ้าง !” อย่างพี่เสือคนสนิทที่โคตรจะสนิทของเขาเนี่ยนะ ที่ดอกเตอร์คุณเศรษฐ์จะไม่ไว้ใจ อย่าว่าแต่เรื่องไปส่งหล่อนเลย ขนาดเรื่องสำคัญๆ อย่างพวกการเงิน เรื่องละเอียดอ่อนภายในครอบครัว หล่อนก็เห็น ฆนินทร์จัดการให้เขาทั้งหมด “นี่กล้าขึ้นเสียงกับอา ?” “ก็อาคุณแกล้งน้อยนี่คะ” “แกล้งที่ไหน คนเป็นแฟนกันค้างต่างจังหวัดด้วยกันไม่เห็นจะแปลก” ได้ทีดอกเตอร์หนุ่มเลยถือโอกาสมัดมือชก “ใคร... ใครเป็นแฟนอาคะ ทำไมขี้ตู่ล่ะ” โตมาขนาดนี้ไม่ใช่ไม่เคยถูกจีบ ถูกขอเป็นแฟน แต่ทำไมกับผู้ชายคนนี้ คนที่ช่างดูห่างไกลเหลือเกิน คำว่า ‘แฟน’ มันถึงมีพลังอำนาจมหาศาล สามารถเขย่าโลกทั้งใบของหล่อนได้ขนาดนี้ คุณเศรษฐ์ดึงเจ้าของร่างบอบบางเข้ามากอดไว้แน่น “ก็ยายเด็กหน้าแดงคนนี้ไง แฟนอา” ดาราตรีดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด แม้ตรงนี้จะไม่มีใครอื่น พี่เสือก็หลบฉากไปไหนไม่รู้ ช่างเป็นใจกับเจ้านายซะเหลือเกิน แต่การจะมายืนให้เขากอดเฉยๆ แบบนี้มันก็ยังไงๆ อยู่ แม้ดิ้นไปแล้วใช่ว่าหล่อนจะหลุดออกไปได้ก็เถอะ “อามาขอน้อยตอนไหนคะ” ดาราตรีถามเสียงอ่อยเพราะแรงกอดรัดและกลิ่นกายของบุรุษทำให้หล่อนทั้งเขินทั้งอาย “ก็ตอนที่อาบอกว่าชอบน้อยไง อะไรกัน แค่นี้ก็ลืมแล้ว” มือใหญ่ลูบเบาๆ ไปตามศีรษะทุยได้รูปจนเกือบจรดความยาวของมัน “ชอบก็ส่วนชอบสิคะ เกี่ยวอะไรกับเป็นแฟนล่ะ” “อาไม่ชอบถูกปฏิเสธรู้มั้ย” ดอกเตอร์หนุ่มเชยคางเล็ก มองดวงตาสุกใสแวววาว ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ เครื่องเคราบนใบหน้าหวานๆ นี้ช่างเหมือนวาววิไลไม่มีผิดเพี้ยน ยิ่งมองเขาก็ยิ่งหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้นต้องเสียวาววิไลไป แต่ได้ดาราตรีมาทดแทน ก็ถือว่าไม่เลวนัก... “แต่อายังไม่ได้ขอ...” เสียงหล่อนเบาราวกับกระซิบเข้าไปอีก จนต้องเสเบือนหน้าหลบตาทรงเสน่ห์ร้อนแรง “งั้นถ้าตอนนี้อาขอ น้อยจะยอมรับอาไว้พิจารณาหรือเปล่าครับ” “น้อยกลัวว่าเราจะไปกันไม่รอด อาก็รู้ว่าเราต่างกัน” “น้อยไม่ชอบอาเหรอ” เขาไม่ได้มั่นใจในตัวเองสูงจนเข้าขั้นหลงตัวเอง แต่เด็กสาวที่อ่อนประสบการณ์อย่างดาราตรีดูไม่ยาก แม้จะทำปากแข็ง แต่ดวงตาของเจ้าหล่อนได้เปิดเปลือยทุกสิ่งทุกอย่างออกมาจนหมดแล้ว “ชอบค่ะ” คุณเศรษฐ์ยิ้มสมใจ ยิ่งนับวันดาราตรีจะยิ่งถูกใจเขา วาววิไลขี้อาย พูดน้อย ชอบเก็บความรู้สึก แต่กับหลานสาวไม่ใช่ หล่อนกล้าพูด กล้าคิด และกล้ายอมรับความรู้สึกของตัวเองอย่างไม่มีอ้อมค้อม อาจมีเขินอายบ้างตามประสาเด็กสาว แต่นั่นยิ่งทำให้เจ้าหล่อนดูนุ่มนวลอ่อนหวาน ไม่ได้แข็งกระด้างจนเกินไปนัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม