7. นางผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง

1785 คำ
พลินีถามหญิงสาวอีกว่า “เจ้าเคยได้ยินเรื่องราวของราชินีคลีโอพัตราหรือไม่?” “ราชินีคลีโอพัตราเป็นหญิงงามที่เก่งกาจด้านกามา วีรบุรุษที่สามารถเลือกสาวงามจากจักรวรรดิใดก็ได้ในครึ่งซีกโลก อย่าง จูเลียส ซีซาร์ หรือ มาร์ก แอนโทนี ต่างลุ่มหลงพระนางอย่างหัวปักหัวปำ กระทั่งแลกยอมสละชีวิต...” แอนนาอีสมองสบตานางชีผู้สง่างาม “ถูกต้อง” “บุรุษที่ยืนอยู่เหนือผู้คนเหล่านั้น ย่อมมิใช่ลาโง่ เด็กสาวธรรมดาที่อ่อนต่อโลกอย่างข้า จะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับราชินีคลีโอพัตราได้อย่างไร” “ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยกเว้นสันดานมนุษย์ จุดอ่อนของบุรุษผู้มีอำนาจคือความลุ่มหลง” “ความลุ่มหลง?” แอนนาอีสกล่าวตามประโยคสุดท้าย “ในตำราเสพกามาที่ถูกเขียนโดยนักบวชหญิงระดับสูงสุดแห่งยุคบรอนซ์ กล่าวว่า ธรรมชาติของบุรุษทุกผู้ทุกนามล้วนปรารถนาสตรีร่านราคะที่เชี่ยวชำนาญกามา หากอัตตาในกมลสันดานขัดแย้งความต้องการทางธรรมชาติ พวกเขายกย่องบูชาหญิงสาวพรหมจรรย์ไร้บาป แต่กลับหมกมุ่นในสรีระเนื้อหนังมังสา เที่ยวเสาะแสวงหาโอษฐกามและหว่างขาที่อ้าโอบรับน้ำรัก ซึ่งพวกเขาถะถั่งออกมายามสำเร็จความใคร่ แท้จริง... กลเม็ดเด็ดพรายที่ใช้มัดใจบุรุษคือการเสแสร้งว่าไม่ประสีประสา แลปรนนิบัติเอาใจทำให้พวกเขาฮึกเหิมในความเป็นชาย ด้วยมารยาสาไถแห่งกามารมณ์อันแยบยล...” พลินีสั่งให้หญิงสาวนอนลงบนเตียง จากนั้นนางชีก็ใช้มือลูบไล้บนเรือนร่างอ่อนเยาว์ ทุกการเคลื่อนไหวของพลินีงดงามราวปีศาจ ร่างกายของแอนนาอีสอ่อนยวบไปตามสัมผัสอันเย้ายวนชวนคลั่ง ระหว่างขาของนางร้อนรุ่มด้วยอารมณ์ปรารถนา “วันนี้ข้าจะสอนการเล่นรักด้วยหัตถาและโอษฐกาม” แอนนาอีสพยายามครองสติเอาไว้ ทว่า... เพียงแค่เริ่มต้นบทเรียน ร่างกายของหญิงสาวก็ถูกพลินีควบคุมเสียแล้ว บทที่ 4 คราแรกพบประสบหน้าพาลุ่มหลง เสน่หานวลอนงค์ไม่ห่างหาย รสรักหวานตราตรึงซึ้งทรวงใน ทุกคืนค่ำรัญจวนใจใคร่ร่วมเตียง กองทัพของวาร์ดิกัน เดินทางกลับมาจากการทำศึกที่เวียนนาพร้อมกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ทว่าแม่ทัพอาเธอร์ผู้เกรียงไกรมิได้อยู่ร่วมพิธีแห่ต้อนรับในขบวนทหาร ด้วยความคิดถึงที่รุมเร้าจิตใจ ทำให้ชายหนุ่มออกเดินทางล่วงหน้ากลับมาที่วาร์ดิกัน อาเธอร์เข้ามาขอพบท่านเสนาบดีฮาเดสถึงที่บ้าน เพื่อแจ้งให้ฮาเดสรู้ว่าเขาต้องการจะสู่ขอแอนนาอีสมาเป็นภรรยาเอก “บิดาไม่อาจจะตอบตกลงแทนบุตรสาว ข้าคงต้องสอบถามความสมัครใจของนางก่อน” ฮาเดสเลี่ยงตอบ “ข้ามั่นใจว่านางจะตอบตกลง ภายในสิบวันข้าจะให้บิดามาเจรจาสู่ขอแอนนาอีสอย่างเป็นทางการ” อาเธอร์พูดอย่างหยิ่งยโส เขามีนิสัยไม่ผิดแผกแตกต่างไปจากสมุหนายกฮันเตอร์ ผู้เป็นบิดาของเขาแม้แต่น้อย ในอดีต สมัยที่สมุหนายกฮันเตอร์ เป็นแม่ทัพใหญ่ของวาร์ดิกัน เขาก็หลงตนบ้าอำนาจ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ร่าเริงบันเทิงสวาทกับสตรีไม่เลือกหน้า แม้กระทั่งลูกเมียชาวบ้านก็ยังไม่ละเว้น หากใครที่ขัดขืนจะต้องถูกฆ่าตาย หรือถ้าเป็นสตรีในครอบครัวที่มีอิทธิพล ฮันเตอร์ก็จะใช้เล่ห์กลและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ หลังจากกล่าวอำลาท่านเสนาบดีฮาเดส อาเธอร์ไม่ได้กลับไปอย่างที่เขาบอก ทว่าชายหนุ่มได้แอบลักลอบเข้าไปหาแอนนาอีสที่ห้องนอน ร่างลึกลับที่โผล่พรวดพราดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ทว่าอาเธอร์ยื่นมือไปปิดปากของนางเอาไว้เสียก่อน “เจ้าจำสามีของตัวเองไม่ได้รึ ? ” อาเธอร์กระซิบกระซาบข้างใบหูของหญิงสาว แอนนาอีสถอนหายใจยาวด้วยความรู้สึกโล่งอก “ชาวเมืองวาร์ดิกันกำลังจัดพิธีต้อนรับขบวนกองทัพทหารที่เดินทางกลับมาจากการทำศึกกับชาวเวียนนา เหตุใดท่านจึงได้มาอยู่ที่นี่” “เพราะหัวใจของข้าเรียกร้องอย่างไรเล่า” เขากดร่างบางติดกับผนังห้อง และก้มลงจูบริมฝีปากอวบอิ่มด้วยความหิวกระหาย มือไม้ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างสาวสะพรั่งอย่างหลงใหล อาเธอร์อดหลับอดนอนต่อสู้กับความยากลำบาก เพื่อเดินทางข้ามแม่น้ำข้ามป่าเขา กลับมาหาแอนนาอีสให้เร็วที่สุด ทว่าเมื่อได้เห็นใบหน้าสวยหวานของนาง เขาก็ไม่หลงเหลือความอดทน แม้แต่เตียงนอนที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงยี่สิบก้าว อาเธอร์ยังรู้สึกว่ามันไกลเกินไป บรรยากาศสดชื่นรื่นรมย์ภายในห้องนอนของหญิงสาว ทำให้อาเธอร์รู้สึกราวกับได้กอดเทพีวีนัสอยู่บนหอคอยแห่งสรวงสวรรค์ กลิ่นกายสาวหอมหวานรัญจวนชวนเคลิบเคลิ้ม กระตุ้นจิตใจใฝ่ตัณหาของชายฉกรรจ์ ให้ร้อนรุ่มรุนแรงมากกว่าเก่า “หยุดเถิด... ได้โปรด” นางอ้อนวอน “ไยต้องหยุด เจ้าไม่คิดถึงข้าบ้างเชียวหรือ” “หากท่านทำ... เอ่อ... ทำเช่นนี้ เราอาจจะถูกจับได้” แอนนาอีสตอบแบบอ้ำอึ้ง ใบหน้างามแฉล้มก้มหลบสายตาของชายหนุ่ม กิริยาเขินอายแบบเด็กสาวเพิ่งรู้เดียงสา สื่อความนัยให้เขารู้ว่า การร่วมรักของทั้งคู่อาจจะส่งเสียงดังทำให้ผู้อื่นเกิดความสงสัย “เจ้าวางใจเถิด ครั้งนี้ ข้าจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามชักช้า” อาเธอร์ปลดเข็มขัดดึงกางเกงลงไปกองแทบเท้า เขาตลบชายกระโปรงตัวยาวของนางขึ้น จากนั้นจึงจับขาเรียวงามข้างหนึ่งพาดเกี่ยวรอบสะโพกสอบ มือสากกร้านของเขาตะปบลงบนความโหนกนูนขาวสล้าง ปลายนิ้วช่ำชองกามบดขยี้ตุ่มไตไวต่ออารมณ์กระสัน เขี่ยราคะของหญิงสาวให้ปั่นป่วน จนนางสั่นระริกและหยาดเยิ้มด้วยความต้องการ “เจ้าช่วยปลอบประโลมให้ร่างกายของข้าคลายความคิดถึงเจ้าลงบ้างเถิด” อาเธอร์จับมือเรียวงามของนางกอบกุมความเป็นชาย ทว่าเรือนร่างทุกสัดส่วนของแอนนาอีส ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของนาง ดั่งถูกเสกสร้างมาจากอารมณ์รัญจวน สัมผัสจากฝ่ามือนุ่มนิ่มราวผิวทารกที่แตะต้องท่อนเนื้อแห่งบุรุษเพศ ได้ปลุกเร้าไฟปรารถนาของอาเธอร์ให้ยิ่งร้อนแรงเดือดพล่านยิ่งขึ้นหลายเท่า การลูบไล้เพริดพริ้วชวนสยิว บันดาลให้เกิดความเสียวซ่านสุดบรรยาย ปลายนิ้วที่วนเวียนแตะหยาดกามเหนียวลื่นตรงปลายลำลึงค์ ละเลงไต่ไปตามริ้วลายขรุขระปูดโปนบนหนังหุ้มตลอดขนาดอันใหญ่ยาว ทุกอณูรูขุมขนของเขาร้อนฉ่า เหงื่อกาฬของเหลวเอ่อซึมออกมาราวกับลาวาปะทุ กระแสเลือดร้อนระอุในร่างของชายหนุ่มไหลมารวมอยู่กึ่งกลางกาย เขาไม่อาจต้านทานความใคร่ใฝ่กระสันที่รุมเร้าได้อีกต่อไป อาเธอร์จ่อปลายองคชาติแทงเข้าสู่หนั่นเนื้อความสาวของแอนนาอีสอย่างหยาบคาย ไม่ต่างจากสัตว์ป่าคร่าสวาท “อูยยย... แอนนาอีส เจ้าช่างรัดรึงเหลือเกิน” เขาสูดปากครางซี๊ดซ๊าดไม่หยุด พลางเสือกกายล่ำสันเสียดสีกลีบเนื้ออวบอูมชุ่มฉ่ำอย่างหื่นตัณหา เครื่องเพศพวงพีเหยียดยาวขยายขนาดใหญ่โต คับแน่นในช่องทางสวาทของหญิงสาว คาวแห่งความกระสันเสียวเคลือบแก่นลำเป็นเงามันละเลื่อม ยามโผล่หัวมุดเข้าออกในร่องรู แอนนาอีสรู้สึกได้ถึงผิวสัมผัสอันขรุขระผ่าวร้อนของท่อนเอ็นเขื่องแข็งที่เสียดสีบดขยี้กลีบเนื้อของนาง “อูยย ซี๊ดดด อาา...” อาเธอร์ก้มลงมอง ภาพความเคลื่อนไหวสุดสยิว ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายวาวโรจน์ราวกับมีกองไฟสุมอยู่ภายใน เขายกบั้นท้ายกลมกลึงลอยขึ้น ทำให้แอนนาอีสต้องโอบขาเหนี่ยวรั้งสะโพกสอบและวาดแขนคล้องรอบต้นคอแกร่งเพื่อพยุงกาย “กอดข้าเอาไว้แน่นๆ” น้ำเสียงพูดแหบพร่า อาเธอร์โก่งก้นกอยออกห่าง เขายกร่างบางขึ้นสูง แล้วปล่อยลงพร้อมกับแทงใส่นางอย่างน่าหวาดเสียว เสียงน้ำ เสียงเนื้อ กระแทกกระทั้นดัง ตับ ตับ ตับ ก้องกังวาลสนั่นห้อง ท่วงทำนองสอดคล้องกับเสียงร้องครวญครางด้วยความซ่านเสียวสยิวทรวงของหนุ่มสาว “อะ! อ๊าา... อาเธอร์! อาเธอร์!” แอนนาอีสจิกเล็บขยุ้มข่วนเนื้อหนังเรียบตึงบนไหล่หนา นางกรีดร้องเรียกชื่อของอาเธอร์สุดเสียง ภายในความสาวบีบรัดรอบลำเอ็นหนาระรัวถี่ “ซี๊ดดด... ข้า อาา... ข้าเกือบแล้ว...” ลมหายใจของชายหนุ่มกระหืดกระหอบ ฝ่ามือหยาบกร้าน บีบขยำแก้มก้นนุ่มนิ่มเด้งสู้มืออย่างเมามัน ในเวลาเดียวกันก็ขยับโยก กระแทกกระทั้นเข้าออกในเนื้อหนั่นสาวสดรัดรึงด้วยความหื่นกระหาย จนกระทั่งจังหวะตอกตรึงสุดท้าย อาเธอร์ครางออกมาด้วยความสุขสมสุดขีดอารมณ์ใคร่ พร้อมกับพุ่งกระฉูดเข้าสู่ภายในความสาวอย่างรุนแรงราวกับน้ำพุ “หากต้องขาดใจตายในตัวเจ้า ข้าก็ยินดี” เขาพร่ำเพ้อเมามายอยู่ท่ามกลางหมอกควันแห่งกามาหฤหรรษ์ที่ยังอบอวลอุ่นซ่านในสำนึกกระสัน ทว่า... เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างอุกอาจ ทำให้อาเธอร์ตกใจสุดขีด เขาถูกหญิงสาวผลักแบบไม่ทันตั้งหลัก ร่างสูงใหญ่จึงเซถลาล้มลงไม่เป็นท่า “ท่านอาเธอร์บุกเข้ามาในห้องและข่มเหงข้า” แอนนาอีสวิ่งกระเซอะกระเซิงไปหลบอยู่ด้านหลังของบิดา “ลุกขึ้นมาสู้กับข้า ไอ้คนสารเลว!” ฮาเดรียนตะคอกเสียงใส่พี่ชายต่างมารดา “ฮาเดรียน! เจ้ามาได้อย่างไร ? ” อาเธอร์งุนงง แต่เขาไม่มีเวลาให้ครุ่นคิด เพราะต้องรีบชักดาบออกมารับมือกับฮาเดรียน ทั้งคู่ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ทว่าอาเธอร์เพิ่งจะทุ่มเทเรี่ยวแรงไปกับการแสดงบทรักกับสาวงาม ทำให้เขาพลาดท่าเสียทีให้น้องชายต่างมารดา ดาบของฮาเดรียนเฉือนลำคอของอาเธอร์ขาดสะบั้น ศีรษะของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่กระเด็นตกพื้น กลิ้งไปกองอยู่แทบเท้าของแอนนาอีส ดวงตาของอาเธอร์เบิกโพลง ราวกับวิญญาณของเขาเพิ่งล่วงรู้ว่า นางคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทุกอย่าง!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม