คลื่นน วึบ วึบ วูบ
ผมที่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็ได้พบกับหงส์ที่กำลังนั่งสมาธิ ซึ่งบริเวณอกเป็นภายนอกของจุดศักยภาพเธอที่เปล่งแสงออกมา และสุดท้ายแสงนั้นก็ค่อยๆซึมกลับเข้าไปตรงกลางอก
[เลื่อนระดับเสร็จสิ้น]
ก่อนที่จะมีข้อความประกาศขึ้นบนหัวของหงส์ มันทำให้ผมยกยิ้มมุมปากในทันที แต่เมื่อผมหวนกลับมาคิดเกี่ยวกับเงื่อนไขการอัพระดับ มันคือการฆ่าซอมบี้ 1,000 ตัว แต่เงื่อนไขนั้นจะนับก็ต่อเมื่อเรามีเลเวล 100 ของระดับขั้นนั้นๆ แต่…
ทำไมหงส์ถึงเลื่อนระดับได้กัน?
“อืม…” ผมส่งเสียงออกมาก่อนที่จะค่อยๆพยุงตัวขึ้นจากที่นอน ดูเหมือนมันจะเป็นไปตามแผน กองกำลังของควีนได้กลับไปที่ค่าย ผมและหงส์ซ่อนตัวอยู่ที่นี่เพราะผมไม่มีสติ โดยที่หงส์นั้นนั่งอยู่ข้างๆผม อยู่บนเตียง และเมื่อผมขยับ มันทำให้หงส์รับรู้และหันมาทางผมทันที
“พี่ตื่นแล้ว” หงส์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและดีใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการอัพเลเวลของเธอระหว่างที่ผมพักฟื้น มันคือสิ่งที่ผมสั่งเธอไว้
“ยินดีด้วยที่เลื่อนระดับเป็นผู้เล่น” ผมกล่าวและยิ้มอย่างพอใจ
ผู้เล่นรอดชีวิต
หงส์บิน
เลเวล 1
และหลังจากที่ผมพูดคุยเบื้องต้นหลังจากที่ผมหลับไปเสร็จเรียบร้อย ผมก็ไม่รอช้าที่จะไปห้องน้ำในห้องพัก และจัดการตัวเองทั้งอาบน้ำ แปรงฟัน ทุกๆอย่างนี้ได้ถูกเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ซึ่งเมื่อผมออกมาจากห้องน้ำ หงส์ก็ได้ทำไข่ลวกให้ผมกิน และเหมือนเธอกำลังต้มยาเพิ่มเลเวลให้ผมอีกด้วย โดยจากที่ผมคาดการณ์ไว้ การเลื่อนระดับของหงส์และผมจะสามารถทำให้ด้วยทรัพยากรณ์ที่มีในตอนนี้ เพราะควีนเองก็ได้มาเยี่ยมในทันทีที่กลับไปที่ค่าย เธอได้จัดการบางอย่างและนำหญ้าสีฟ้ากลับมาพอสมควร
“พี่หลับไป 15 ชั่วโมงเลยงั้นหรือ?” ผมกล่าวถามย้ำอีกครั้งก่อนจะกระดกไข่ลวกในถ้วย 3 ลูกไปจนหมด ซึ่งหงส์ก็ได้นำหม้อยาอัปเลเวลมาให้ผมทันที หลังจากที่เธอได้อัปเลเวลและเลื่อนระดับแล้ว เธอจึงพอจะรู้เกี่ยวกับทรัพยากรณ์ที่ต้องใช้ เธอจึงจัดการให้ผมเรียบร้อย
แต่เธอลืมอะไรไปหรือเปล่า?
‘ผมมีจุดศักยภาพ 9 จุดและไม่มีสัตว์เลี้ยง' ซึ่งผมก็ไม่ได้กล่าวอะไร ถ้าหากผมดื่มจนผมสามารถเลื่อนระดับได้ ผมก็จะแบ่งที่เหลือให้กับเราทั้งสองคนดื่มมัน โดยที่ปริศนาการเลื่อนระดับโดยไม่ข้ามเงื่อนไข มันก็เพราะว่าเป็นเงื่อนไขพิเศษสำหรับฉายาที่เราได้มา นั่นก็คือ ฉายา ผู้บุกเบิก โดยเราจะได้รับจากการเคลียร์ดันเจี้ยนซอมบี้เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งมันคือปาร์ตี้ของผมที่มี ควีน หงส์ และผม เราทั้งสามคนจะได้รับเงื่อนไขพิเศษโดยไม่ต้องกำจัดซอมบี้ 1,000 ตัว เพื่อเลื่อนระดับ
‘คุ้มมาก’ มันทำให้ผมคิดในใจอีกครั้งระหว่างที่กำลังซดยาอัปเลเวล การเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปจัดการต้นกำเนิดซอมบี้เพียงแค่ผู้เล่นมือใหม่ 3 คน มันเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อผมที่มีอดีตเป็นถึงผู้เล่นแนวหน้าที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษยชาติ มันจึงมีความเป็นไปได้สูง เพราะนอกจากความรู้ที่ผมมีแล้ว ทักษะในการต่อสู้ของผมยังดีมากๆ และดีที่สุดก็คือพวกซอมบี้ยังไม่มีเลเวล ผมจึงวางแผนจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย
[คุณอัปเลเวลจนถึงขั้นสูงสุดของระดับผู้รอดชีวิตแล้ว]
[คุณต้องการเลื่อนระดับโดยใช้เงื่อนไขพิเศษหรือไม่?]
[เงื่อนไขพิเศษ : กลุ่มผู้เล่นของคุณได้เคลียร์ดันเจี้ยนซอมบี้เป็นกลุ่มแรกของโลก พวกคุณจึงถูกกล่าวว่าเป็นความหวังของมนุษย์ พวกคุณจึงได้รับความพิเศษมากกว่าผู้เล่นคนอื่น]
[ตกลง]
ผมตอบไปอย่างไม่ลังเล และทันทีที่ผมอยู่ในช่วงเลื่อนระดับ ซึ่งมันจะใช้เวลาราวๆ 10 นาที เพื่อปรับโครงสร้างร่างกายของผม โดยที่การเลื่อนระดับครั้งหนึ่ง ร่างกายของเราจะแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆส่วนของแต้มสเตตัส ซึ่งในระหว่างที่ผมกำลังเลื่อนระดับ หงส์ก็ได้เห็นสิ่งที่ผมเห็นไปแล้ว นั่นก็คือจุดศักยภาพ 9 จุดของผมได้เปล่งแสงบริเวณกลางอกของผม เธอถึงกับกลืนน้ำลายดังอึก เพราะพี่ชายที่ย้อนเวลากลับมาของเธอนั้นบอกกล่าวไว้ว่าเขาคือมนุษย์ที่มีจุดศักยภาพมากที่สุดก่อนจะตายลง
แต่นั่นมันคือสิ่งที่ผมกล่าวออกมาได้ไม่เต็มปากนัก เพราะว่าอาจจะมีมนุษย์บางคนที่มีจุดศักยภาพถึง 10 จุด แต่พวกเขาเสียชีวิตไปก่อน? หรืออาจจะเป็นพวกเงา? ซึ่งพวกเงาก็คือพวกที่ไม่สุงสิงกับมนุษย์ พวกเขาจะใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว เอาชีวิตรอดคนเดียว โดยที่พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนมีสัตว์เลี้ยง และจะมีจุดศักยภาพในระดับเดียวกันกับผม
[คุณเลื่อนระดับเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอดสำเร็จ]
[ค่าสเตตัสของคุณเพิ่มขึ้น]
[AGI +10 , CON +10 , DEX +10 , STR +10 , VIT +10]
[ปลดล็อคกระเป๋ามิติ] [ปลดล็อคอันดับ]
[ปลดล็อคความสำเร็จ(ฉายา]
[ปลดล็อคการเพิ่มเพื่อน]
“อ่าห์!” และเมื่อการเลื่อนระดับเสร็จสิ้น มันทำให้ผมรู้สึกสดชื่นและรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นพอสมควร
“เอาล่ะพี่พร้อมแล้ว” ผมกล่าวหลังจากที่หงส์ได้เตรียมตัวเดินทางเสร็จสิ้น เพราะเราคุยกันไว้ว่าถ้าหากผมเลื่อนระดับสำเร็จ เราจะเดินทางไปที่ค่ายเซฟโซนทันที ถึงแม้มันจะเรียกว่าเซฟโซน แต่มันก็ยังคงไม่ใช่เซฟโซนที่แท้จริง เพราะการที่จะมีเซฟโซนที่แท้จริงได้ ผู้นำค่ายจะต้องอยู่ในระดับขั้นการ์เดี้ยนซะก่อน
'ในตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่าควีนและพวกของควีนกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหนในค่าย"
เพราะการกระทำของเธออาจจะเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติ หรือการแย่งชิงอำนาจในการปกครองสถานที่นั้น ซึ่งจากที่เธอได้นำหญ้าสีฟ้ามาให้ผมได้ มันแปลว่าเธอน่าจะทำสำเร็จ
หรือเธออาจจะขโมยมา?
ผมเองก็ไม่มั่นใจกับสิ่งที่เธอทำ ผมรู้เพียงแค่ว่าในตอนนี้ผมต้องไปเยือนค่ายให้เร็วที่สุด ผมจะต้องไปยืนหยัดอยู่ข้างๆควีน พลังและอำนาจจึงจะคงที่ที่ควีน ด้วยระดับผู้เล่นเอาชีวิตรอดของผมและหงส์ มันแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นที่มีเลเวลต่ำเป็นอย่างมาก ผมจึงคิดว่าการมีอยู่ของผมและหงส์จะทำให้ทุกคนเกรงกลัว
ณ ซอยหอพัก T-place
‘บริเวณนี้กลายเป็นค่ายผู้รอดชีวิตอย่างเต็มตัวแล้วสินะ’ ผมกล่าวเมื่อได้เห็นรั้วลวดหนามที่พวกทหารทำขึ้นรอบๆสถานที่นี้ โดยที่ทางด้านหน้าซอยจะเป็นประตูบานใหญ่ มีพวกทหารคอยตรวจสอบผู้รอดชีวิตที่จะเข้าไปข้างในอยู่ตลอดเวลา
“พวกคุณมาจากไหน?” ทหารยามกล่าวถามผมมื่อถึงคิวของผม ซึ่งถึงแม้พวกเขาจะกล่าวกับผม แต่สายตาของพวกเขากลับไปวนเวียนอยู่ที่หงส์ โดยที่พวกเรานั้นไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ไม่มีกระเป๋าเป้หรือสัมภาระ ไม่มีอาวุธ
เพราะสิ่งของพวกนั้นอยู่ในกระเป๋ามิติเป็นที่เรียบร้อย โดยที่กระเป๋ามิติจะได้รับการปลดล็อคก็ต่อเมื่อเราเลื่อนระดับขึ้นเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอด ทั้งนี้ทั้งนั้นมันยังปลดล็อคเมนูใหม่มากมาย แต่ผมยังไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น ผมสนใจความปลอดภัยคนในปาร์ตี้ของผม
“ในมหาลัย” เมื่อผมกล่าวออกไป ทหารทั้งสองคนต่างหันมองหน้ากัน
“ชายหนึ่งหญิงหนึ่งดูโดดเด่น”
“หรือว่าพวกคุณคือคนของท่านพันเอก?” ทหารยามทั้งสองนายกล่าวถามพวกเราด้วยความเคารพ ในตอนนี้เชื่อว่าความสามารถของพวกเราคงจะถูกบอกต่อๆกันไปเป็นที่เรียบร้อย
“ไม่ใช่…” เมื่อผมปฏิเสธพวกเขาถึงกับแสดงท่าทางระวังผม
“ควีน…พันเอกที่พวกคุณกล่าวถึงต่างหาก”
“ที่เป็นคนของผม” ผมกล่าวออกไป และมันทำให้พวกเขาถึงกับสะดุ้ง
พันเอกเป็นคนของมันงั้นหรือ?
บ้าหรือเปล่า!?
ควีนเป็นถึงหัวหน้าหน่วยรบพิเศษทีมที่ 1 และยังเป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆในกองทัพ ไอตัวยักษ์ใหญ่มาจากไหนก็ล้มเธอไม่ลง เพราะนอกจากเธอจะมีทักษะที่ดีแล้ว เธอยังรู้จุดอ่อนของมนุษย์เป็นอย่างดีด้วย ทั้งยังมีแผนการที่ล้ำลึก ทำให้ไม่ว่าจะเป็นภารกิจไหนที่มอบหมายให้เธอ เธอก็สามารถทำมันจนสำเร็จลุล่วงได้อย่างแน่นอน
“เชิญเข้าไปได้ครับ” ทหารทั้งสองกล่าวพร้อมกับเปิดประตูให้ผมเป็นอย่างดี และเมื่อผมได้เข้ามาในค่าย…
“ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ!!” ทหารถือปืนกลุ่มใหญ่ได้ล้อมรอบทางเข้าค่ายเป็นครึ่งวงกลม ทั้งยังเล็งอาวุธปืนมาที่พวกเรา
“หืม…” ผมถึงกับส่งเสียงออกมา ด้วยความที่ไม่คิดว่าจะได้รับการต้อนรับเช่นนี้
‘แสดงว่าเป็นความจริง’
‘ควีนยังมีปัญหาเรื่องอำนาจ’ ผมคิดในใจ ระหว่างที่กำลังใช้สายตามองไปรอบๆค่าย ผู้คนมากมายต่างให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่หน้าค่าย และกำลังคิดว่าพวกเราติดเชื้อ
“พวกคุณแน่ใจแล้วใช่ไหม?” ผมกล่าวออกไป เพราะผมยังไม่อยากก่อเรื่อง มิฉะนั้นมันอาจจะส่งผลกระทบไปถึงอำนาจของควีน เพราะถึงยังไงแล้วทหารพวกนี้ก็ถือเป็นเหล่าบุคคลที่ช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และสร้างค่ายนี้ขึ้นมา
“พวกผู้เล่นเลเวลต่ำ…” และเมื่อผมเรียกพวกเขาเช่นนี้ มันทำให้พวกเขามองขึ้นไปเหนือหัวของผม รวมถึงเหนือหัวของหงส์เช่นกัน
“อะ…อึก….” พวกเขาถึงกับมือไม้สั่นกันเลยทีเดียว ในขณะที่พวกเขาคิดว่าพวกเขานั้นกลายเป็นยอดมนุษย์ ที่มีร่างกายแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไปด้วยพลังวิวัฒ แต่มันก็จะมีระดับและเลเวลของมันอยู่ พวกเขาเป็นเพียงผู้รอดชีวิต เลเวลยังไม่ถึง 10 เสียด้วยซ้ำ กลับกันผมเป็นผู้เล่น ซึ่งความต่างของแต้มสเตตัสมันก็มากกว่าจนพวกเขาเทียบไม่ติด พวกเขาจะมาสู้กับตัวตนที่มีความแข็งแกร่งระดับผมจริงๆงั้นหรือ?
เพราะพวกเขานั้นได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งมาแล้ว พวกเขาได้ลองใช้พลัง ได้หลงระเริงในแต้มสเตตัส แต่พวกเขายังคงเป็นมือใหม่ที่มันแตกต่างจากมืออาชีพอย่างผม และมันไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว ยังมีหงส์ที่เป็นน้องสาวของผม ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าหากมีเรื่องกับผม ก็เท่ากับมีเรื่องกับควีน แต่พวกเขานั้นไม่คิดว่าพวกเราจะมีระดับและเลเวลมากมายถึงขนาดนี้ เนื่องจากพวกเขาเองก็เข้าใจดีเกี่ยวกับความยากลำบากในการอัปเลเวลเป็นอย่างดี
"ถอยไป" ผมกล่าวเบาๆ แต่ด้วยแรงกดดันทุกๆสิ่งจากผม ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียง ท่าทาง มันทำให้พวกทหารลังเลและเริ่มลดอาวุธลง ส่วนผมกำลังเดินตรงไปในสถานที่ป้องกันแน่นหนาที่สุดของค่าย นั่นก็คือบริเวณที่ผลึกสึฟ้าอยู่ มันถูกปกคลุมไปด้วยแคมป์ขนาดใหญ่ ทั้งยังมีเหล่าทหารและตำรวจเฝ้ากันอีกเป็นจำนวนมาก
“อย่าเข้ามา!” พวกทหารที่เฝ้าแคมป์นี้เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ก่อนแล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงขู่ผมอย่างสุดความสามารถ และหวังจะให้พวกระดับสูงของตนออกมาหยุดยั้งผม
“จะทำอะไรน่ะ?” เสียงใสกล่าวถามในขณะที่กำลังเดินมา เธอเดินมาพร้อมกับกลุ่มทหารของเธอ และมันทำให้ทุกคนในค่ายต่างจ้องมองสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาสับสน ว่าผมเป็นใคร? และเพราะอะไรพวกทหารถึงกลัวผมอย่างกับเห็นผี!
“ต้นกำเนิดผลึกวิวัฒ”
“ฉันจะเอามันไป 3 ในสิบ” ผมกล่าวออกไปตรงๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผมไม่ได้กล่าวแผนให้ควีนฟัง เกี่ยวกับการตัดแบ่งต้นกำเนิดผลึกวิวัฒ ซึ่งมันทำให้เธอสับสนเป็นอย่างมาก เพราะเธอเองก็พอจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผลึกวิวัฒแล้ว ว่ามันคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์สามารถวิวัฒนาการตัวเองได้ และภายในตรงกลางผลึกขนาดใหญ่ จะมีแกนสีฟ้าเข้มอยู่ มันน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผลึกไม่มีวันหมด และยังคงฟื้นฟูได้อยู่ตลอด
“ว่ายังไงนะ!?” พวกหารถึงกับตกใจมาก ไม่ใช่เพราะความต้องการของผม แต่เพราะไม่ว่าพวกเขาจะใช้สว่านเจาะขนาดไหนกับต้นกำเนิดผลึกวิวัฒ พวกเขายังไม่สามารถทำรอยขีดข่วนกับมันได้แม้แต่น้อย
‘การที่มังกรกล่าวเช่นนี้…’
‘เขาคงจะมีวิธีตัดมัน’ ควีนคิดในใจระหว่างที่ผู้คนรอบตัวเธอนั้นพากันตกใจในสิ่งที่ผมกล่าว
“ไม่ได้!”
“มันคือแสงสว่างของมวลมนุษย์!” เสียงที่คุ้นเคยตะโกนลั่นพร้อมกับพุ่งไปขวางข้างหน้าแคมป์ มันทำให้ผมเม้มปากในทันทีเมื่อได้เห็นเลเวลของเขา
ผู้รอดชีวิต
เจมส์
เลเวล 14
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" ผมกล่าวทักทายอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนเขาจะจริงจังกับสิ่งที่ผมกล่าวไปเมื่อครู่มากๆ
‘ผู้เล่นเลเวล 1’
‘ความแข็งแกร่งของเขาจะขนาดไหนกันนะ?’ เจมส์ได้แต่คิดในใจด้วยความกดดัน เพราะก่อนหน้านี้ที่ได้พบกันช่วงเริ่มโลกาวินาศ มังกรมีทักษะที่น่าเหลือเชื่อมากๆ ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าในตอนนี้ที่เขามีเลเวลมากกว่าเราเกือบร้อยเลเวล เขาจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นขนาดไหน?
ฟึบๆๆๆ
และเมื่อเจมส์ได้เป็นเสาหลักในการป้องกันเช่นนี้ มันทำให้เหล่าทหารพากันฮึกเหิมและรุมล้อมเราสองพี่น้องเอาไว้ ซึ่งต่างจากครั้งแรกที่หงส์มีแต่ความกังวล เมื่อเธอได้สัมผัสชีวิตใหม่หลังจากวิวัฒนาการ จนมาถึงตอนนี้ เธอมีท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างมาก เธอไม่หวาดกลัวการถูกรุมล้อมเช่นนี้แม้แต่น้อย เพราะเธอเองก็เข้าใจดีเกี่ยวกับความสามารถที่ต่างกันของเลเวล
“หงส์…ทำลายอาวุธพวกเขา” ผมกล่าว และมันทำให้หงส์ยื่นมือออกไปหยิบด้ามหน้าไม้ออกมาจากหลุมอากาศขนาดเล็ก
“นั่นมันอะไรน่ะ!?” และมันทำให้ทุกตกใจเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ควีน ซึ่งทำให้หงส์จึงได้โอกาสในการทำลายปืนที่พวกทหารถืออยู่
ฟึบๆๆๆๆๆๆๆ
“หืม?” และเมื่อพวกทหารรู้ตัวหลังจากที่พวกเขาเห็นร่างกายของหงส์หมุนไปหมุนมา ปืนของพวกเขาก็มีลูกธนูดอกเล็กเจาะในส่วนสำคัญซะแล้ว และมันจะทำให้ปืนของพวกเขาไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
“ไม่ว่ายังไงเราต้องหยุดพวกเขาไว้ให้ได้!!” หัวหน้าตำรวจที่ยศใหญ่ท่ีสุดในค่ายตอนนี้ได้เดินออกมาและเล็งปืนพกมาที่ผม ซึ่งเขาเดินมากับชายร่างใหญ่สองคน
‘ทั้งสองคนเป็นผู้เล่นเลเวล 15’ ผมกล่าวในใจเมื่อได้เห็นเลเวลของทั้งสอง
ฟึบๆ
‘ช้า’ ผมกล่าวในใจเมื่อทั้งสองคนได้พุ่งมาหาผมด้วยความเร็วสูงสุดของตน แต่ในสายตาของผม พวกเขาทั้งคู่ช้ามาก
ตุบๆ ฟูบบ
ผมใช้ศอกในการรับหมัดของพวกเขาทั้งคู่ เริ่มจากซ้ายและขวา ซึ่งมันทำให้ผมถอยหลังไปพอสมควร เนื่องจากผมไม่ได้เป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอดสายพลัง กลับกันผมสามารถรับการโจมตีของทั้งสองได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ
“ฉันไม่เกี่ยว” ควีนกล่าวเมื่อเหล่าทหารคาดหวังให้เธอช่วยหยุดยั้งมังกร แต่ควีนกลับคิดว่าการที่มังกรทำเช่นนี้ เขาจะต้องมีแผนการอันน่าเหลือเชื่ออีกอย่างแน่นอน เธอจึงไม่ขอยุ่งกับมังกร
และอีกอย่าง ต่อให้ทหารทั้งค่ายรุมโจมตีทั้งสอง พวกเขาก็จะสามารถเอาตัวรอดได้อยู่ดี บางทีอาจจะสามารถจัดการพวกทหารไปได้พอสมควรเลยทีเดียว
“งั้นหรือ?”
“ผู้เล่นสายพละกำลัง” ผมกล่าว ดูเหมือนทหารทั้งสองคนนี้จะเน้น STR เพื่อการโจมตีที่หนักหน่วงเป็นหลัก
ฟึบๆ ฟุบ
ในพริบตาผมได้พุ่งเข้าไปเบื้องหลังของทั้งสองคน และใช้ศอกในการโจมตีบริเวณหลังคอของพวกเขา และมันทำให้สติของพวกเขาหายไปในทันที ร่างกายยักษ์ใหญ่ของทั้งคู่ได้ร่วงหล่นลงพื้นและหมอบไปพร้อมกัน