“พะย่ะค่ะท่านพ่อ”
“ตามใจเจ้าเถอะราฟาล แม่กับอินทุอรจะไม่เข้าไปยุ่งกับงานในเหมือง แต่แม่อยากเตือนเจ้า อินทุอรเป็นคนของแม่ ห้ามเจ้ามายุ่งวุ่นวายหรือเรียกใช้นางเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้รู้โทษการฝ่ายืนคำสั่งราชินี”
“ท่านแม่ ท่านคิดว่าข้าจะทำอะไรนาง เนื้อตัวนางสกปรกมอมแมม รูปร่างผอมบาง ใช้งานนิดๆ หน่อยๆ ก็คงแตกหัก ลูกไม่เคยอยากใช้งานนาง”
แกล้งพูดให้สาวเจ้าโกรธ เห็นนั่งหน้านิ่งมานาน ตอบแค่ เพคะ เพคะ พูดเป็นคำเดียวหรือไรไม่รู้
เอาเรื่องนะ นางทำคอแข็งหันมามองหน้าท่าน
“ท่านพ่อท่านแม่ดูนางทำตาใส่ลูกสิ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน”
“ราฟาล เลิกแกล้งนางได้แล้ว” องค์ลัยลาห์ปราม
“แตะต้องนิดหน่อยไม่ได้ ท่านแม่ช่างโปรดปราณนางเหลือเกิน แล้วแบบนี้ลูกจะกล้าเรียกใช้งานนางได้อย่างไร”
“ก็ไม่ต้องเรียก คนของเจ้ามีตั้งเยอะจะมาใช้งานคนของแม่ได้อย่างไร แม่เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้นางไม่ใช่เจ้า”
“ราฟาล เจ้าหยุดยั่วโมโหแม่เจ้าได้แล้ว”
“ลูกเปล่านะท่านพ่อ”
องค์ราชาเริ่มจะปวดพระเศียร หลังฟังพระชายาเถียงกับบุตรชายคนโตนานเข้า หันไปพูดกับหญิงต่างชาติ
“อินทุอร ท่านราฟาลเก่งด้านการงาน เจ้ามีปัญหาเรื่องงานอันใดก็สามารถถามท่านโดยตรงได้ เจ้าจะได้รับสวัสดิการทุกอย่างตามที่องค์ราชินีแจ้งไว้ ขอบใจเจ้าที่มาช่วยงานข้า”
“ขอบพระทัยที่เมตตาหม่อมฉัน หม่อมฉันจะนำความรู้ความสามารถที่เคยเรียนมาประยุกต์ใช้ให้มากที่สุด จะช่วยแบ่งเบาภาระงานองค์ราชินี และจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังเพคะ”
อินทุอรเอ่ยด้วยน้ำเสียงไพเราะ ส่งรอยยิ้มหวานไปให้ผู้ปกครองประเทศ รวมถึงบุตรชายของพระองค์
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากอังกฤษ อินทุอรก็ย้ายมาทำงานที่ประเทศคาโนเรอาไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้าน เกิดความคิดถึงบิดามารดา โชคดีที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ทันสมัย แค่ปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัวที่กรุงเทพได้
อินทุอรยื่นแขนข้างที่ว่างออกไปให้นางข้าหลวงช่วยลงครีมประทินผิวทั่วท่อนแขน แรกเริ่มก็อายอยู่มากที่ต้องแก้ผ้าปล่อยให้ตัวเปลือยต่อหน้าคนอื่น แต่สาวทั้งสองคนบอกไว้ว่าเป็นรับสั่งขององค์ราชินี หากไม่ทำตามจะถูกลงโทษ ทุกวันเฉพาะตอนเย็นสองสาวจะเข้ามาช่วยอาบน้ำ ทาครีม พรมน้ำหอมกลิ่นธรรมชาติ
กลิ่นต่างจากครีมบำรุงผิวที่วางขายในประเทศไทย เกือบทั้งหมดเน้นขายการเพิ่มความขาวใสไร้จุดด่างดำให้ผิว แต่ในเมืองนี้จะเน้นความชุ่มชื่นแล้วก็กลิ่นเนื้อครีมที่แตกต่าง เนื่องจากสภาพอากาศประเทศเป็นเขตเมืองร้อน ผิวพรรณถูกแดดทำลายบ่อยเข้าอาจส่งผลให้แห้งเหี่ยว ต้องมีตัวช่วยอย่างครีมพวกนี้มายับยั้งไว้ ไม่ให้ผิวของสตรีขาดน้ำและเหี่ยวเฉา
นางข้าหลวงพูดได้แค่ภาษาอาหรับ การสื่อสารค่อนข้างยาก จะเข้าใจสองสาวได้จากสีหน้าแววตาและการแสดงออกทางมือ ใกล้จะแล้วเสร็จทุกขั้นตอน นางคนหนึ่งหน้าตาอ่อนเยาว์มากกว่า ใช้หวีสางผมให้เรียบจากนั้นสองสาวก็กลับไปพักผ่อน สายจากเมืองไทยยังไม่ถูกตัดไปอินทุอรชวนท่านคุยต่อ
“แม่ไม่ต้องห่วงอินนะคะ อยู่ไปสักพักก็คงชินกับสภาพอากาศ วัฒนธรรม ประเพณีที่นี่ไปเอง เพียงแต่ปรับตัวยากหน่อย ประเทศแถบนี้ต่างจากอังกฤษและบ้านเราคนละขั้ว”
‘ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่แม่ก็อดเป็นห่วงอินไม่ได้อยู่ดี รอพี่ชายเราเคลียร์งานเสร็จ แม่จะให้พี่เขาไปอยู่เป็นเพื่อน”
“อย่าลำบากเลยค่ะ พี่อิฐงานยุ่ง อินดูแลตัวเองได้ พระราชินีท่านเมตตาอินมาก นอกจากจะให้อาศัยในวังแล้วยังให้ร่วมโต๊ะอาหาร แล้วยังให้หมอหลวงมาดูแลอินด้วยนะคะ”
‘ทำงานวันแรกก็เป็นลม เฮ้อ แม่เป็นห่วงจะแย่แล้ว เอ๊ะ! อย่าเบียดสิพ่อ ถอยออกไปไกลๆ ฉันจะคุยกับลูก’
มารดาอินทุอรหน้าหวานทว่านิสัยไม่ได้นุ่มนวลตาม ตั้งตนเป็นใหญ่ในครอบครัว เป็นช้างเท้าหน้าให้สามีเดินตามหลัง เคยมีคนพูดไว้ว่าอินทุอรเหมือนท่าน หน้าหวาน แต่นิสัยดุ อินทุอรไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ เพราะในบางครั้งหล่อนก็ได้นิสัยดุมาจากมารดาจริง ครอบครัวหล่อนมีฐานะ ประกอบธุรกิจค้าขายทองคำและเครื่องเพชร มีพี่ชายชื่ออรรถพลดูแลกิจการ
พวกท่านสามารถส่งหล่อนเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษได้สบายๆ แต่เพราะอินทุอรเป็นเด็กกิจกรรมมีคอนเน็กชั่นเยอะ รู้จักรุ่นพี่ที่ได้รับทุนหลายคนจึงลองมาสมัคร และได้รับคัดเลือกให้ศึกษาฟรี นักเรียนทุนทุกคนจะต้องย้ายมาทำงานในประเทศคาโนเรอาเป็นเวลาสองปี แต่ส่วนมากจะอยู่ยาว เพราะเงินเดือนและสวัสดิการเย้ายวนใจจนไม่ต้องการจะย้ายที่ทำงาน
ดูอย่างอินทุอรสิ เพิ่งย้ายมาก็มีโอกาสมาอาศัยในวังมีนางข้าหลวงมาดูแล หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว
‘ได้ร่วมโต๊ะเสวยกับพระราชาพระราชินีจริงเหรอลูก ได้ถ่ายรูปไว้หรือเปล่า ส่งมาให้พ่อดูบ้างสิ อยากเห็นวังคาโนเรอา เขาว่าสวยมากเลยนะ ข้างในวังเฟอร์นิเจอร์เป็นทองคำ แม่!’
บิดาแย่งโทรศัพท์ไปคุยไฟแลบได้ไม่นานมารดาก็แย่งกลับ งอนยกใหญ่เดินไปนั่งมุมห้องหันหลังให้
‘ถามอะไรไร้สาระ ใครจะกล้าถ่ายเซลฟี่กับผู้ปกครองประเทศ เสียมารยาทแย่ อย่าไปสนใจพ่อเลยนะ’
“อยู่ที่นี่สบายก็จริง แต่อินเกรงใจมากๆ เลยค่ะ จะทำอะไรก็ไม่กล้า อินตั้งใจว่ารอให้งานเข้าที่เข้าทางสักหน่อย ก็จะขออนุญาตพระราชินีออกไปเช่าอพาร์ทเม้นในเมืองหลวง”
‘เดี๋ยวแม่กับพี่อิฐไปช่วยเลือก ทางนี้ให้พ่อดูแลงาน’
“ลืมไปแล้วเหรอคะ ว่าอินมีดานา พวกเรานัดเจอกันสิ้นเดือนนี้ค่ะ”
‘มีเพื่อนช่วยเลือกช่วยดูแม่ก็หายห่วง เวลาเลือกห้องห้ามเลือกจากราคาต่ำสุดนะลูก ให้เลือกห้องที่ใหม่ ปลอดภัย และอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เงินไม่พอใช้ให้รีบบอกแม่’
“แม่ อินทำงานแล้วนะคะ ไม่รบกวนเงินแม่หรอกค่ะ รอเงินก้อนแรกออก อินจะให้แม่หมดเลย”
อินทุอรหัวเราะออกมา ให้มารดาที่เมืองไทยได้ยิน เรือนกายอรชรลุกจากเก้าอี้มานั่งลงบนขอบเตียงลายสักทองคำ
‘โอนมาหมดแล้วอินจะใช้อะไรล่ะลูก ไม่ต้องโอนมาหรอก แม่มีเงินเยอะแล้ว อินเข้านอนเถอะนะลูก พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปทำงาน แม่กลัวอินนอนไม่พอ’
“ค่ะ แม่อยู่ทางนั้นดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
ล้มตัวลงนอน แต่แล้วดวงตาคู่คมของชีคราฟาลก็ปรากฎขึ้นมาท่ามกลางความมืด อินทุอรหยิกเข้าที่แขนตัวเองไม่ให้เผลอใจไปนึกถึงท่าน ท่านเป็นใคร หล่อนเป็นใคร อย่าบ้าสิอิน ท่านโด่งดังในกลุ่มนักเรียนทุนด้านความเก่งและความหล่อคมฉบับหนุ่มตะวันออกกลาง ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงมักจะได้ยินคนอื่นพูดถึงชื่อท่านเสมอ อินทุอรเคยเห็นท่านจากในรูปเพิ่งจะเคยเห็นตัวจริงวันนี้ คิดว่าท่านหน้าตาดีกว่าในรูปเสียอีก