รถลีมูซีนเคลื่อนจากวังหลวงชั้นนอกมาตามถนนสายตรง ทอดยาวไปสู่วังหลวงชั้นในซึ่งเป็นที่ประทับขององค์ราชาและองค์ราชินี ทหารเวรเข้าไปรายงานผู้ดูแลวัง ไม่ช้าชายสูงวัยแต่งกายเรียบร้อยมีนามว่าฟาอิดก็เข้ามาให้การต้อนรับ
“ท่านราฟาล มาเข้าเฝ้าองค์ราชาเหรอขอรับ”
“ข้าอยากกินข้าวกับท่านพ่อท่านแม่”
“ได้เวลาเสวยพอดี เชิญเสด็จเข้าไปข้างในวัง”
ฟาอิดนอบน้อม เดินตามหลังมกุฎราชกุมารลำดับหนึ่งของประเทศไปยังห้องอาหาร ก่อนท่านจะเข้าไปถึง ฟาอิดรีบโค้งกายเดินแซงหน้าไป เพื่อแจ้งให้องค์ราชาองค์ราชินีทราบก่อน
บนโต๊ะอาหารไม่ได้มีพวกท่านแค่สองพระองค์ พวกท่านอนุญาตให้นางคนหนึ่งเข้ามานั่งด้วย แต่นางนั่งหันหลังให้
ราฟาลจึงไม่สามารถมองเห็นหน้าตาของนาง
“ขอบใจฟาอิด ลมอะไรหอบเจ้ามาถึงที่นี่หรือลูกรัก”
องค์ราชินีอ่านสายตาลูกชายออก แม้ว่าเขาจะพยายามเก็บซ่อนความอยากรู้อยากเห็น แต่ก็ไม่อาจรอดพ้น
“ลมคิดถึงขอรับท่านแม่ ลูกไปเยี่ยมแดเนียลที่ปารีส หลานหน้าตาน่ารักน่าชังนัก จึงอยากนำข่าวมาเล่าให้ท่านพ่อท่านแม่ฟัง”
แกล้งพูดไปเรื่อยไม่อยากให้มารดาจับได้ ว่าตนเองอยากมาเห็นหน้าเลขาสาว ขณะเล่าท่านก็เดินอ้อมโต๊ะอาหารมายังอีกฝั่งเคียงข้างพระมารดา
“แดเนียลบอกว่ารอให้ลูกโตขึ้นอีกนิด จะครอบครัวพามาเที่ยวเมืองเรา”
ในทุกย่างก้าวที่ท่านเดิน สายตาก็มองไปยังเสี้ยวใบหน้าของสาวเลขาคนนั้นไปด้วย แปลกเหลือเกินที่แม้จะเห็นยังไม่ชัดใจท่านกลับกำลังเต้นรัว และปรารถนาอยากเห็นหน้านางเร็วๆ
ในที่สุด… ท่านก็ยืนอยู่ตรงข้ามกับนางผู้นั้น
นางก้มหน้าตลอดเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นก็ตอนนี้ ทำให้ดวงตาทั้งสองเลื่อนมาสบกันอย่างตั้งใจ
ใบหน้านางสวยปานนางฟ้านางสวรรค์ ดวงตาคู่นั้นกลมโตไหวระริก มองท่านเพียงแวบเดียวก็รีบก้มลงดังเช่นเคย
ถึงจะแค่ไม่กี่วินาที ท่านก็พอใจนางเหลือเกิน นางสวย เหมือนคนละคนกับตอนกลางวัน
ราฟาลเอ๋ย ไยมีตาหามีแวว ไม่เห็นความงามของนาง
“ถึงวันนั้น ลูกจะรับรองด้วยตัวของลูก”
“อย่างนั้นรึ นั่งก่อนสิ จะได้กินข้าวพร้อมกัน”
องค์ราชินีสั่งบุตรชาย มองตาปราดเดียวก็รู้ไปถึงใจแล้วว่าราฟาลกำลังพอใจในตัวคนของตน แต่ฝันไปเถอะว่าท่านจะยอมยกให้ลูกพานางไปปู้ยี่ปู้ยำในฮาเร็มตามใจชอบ
“นั่งก่อนสิราฟาล ท่านแม่ของเจ้าคงอยากจะแนะนำใครบางคนให้เจ้ารู้จัก” องค์ราชาหมายถึงสตรีหน้าหวานชาวไทย ที่ได้รับเกียรติให้มาร่วมโต๊ะอาหารด้วยในค่ำคืนนี้
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” เจ้าชายหนุ่มโค้งกายลง ก่อนจะนั่งลงข้างพระมารดา สบสายตาคู่หวานแวบเดียวเท่านั้น หล่อนก็หลบเลี่ยงอย่างคนขลาดเขลา หรือไม่ก็เขินอาย
“ฝ่าบาท หม่อมฉันขออนุญาตไปแจ้งห้องเครื่องเพคะ”
สาวคนนั้นทำลายความอึดอัดด้วยการเสนอตัว ลุกขึ้นยืนสง่างาม ถอนสายบัวให้ท่านทั้งสามแล้วรีบเดินออกไป
คล้อยหลังนางผู้นั้น ราฟาลไม่สามารถดึงสายตากลับมาได้ นางสวยเหลือเกิน ราวกับหล่นลงจากสวรรค์
“ลูกรัก แม่คิดว่าเจ้าคงไม่ได้มาส่งข่าวแดเนียลอย่างเดียวกระมัง เพราะเจ้าก็รู้ว่าแม่ติดต่อพวกเขาทุกวัน”
ราฟาลไม่ตอบ เพียงแค่ส่งยิ้มให้พระมารดา เปลี่ยนหัวข้อไปชวนพระบิดาคุยเรื่องงานในโรงกลั่นน้ำมันดิบ แม้สาวหน้าสวยจะกลับมาพร้อมแม่ครัว ท่านก็ยังคงคุย
บทสนทนาบนโต๊ะอาหารดำเนินไปโดยไม่มีสิ่งใดติดขัด ราฟาลไม่ได้ให้ความสนใจกับสาวไทยอีกต่อไป ทำให้ ‘อินทุอร’ คลายความอึดอัดใจไปได้เยอะ
ท่านชีคผู้นี้หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาของท่านคมยิ่งกว่าพญาเหยี่ยว เสียงของท่านทุ้มทว่าในบางคราก็นุ่มเหลือเกิน หากช่วงบ่ายท่านไม่อารมณ์เสียด่าทอว่าหล่อนทำเตียงท่านสกปรก อินทุอรอาจจะปลื้มท่านมากกว่านี้
แต่อินเธออย่าบ้าสิ ท่านเจ้าชู้และมีนางในฮาเร็มนะ
หญิงสาวรับประทานอาหาร ตอบบ้างในบางครั้งที่ถูกถาม โดยเฉพาะเรื่องการเข้าไปดูงานในวันนี้
“ท่านพ่อ ลูกคิดว่าผู้หญิงควรจะให้ทำงานเอกสารด้านนอกก็พอ ไม่ควรเข้าไปยุ่งย่ามภายในเหมืองหรือบ่อน้ำมันที่เต็มไปด้วยผู้ชาย และอันตราย เกิดมีใครกลัดมันฉุดนางไปทำมิดีมิร้ายเข้า คงจะลำบากลูกต้องดูแล”
“ก็จริงของเจ้าราฟาล หรือน้องหญิงคิดว่าอย่างไร”
“น้องก็ว่าดีเพคะ อากาศร้อนเหลือเกิน ให้อินทุอรช่วยงานด้านเอกสารด้านนอกกับน้องจะดีกว่า ส่วนภายในก็ปล่อยให้ราฟาลจัดการเหมือนเดิม อิน ต่อจากนี้เธอคอยช่วยงานฉันแล้วก็ประสานงานกับท่านนะ”
“เพคะ ถือเป็นความเมตตาต่อหม่อมฉัน”
อินทุอรเกร็ง รับประทานอาหารไม่รู้รส ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนเป็นคนต่างบ้านต่างเมือง ยังไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรม ประเพณีของคนที่นี่ ก็คงไม่ต้องเข้ามาอาศัยในวังหลวง
พระราชินีทรงมีเมตตา ท่านคุ้นเคยหล่อนจากการเข้าร่วมโครงการหลายครั้ง เกิดถูกชะตาด้วยจึงรับมาอยู่ที่นี่ แต่อินทุอรก็คิดไว้ ว่ารอให้การงานเข้าที่เข้าทางอาจจะขออนุญาตท่านย้ายออกไปอยู่เองข้างนอก เพราะหล่อนไม่ได้โดดเดี่ยว หล่อนมีเพื่อนในประเทศนี้ที่เรียนมาด้วยกัน อาจจะย้ายไปอยู่ใกล้เพื่อนให้ครอบครัวที่อยู่ประเทศไทยสบายใจ
“อินงั้นรึ ท่านแม่อาจจะอยากแนะนำคนสนิทให้ลูกรู้จัก เผื่อว่าลูกจะต้องรบกวนนางให้มาช่วยงานในอนาคต”
ราฟาลดึงความสนใจกลับมาอยู่ที่สาวหน้าใสได้ตามที่ใจต้องการ แม่ครัวกำลังเก็บจานอาหารและนำของหวานมาเสิร์ฟ
พระมารดาตวัดสายตามามองที่ตนเองปราดเดียวเท่านั้นก็มองผ่านแสร้งทำเหมือนไม่สนใจสิ่งที่ท่านขอ
“จำเป็นด้วยหรือ เจ้าไม่ชอบนางนี่นา เมื่อตอนบ่ายยังโวยวายต่อว่านางเรื่องเนื้อตัวนางสกปรกอยู่เลย”
“มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยเหรอ ราฟาล” สุรเสียงองค์ราชาเข้ม ต้องการรู้เรื่องราว
ราฟาลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถูกท่านทั้งสองจู่โจมถาม นางผู้นั้นเองก็ดูเหมือนจะโกรธท่านขึ้นมา
โธ่… ดุจังเลยแม่คุณ ยามบิดเกรียวร่างอรชรอ้อนแอ้นอยู่ใต้ร่าง ระวังจะดุไม่ออก ร้องครวญครางได้อย่างเดียว
แค่คิดถึงวินาทีที่ได้ครอบครองนาง ร่างกายชีคหนุ่มก็กระปรี้กระเปร่าราวกับว่าออกวิ่งหลายสิบกิโลเมตร
“อินทุอรหมดสติระหว่างดูงานในเหมืองเพคะ น้องเห็นว่าถ้ำของราฟาลเป็นสถานที่เดียวที่เย็นสบาย แต่ราฟาลกลับมาเห็นนางเข้า เกิดความไม่พอใจในเนื้อตัวของนาง”
“ให้อภัยนางเถอะนะราฟาล ผิดแค่ครั้งเดียว พ่อจะสั่งห้ามไม่ให้นางกับแม่ของเจ้าเข้าไปในเหมือง งานอันตรายในนั้น ไม่เหมาะกับผู้หญิงอย่างที่เจ้าว่าไว้”