Chapter 8 เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย

1600 คำ
หลังจากปล่อยให้โลเวลนอนทับขาจนเหน็บกิน ผมก็หันไปมอง คุณลีวอนด้วยใบหน้าเหยเก พ่อเจ้าหนูถามว่าผมเป็นอะไร จนผมบอกว่าขาเป็นเหน็บชาเท่านั้นแหละ อีกฝ่ายก็เชือดผมนิ่มๆ ด้วยคำว่า ‘โง่’ ครับ กระผมจะขอยอมรับแต่โดยดี ไม่ขอโต้แย้งหรือยื่นอุทรณ์ใดๆ เอย่าถูกเรียกให้มาอุ้มโลเวลขึ้นไปนอนบนห้อง ส่วนผมหลังจากอาการยิบๆ ดีขึ้นแล้วก็ได้โอกาสอู้งานครับ ฮี่ๆ “จะไปไหน” คุณลีวอนเหลือบตามองทันทีที่ผมกำลังจะก้าวขาออกจากห้อง “เอ่อ...ทัวร์คฤหาสน์ครับ” ผมตอบเขาไปตามตรง “รอก่อน เดี๋ยวฉันพาไป” “ไม่...เอ่อ ผมว่า คุณทำงานไปเถอะครับ เดี๋ยวผมไปขอให้คนอื่นนำทางให้ก็ได้” “อย่าให้พูดซ้ำ ฉันบอกว่า รอ ก็ รอ” ใบหน้าหล่อเหล่าขมวดคิ้วเข้าหากัน ตาจ้องผมเขม็ง คือผมทำผิดอะไรอะ ตัวเองจะทำงานก็ทำไปสิ คนเขาจะไปตอนนี้ ทำไมต้องทำเสียงโหดใส่กันด้วย ดุฉิบหาย ผมขี้กลัวนะเฮ้ย เดี๋ยวก็ร้องไห้ใส่เลย! “ถ้าว่างมากก็มานี่ นวดไหล่ให้หน่อย” “ผมนวดไม่เป็น” “หัก เงิน เดือน” “เยสเซอร์!” โอ้โห เร็วเลยกู ผมวิ่งกลับมายื่นด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว เห็นอย่างนี้แบรี่ก็แบรี่เถอะ เจอแพงพวยผู้กลัวโดนหักเงินเดือนเข้าไปยังต้องอาย วิ่งเร็วกว่าเดอะแฟลชอีกครับผม มือที่เล็กกว่าผู้ชายทว่าหยาบหนากว่าผู้หญิงว่างแหมะลงบนไหล่กว้าง ก่อนจะออกแรงกดลงไปเบาๆ ผมพบว่าไหล่ของพ่อเจ้าหนูมันแข็งมาก ถึงผมจะไม่เคยนวดให้ใครมาก่อนแต่ก็พอจะรู้ว่านี่มันเป็นโรคประจำของคนทำงานหน้าคอม “คุณควรจะยืดเส้นยืดสายบ้างนะครับ อย่าเอาแต่ทำงาน ไหล่จะพังแล้ว” “อืม ปกติก็ไม่ขนาดนี้หรอก แต่ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ ตลาดโลกค่อนข้างผันผวน อะไรที่ทำได้ก็ควรรีบทำ ช้าไปนาทีสองนาทีก็สร้างความเสียหายเป็นเงินหลายล้านได้” “อ่า...ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอกนะ...แต่เอาเป็นว่าสู้ๆ นะครับ ส่วนไหล่ของคุณผมจะดูแลให้เอง เชื่อมือผมได้!” ผมพูดน้ำเสียงติดตลกพลางตบอกตัวเองเพื่อเป็นการเรียกความไว้ว่างใจจากผู้ใช้บริการไปด้วย เห็นโอเว่อร์ตลอดแบบนี้ผมก็ไม่ได้หวังอะไรหรอกครับ ที่ทำไปก็แค่...อยากให้จดจำ แล้วก็ขึ้นเงินเดือนให้พวยด้วยเท่านั้นเอง! “หึหึ...งั้นเหรอ” “นี่! อย่าขำสิ ผมซีเรียสนะ!” ผมจะเริ่มนวดใหม่ด้วยการดัดนิ้วของตัวเอง เป็นการวอร์มให้มันพร้อมก่อนใช้งาน จากนั้นก็กดลงไปบีบนวดที่ไหล่แข็งๆ ของคุณลีวอนให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นของเขาได้คลายตัว รู้สึกเหมือนเอากำปั้นทุบดินยังไงไม่รู้แฮะ แข็งชิบเป๋ง… “คงต้องฝากไว้ในมือนายแล้วละ” “แน่นอนว่าคุณจะไม่ผิดหวัง ฮ่าๆๆ” ผมทำการนวดอย่างตั้งอกตั้งใจ ยิ่งบีบยิ่งมันมือเลยขยับไปนวดต้นคอ และขึ้นไปที่ขมับ สักพักก็เปลี่ยนไปนวดทั้งหัวของเขา นิ้วเรียวสางเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนนั่น แรงที่ส่งไปยังปลายนิ้วกดคลึงอย่างเบามือ ดูใส่ใจที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ใครจะรู้ว่าในหัวน้อยๆ กำลังจินตนาการไปว่าตัวเองกำลังขย้ำหัวอีกฝ่ายจนฟูฟ่องอยู่ ถ้าจับโขกโต๊ะละก็นะ...หึหึ ในขณะที่ขี้ข้ากำลังคิดชั่วช้า คุณท่านของผมยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปโดยไม่รับรู้ถึงสิ่งที่ผมจินตนาการเลยสักนิ๊ด (ถ้าเขารู้ ผมอาจจะเป็นคนที่ตายอนาถที่สุดในโลกก็ได้) ตาแอบเหล่มองหน้าจอแล็ปท็อปด้านหน้าก็เห็นมีแต่กราฟหุ้น บ้างก็เป็นอีเมลขอคำอนุมัติ บลาๆๆ ดูวุ่นวายจนน่าปวดหัว แค่มองผมก็เอียนแล้ว เขาอยู่กับมันไปได้ยังไงทุกวันนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ก็ยังมองอยู่ดี ผมเห็นเคอร์เซอร์บนหน้าจอที่คาดว่าจะมีความละเอียดระดับ 4K กำลังถูกเลื่อนเข้าไปกดโปรแกรมหนึ่ง โปรแกรมที่ใครๆ ก็รู้ว่ามันใช้สำหรับวิดีโอคอลประชุมทางไกล ไม่นานภาพจากอีกฝั่งก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ผมจะไม่อะไรเลย... ถ้ามันไม่ติดภาพผมยืนเป็นขี้ข้าคอยนวดอยู่ข้างหลังเขาไปด้วยนี่น่ะสิ! บ้าไปแล้ว...ก้มหลบแทบไม่ทัน แม่งไม่ถามกันเลยสักคำว่าผมพร้อมจะโชว์หน้าให้พวกผู้บริหารของเขาที่นั่งหัวเหลืองหัวแดงแบบครบองค์ประชุมนั่นด้วย หรือเปล่า คิดอยากจะคอลกันก็คอลเลยงี้เหรอ? ขี้ตงขี้ตาติดอยู่หรือเปล่าเนี่ย เมื่อเช้าผมส่องกระจกมาไม่ดีด้วย “นี่ๆ ให้ผมหลบไปก่อนได้ไหม” ผมกระซิบกระซาบถามเบาๆ ไม่กล้าโผล่หน้าออกไปจากที่กำบังด้วยกลัวว่าทางฝั่งนู้นจะได้ยินและรู้ถึงการมีตัวตนของผม ถึงแม้ว่าจะช้าไปหน่อยก็เถอะ เพราะผมยังทันได้เห็นบางคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมทำหน้าเหวอๆ งงๆ อยู่เลย ฮือออ “ไม่ต้อง ลุกขึ้นมายืนนวดดีๆ” “ตะ...แต่ว่าคนเยอะอะ ผมไม่กล้า” “ต้องกล้า” “ไม่เอา เขิน” “เขินทำไม ฉันยังไม่เขิน ลุกขึ้นมา” คุณลีวอนเอี้ยวตัวมาด้านหลัง ก่อนจะก้มมองผมที่หลบอยู่ด้วยใบหน้านิ่งๆ ทว่าแฝงไปด้วยการบังคับเป็นเชิงว่า เอ็งจะลุกไม่ลุก ก็ตัวเองรู้จักกันอยู่ก่อนแล้วหรือเปล่าวะ แถมยังเป็นบอสใหญ่ด้วย ใครจะกล้าทำอะไรเขาล่ะ แต่ผมนี่สิ ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรแม้แต่น้อย อ้อ! ลืมไป ผมก็เป็นลูกน้องของเขาเหมือนกับคนพวกนั้น แต่แล้วมันยังไงล่ะ! ผมเป็นแค่ขี้ข้าตัวเล็กๆ เท่านั้นนะ ไม่ใช่พวกผู้บริหารสักหน่อย ปล่อยผมไปตามเวรตามกรรมเหอะทูนหัวของบ่าว “เผด็จการชะมัด” ผมสบถหงุงหงิงออกมาเบาๆ “อะไรนะ?” “พูดได้ดีครับท่าน ผมจะยืนขึ้นประเดี๋ยวนี้เลย!” นี่ก็ไม่ได้กลัวหรอกนะครับ ผมแค่ให้เกียรติเงินเดือน! ผมลุกขึ้นมายืนเต็มความสูงเหมือนเดิม ส่วนไอ้จอมเผด็จการลีวอนก็หันกลับไปทางแล็ปท็อปที่ฉายภาพห้องประชุมและขณะผู้เข้าร่วมการประชุมอยู่ ผมโบกมือทักทายอย่างช่วยไม่ได้ หน้าขรึมๆ ของไอ้นายท่านผีบ้าของผมหันมองขวับทันที ใบหน้าที่เหมือนจะสื่อคำพูดออกมาว่า ‘ทำไมยังไม่นวดอีก ลีลาอะไร!?’ ทำให้ผมหันกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อด้วยการใช้กำปั้นทุบๆ ไหล่ ซ้ายทีขวาทีอย่างเบามือ เหลือแค่ไม่หลุดพูดไปว่า แรงเท่านี้ดีไหมคะคุณพี่ ก็เท่านั้นแหละ! ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นการประชุมที่ประธานโคตรจะชิลที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นแล้ว หรือเรียกอีกอย่างว่าบุคคลผู้นี้ไม่สนไม่แคร์สายตาของใครเลย ส่วนผมก็พยายามทำหน้าด้านๆ เข้าไว้ ถึงแม้ในใจอยากจะวิ่งหนีสี่คูณร้อยไปจากตรงนี้เต็มทีก็เถอะ “เอาละ เลิกจ้องคนของผมได้แล้ว ไม่ต้องสนใจเขา ใครยังมองอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน แล้วก็เริ่มการประชุมกันสักที...” เยี่ยมครับ! เชิญพวกท่านประชุมกันเถอะ เพราะถ้าทุกคนยังทำหน้าสนใจใคร่รู้ในตัวผมต่อไปผมจะเต้นเมียงูให้ดูแล้วนะเฮ้ย! อยากดูไหมเมียงูอะ! เดี๋ยวก็เรียกเก็บคนละสิบบาทซะนี่ เอาเป็นว่าอย่าสนใจผมเลย คิดซะว่าผมเป็นแบ็กกราวด์ที่ขยับไปมาได้ก็พอ “จากการขยายสาขาธนาคารในภูมิภาคเอเชีย...” หลังจากนั้นก็เป็นการประชุมว่าด้วยเรื่องการลงทุน ผลประกอบการ โครงการอะไรบ้าบอคอแตกที่ผมไม่เข้าใจและไม่ได้ตั้งใจจะฟังแต่มันลอยมาเข้าหูเองก็เท่านั้น ผมไม่ได้สนใจสิ่งที่พวกเขาหารือกัน โฟกัสเพียงไหล่ ต้นคอ ขมับของพ่อเจ้าหนูเท่านั้นตามเจตนารมณ์เดิม อ่า...ตรงนี้มันแข็งชะมัด ว่าแล้วก็จิ้มนิ้วจึ้กลงไปทันที แต่เผอิญว่าใส่แรงมากไปหน่อย ร่างของคุณลีวอนจึงสะดุ้งเฮือกตัวสะท้านในทันที เล่นเอาผู้กระทำอย่างผมสตั๊น เหงื่อเย็นเริ่มหลั่งออกมาทั่วแผ่นหลัง สัมผัสได้ถึงความฉิบหายวายป่วงที่ตัวเองได้ก่อขึ้นมารางๆ ในขณะที่ฝั่งห้องประชุมเองก็หยุดสนทนาเช่นกัน ราวกับความเงียบจะโรยตัวลงมาอย่างเงียบงัน ก่อนจะแผ่ขยายไปทั่วทั้งสองฝั่งจอ ทว่าฝั่งผมดูจะคอขาดบาดตายกว่ามาก ตะ...ตายแน่ไอ้พวย! หมับ! เพียะ! เสียงตบดังขึ้นแม้จะไม่ดังมาก แต่ก็ได้ยินชัดเจน ผิวขาวๆ ของผมเป็นรอยแดงขึ้นมาจางๆ ทันใด โดนตบแล้วละครับ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม