โหยหาจนแทบบ้า

3237 คำ
ภายในรถคันหรูที่จอดนิ่งสนิทข้างทางเมื่อมาถึงที่หมายได้สักพัก เวหาที่เป็นคนขับได้แต่รอให้เจ้านายตนได้ลงจากรถเพียงเท่านั้น หากแต่รอแล้วรอเล่ากลับไม่มีความเคลื่อนไหวจากด้านหลังแม้แต่น้อย ตนจึงหันไปมองเพื่อนตัวดีที่นั่งข้างคนขับที่ทำเพียงมองกลับมาหาเขาเงียบๆ แล้วส่ายหัวบอกเขาหุบปากห้ามถามอะไรออกมาทั้งนั้น "....." "นนท์..." พิภพมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนใจ ถ้าเหนื่อยขนาดนั้นทำไมไม่บอกกันสักหน่อยละ ใบหน้าลูกครึ่งที่ดูหล่อเหลาในระดับหนึ่งของมันตอนนี้เอียงหัวไปพิงกระจกรถฝั่งตรงข้ามเป็นที่เรียบร้อย พิภพยิ้มบางมองอีกฝ่ายเงียบๆ สำหรับเขาแล้ว เป็นภาพที่หาดูยากและดูน่าหลงไหลไม่น้อยเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบปีเลยมั้ง ที่ได้เห็นมันลดการป้องกันตัวเองอย่างสมบูรณ์ลงตอนอยู่กับเขา พิภพทำเอื้อมมือไปจับหัวเจ้าตัวกลับมาพิงลงที่ไหล่เขาเบาๆ ดูจากขอบตาดำคล้ำและท่าทางที่ได้เจอตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้บ่งบอกได้ว่าครั้งนี้มันคงไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว "เวหาออกรถ..." "ครับ?..." "กลับกาสิโน...อ้อมรถเข้าประตูหลัง" "ได้ครับนาย..." ทริปเที่ยววันนี้เป็นอันต้องยกเลิกไป เมื่อคนที่อยากพาเที่ยวสลบไสลไปกับเบาะรถเป็นที่เรียบร้อย และอย่าคิดที่จะปลุกเจ้าตัวขึ้นมาเชียว เพราะปลุกยังไงก็ไม่มีทางตื่นแน่นอนจนกว่ามันจะนอนจนพอใจแล้วเท่านั้นถึงจะยอมตื่นขึ้นมาเอง แม้ครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นคนที่ตื่นง่าย สะกิดนิดหน่อยก็สะดุ้งตื่นแล้ว รู้สึกเหมือนจะเป็นช่วงไม่กี่ปีมานี้ที่งานมันจะหนักเป็นพิเศษจนหลับเป็นตายเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น ถึงขนาดที่เขาต้องเรียกหมอมาตรวจดูร่างกายให้อย่างเป็นกังวน แต่ก็นั่นแหละ มันแค่หลับและนอนนานกว่าคนปกติเพราะอ่อนล้าเพียงแค่นั้นไม่ได้มีอันตรายอะไร ตระกูลของเขาในช่วงนี้กำลังปรับเปลี่ยนและเคลียร์ทางอะไรหลาย ๆ อย่าง ซึ่งงานเอกสารและงานพบปะของเขาเองก็ดูจะมีมากขึ้นทุกวัน "ขับช้าๆ ไม่ต้องรีบ" "ครับนาย..." ก่อนจะหันกลับมามองมันที่ตอนนี้กำลังพิงไหล่เขาหลับด้วยลมหายใจสม่ำเสมอ ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันมากจนได้กลิ่นกายอบอุ่นประจำตัวของมัน อายความร้อนของร่างกายที่ส่งผ่านมาทางเขากับเสียงเต้นของหัวใจที่ดังเข้ามาในหูทำให้อุ่นใจอย่างน่าประหลาด พิภพทำได้เพียงเอาหัวเอียงชนกับหัวอีกฝ่ายเบาๆ แล้วหลับตาลงตามเพื่อพักสายตา เขารู้สึกผ่อนคลายลงมากโดยที่ไม่ต้องกระเตงตัวเองไปเที่ยวไหน บางทีสิ่งที่ตัวเขาต้องการอาจไม่ใช่การท่องเที่ยวไปไหนไกล คงเป็นแค่เพียงการพักผ่อนกับใครสักคนที่เขารักและไว้ใจก็เท่านั้น... "นายครับ เดียวพวกผมจัดการเอง ขึ้นไปรอข้างบนเถอะนะครับ" เสียงของโนอาห์เอ่ยขึ้นอย่างหวาดเกรง เมื่อนายใหญ่ของแก๊งกำลังทำหน้าเคร่งเครียดมองมาอย่างร่างของหัวหน้าตนที่นอนหลับสนิดราวกับคนหมดสติที่เรียกยังไงก็ไม่ตื่น ทิ้งให้พวกเขารับมือแรงอารมณ์และสายตาของคนเป็นนายตรงหน้าอีกครั้งตามลำพัง พิภพขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ทันทีที่ถึงจุดหมาย ทำให้เขาคิดได้ว่าจะเอามันขึ้นไปบนห้องทำงานยังไงดี เมื่อมันหลับไม่ตื่นปลุกไม่ลุกแบบนี้ "ยกมันขึ้นหลังกู..." "เออ...นายครับ" เพียงจบประโยคคำพูดนั้น พวกมันทำสีหน้าบอกไม่ถูกส่งมาให้ เหมือนอยากให้เขาคิดดี ๆ ก่อนจะทำตามที่พูด ทั้งคู่ที่ตอนนี้กำลังหิ้วปีกแขนของอานนท์คนละข้าง ทำได้เพียงพยุงไม่ให้หัวหน้าตัวเองล้มพับลงไปนอนกองกับพื้นเท่านั้น พิภพมองภาพนั้นแล้วรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอาจคิดน้อยเกินไป ต่อหน้าลูกน้องมัน....อย่างน้อยก็ควรปกปิดความสัมพันธ์ส่วนตัวไว้บ้างสินะ รู้มากไปก็คงไม่ดี "งั้น พวกมึงช่วยกันแบกมันขึ้นลิฟต์มา" เขาคิดวิธีที่ง่ายที่สุดคือการอุ้มมันขึ้นลิฟต์ด้านหลังตึกของกาสิโนที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน แต่ห้องทำงานเขามันไม่ได้อยู่ชั้นสองชั้นสามไง จะให้อุ้มมันขึ้นไปถึงชั้นบนสุดคงรากเลือด ถึงจะอยากแบกมันขึ้นหลัง แต่จากสภาพร่างกายของเขา ยอมรับเลยว่าแบกมันไม่ไหว ตัวมันนั้นพอ ๆ กับเขาทั้งร่างกายและน้ำหนักไม่ใช่เบา ๆ เลย อย่าลืมว่ามันเป็นลูกครึ่ง ขนาดไอ้เวหากับไอ้โนอาห์ ต้องช่วยกันแบกมันคนละข้างยังทุลักทุเลขนาดนั้น ส่วนตัวต้นเหตุโดนแบกไปมาขนาดไหนก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ยอมใจในการนอนของมันจริงๆ "นายครับ นายขึ้นไปเถอะครับ เดียวผมกับไอ้โน พาหัวหน้าไปพักเอง" "ห้องพักของหัวหน้าอยู่ชั้นไหนครับนาย" "ชั้นที่กูจะไป ก็คือห้องของมัน" "ครับ?" โนอาห์มองดูตัวเลขบนลิฟต์ที่กดขึ้นไปอย่างชั้นบนสุดของอาคารที่มันถือเป็นห้องชุดเดี่ยวทั้งชั้น และใครเล่าจะไม่รู้ว่ามันเป็นห้องทำงานส่วนตัวนายใหญ่ของกาสิโนแห่งนี้ โนอาห์ทำเพียงมองหน้าเจ้านายตัวเองเล็กน้อยและก้มหน้าลงไม่ถามอะไร "นานที่ปีหนกูจะมาครั้ง เวลาทำงานมันก็อยู่กับกูตลอด มึงคิดว่ามันจะไปนอนไหนได้?" ทั้งคู่หันมามองหน้ากันอีกครา บางทีการมารับรู้อะไรที่ไม่ควรรู้ ก็เป็นความทุกข์ทรมานอย่างหนึ่งของพวกเขาในตอนนี้นะ ถึงนายจะบอกมาแบบนั้น แต่อย่าลืมว่าที่นี้คือกาสิโนที่มีหลายสิบชั้น ห้องพักก็มีเป็นร้อยๆห้อง จะไม่มีสักห้องให้มือซ้ายคนสนิทไว้พักผ่อนส่วนตัวเลยหรือยังไง พวกเขาเองพึ่งจะทำมาทำงานให้นายได้ไม่นานยังมีการจัดแจงห้องพักส่วนตัวไว้ให้ก่อนที่ตัวพวกเขาจะมาถึงมาเก๊าด้วยซ้ำ แต่ทำไมคนที่ทำงานมานานกว่าสิบปีอย่างหัวหน้า กลับไม่มีห้องส่วนตัวไว้สักห้องเลยละ นั้นคือคำถามในใจที่พวกเขาไหนจะกล้าสงสัย หรือบางทีการอยู่เงียบ ๆ ในที่ของพวกเขา เป็นหนทางที่ดีกว่าการอ้าปากถามเรื่องส่วนตัวของเจ้านายก็เป็นได้ ติ๊ง! ทันทีที่ถึงชั้นบนสุด ประตูลิฟต์ยังคงไม่เปิดออกให้คนด้านในได้ออกไป พิภพทำการหยิบบัตรสีทองออกมารูดข้างปุ่มกดลิฟต์ก่อนจะกดตัวเลขสี่หลักที่เป็นรหัสผ่านเข้าชั้นลงไป ประตูลิฟต์ชั้นบนสุดของอาคารถึงจะยอมเปิดออก มาตรฐานความปลอดภัยระดับนี้นั้นมัน แลกมากับความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนับครั้งไม่ถ้วนของเขาเอง ถ้าไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก่อน ไหนเลยจะรัดกุมได้ขนาดนี้ "ส่งมันมาให้กู แล้วพวกมึงก็ลงไปพักได้แล้ว" พวกแม่งตามเขาอย่างกับเงา ถ้าหัวหน้าพวกมันตามเขาแบบนี้บ้าง คงไม่ต้องค่อยถามหาแต่มันตลอดแบบนี้หรอก พิภพลากอานนท์ออกจากลิฟต์เข้ามาข้างใน ทั้งชั้นนี้เป็นของเขา มันมีขนาดกว้างมากพอ ๆ กับบ้านหนึ่งหลังที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบ ทั้งห้องนอน ห้องทำงาน หรือแม้กระทั่งครัวก็มี ถึงพิภพจะไม่เคยใช้มันเลยก็ตาม เหมือนมันมีไว้แค่ประดับโชว์ไว้เฉย ๆ แค่นั้น "นนท์....ถ้ามึงจะหลับเป็นตายขนาดนี้นะ" พิภพทำการอุ้มมันลงบนเตียงได้สำเร็จ มองดูสภาพอานนท์ที่ใส่เสื้อสูทเต็มยศที่ถึงจะดูดีขนาดไหน แต่พอถึงตอนนี้ก็ดูน่าอึดอัดไม่ใช่น้อย ถึงเขาจะเป็นคนให้มันใส่ก็เถอะ พิภพถอดรองเท้าและถุงเท้าออกให้มันด้วยความเบามือ หันไปเอาเครื่องสื่อสารต่าง ๆ บนร่างกายของมันทั้งตรงหูและข้างเอวออกด้วย เวลานอนใครเขาทำงานกันละ มือหนาจึงทำการถอดเข็มขัดและเสื้อสูททั้งนอกในออกให้อีกฝ่ายอย่างเคยชิน เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางของมันเท่านั้นก่อนจะจัดท่านอนให้มันดีๆ เหนื่อย..... ล้มตัวนอนอยู่ข้าง ๆ มัน นอนมองเพดานห้องอยู่แบบนั้นหลายนาที ไม่กล้าที่จะหันไปมองมันในตอนนี้เลย นานมากแล้วที่ไม่ได้นอนแบบนี้กับมัน รู้สึกว่าเวลาที่เขาจะเจอกับมันแบบนี้น้อยลงทุกที เหมือนมีอะไรบางอย่างค่อยสะกิดในใจเขาตลอดเวลา ทำเอาอยู่ไม่เป็นสุขเหมือนคนบ้า แต่ก็ทำอะไรกับความรู้สึกนี้ไม่ได้ ยิ่งเวลาไม่ได้เจอมันนานๆ ความรู้สึกนั้นยิ่งรุนแรงเป็นพิเศษ "มึงรู้สึกแบบกูมั้ยว่ะนนท์"พิภพพูดพลากเอี้ยมสัมพัสลงผมปลายผมสีน้ำตาลประกายทองนั้นอย่างเบามือ นัยน์ตาสีนิลจับจ้องมองใบหน้าที่หลับสนิทลงนั้นอย่างเงียบๆ หรือมีแค่เขาที่รู้สึกแบบนี้....ความรู้สึกโหยหาจนแทบบ้านี่ มีแค่เขาที่รู้สึกหรือเปล่า เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน... ~Rrrr~ "..."พิภพหลุดออกมาจากภวังค์ด้วยเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ส่วนตัวที่ไม่ได้ใช้เท่าไร ส่วนมากที่โทรมาและรู้จักเบอร์นี้มักจะเป็นสายของ... แม่ง.. "((เฮีย! มาเอาคนของเฮียกลับไปเลยนะ!!))" "อะไรมึงอีกละเพลิง"ทันทีที่เขากดรับสาย ไม่ทันได้ดูชื่อคนโทรด้วยซ้ำ เสียงของเจ้าตัวก็ลอยมาก่อนหน้ามันแล้ว "((แม่ง มันไถ่ผมจะหมดตัวแล้วมั้ง))" "หือ? อะไรใครไถ่ใคร มึงพูดจาให้มันรู้เรื่องหน่อย" "((ก็มือซ้ายเฮียไงที่ส่งมาให้ผมไง? เฮียก็ยังไม่แก่ขนาดนั้นนะ ทำไมความจำสั้นกันจังว่ะ))"เสียงสบดด่าช่วงท้ายแม้จะเบากว่าตอนแรกแต่เขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน "ไอ้เพลิง! ปากมึงนี่นะ" "((ตอนนี้เฮียอยู่ไหนกัน?))" "มาเก๊า.." "((ทำไมไม่เอามือซ้ายเฮียไปด้วย))" "ก็กูส่งมันไปให้มึงไม่ใช่เหรอ กูจะเอามามันด้วยทำไมล่ะ?" "((ผมไม่เอาคนแล้วก็ได้นะเฮีย แต่เฮียบอกคนของเฮียให้กลับไปเลยนะ / นายน้อย..เราตกลงกันแล้วนะครับ))" "ไอ้เมฆ? เออดีเลยกูกำลังจะโทรหามึงพอดี" "((ครับนาย../ เดียวดิเฮียผมยังคุยกับเฮียไม่จบเลยนะ))" "เมฆ กูจะส่งเอกสารการซื้อขายอาวุธรอบนี้ไปให้มึง มึงทำการตรวจสอบที" "((เจรจาสำเร็จแล้วหรือครับนาย?))" มันดูจะแปลกใจกับความรวดเร็วของการตกลงซื้อขายในครั้งนี้มากจนทำเขาขุ่นเคืองในใจ "มันเรียกว่าเจรจาได้ด้วยเหรอ"พิภพแค่นหัวเราะออกอย่างไม่สบอารมณ์ แบบนั่นเขาไม่เรียกว่าเจรจาหรอก คงคิดจะมาหานนท์โดยเฉพาะมากกว่าน่ะสิ "((ครับ?...)) "เอาเป็นว่ามึงไปตรวจสอบให้เรียบร้อย แล้วโอนเงินค่าของส่งไปให้ฝ่ายนูนด้วย มึงมีบัญชีใช่มั้ย โอนไปให้เป็นสองเท่าของอาวุธที่เราได้รับเลยนะ เข้าใจมั้ย" คิดว่าเขาดูไม่ออกหรือไงว่าไอ้เด็กเวรนั้นมันคิดยังไงกับนนท์อยู่ ทั้งสายตาที่มอง น้ำเสียงที่ใช่ และทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ มันเป็นอะไรที่ทำพิภพไม่พอใจ ถามว่าเจ้าตัวรู้มั้ยว่าเด็กมันรู้สึกแบบไหน? ฝันเถอะ..... ขนาดเขารู้สึกยังไงกับมัน...ตลอดหลายปีมานี้มันยังไม่ยอมเปิดหูเปิดตารับรู้เลย "((ครับนาย..))" "อีกเรื่อง...มึงไปตามข่าวในวงการตอนนี้ให้กูหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ครึกครื้นกันไม่น้อย" "((ผมจะรีบไปดูให้ครับนาย/ เฮ้ย! นี้นายไม่มีโทรศัพท์เป็นของตัวเองหรือไง?))" เสียงไอ้เพลิงแว๊ปเข้ามาในสายก่อนที่ภาพหน้าจอจะตีลังกาไปมา หมุนอยู่แบบนั้นเหมือนแย่งโทรศัพท์คืน พิภพขมวดคิ้วมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา นี้เล่นอะไรกันเป็นเด็กๆไปได้ แปลกที่เขาได้มาเห็นฉากอะไรแบบนี้จากภูเมฆมือขวาคนสนิทของเขา เดิมทีก็ดูเป็นคนสงบนิ่งดูสุขุมอยู่ไม่น้อย ชอบทำหน้านิ่ง ๆ ถามคำตอบคำเป็นปกติจนชินชา พอมาเจอไอ้เพลิงเข้าไป ดูจะพามันหลุดตามกันไป พิภพเริ่มเห็นใจอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย เพราะรู้นิสัยน้องตัวเองดีว่าแสบขนาดไหน คิดดูเอาเถอะ.... "เออ กูมีเรื่องจะคุยแค่นี้แหละ แล้วนี่พวกมึงอยู่ไหนกัน ทำไมมันเสียงดังขนาดนี้ห๊ะ?" "((ถามมาได้นะเฮีย ผมเป็นเจ้าของผับนะมันก็ต้องดังแบบนี้เป็นปกติมั้ย แล้วจะให้ผมไปอยู่ไหนได้ละ กาสิโนไง?))" ไอ้เพลิงที่ดูเหมือนจะยึดเอาโทรศัพท์ตัวเองกลับมาได้ ก็ตอบกลับพี่ชายในสภาพที่หัวเสีย ใบหน้าบึ้งตึงใส่กล้องมาเลย ถึงยังนั้นในประโยคของมันทุกประโยคก็ยังกวนประสาทเขาได้อยู่ดี "หึ มารยาทมึงนี่ ลืมไว้ในท้องแม่ใช่มั้ยเพลิง" "((ด่าแรงนะเฮีย ตอนนี้ผมมาฉลองเปิดผับใหม่ที่พัทยา เลยเสียงดังอย่างที่เห็น จริง ๆ อยากเชิญเฮียมาเป็นเจ้าภาพเปิดงานด้วยนะ แต่เห็นงานเยอะ กลัวต้องมาเห็นคนแก่แถวนี้ทำงานหนักจนตายอะ))" "ถึงมึงชวนกูก็ไม่ไป และกูไม่ตายเพราะแค่งานหนักหรอก ส่วนนี้พี่มึงน็อคไปแล้ว" "((หืมม~ ))" มันทำสีหน้าประหลาดใจส่งมาให้ มองสลับไปมาระหว่างไอ้นนท์ที่หลับอยู่กับเขา ก่อนที่มันจะยิ้มระรืนส่งมาให้พร้อมสายตาแวววาวดูมีเลศนัย "ไรมึง..." "((ก็ไม่มีไร~ นาน ๆ ผมจะเห็นการเปลี่ยนแปลง))" มันทำเสียงล้อเลียนเขาด้วยใบหน้าปริ่มยิ้มก่อนจะโชว์แก้วไวน์ในมือที่ไปชกมาจากไหนไม่รู้ ยกมันขึ้นเล็กน้อยเหมือนเชิญชวนเขา มันแม่งปรับอารมณ์ได้ไวจนหน้านับถือ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ยังฟึดฟัดใส่มือซ้ายของของเขาอยู่เลยไม่ใช่หรือไง "หึ...เปลี่ยนแปลง? ตรงไหนของมึงที่ว่าเป็นแบบนั้น" เขากับนนท์ก็เป็นแบบนี้กันมาตั้งนานแล้ว.... "((ไม่เอาหนาเฮีย ความสัมพันธ์แบบเฮียนี้มันยากที่ตรงไหนวะ))"มันทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เขา ก่อนจะกรอกตายกแก้วไวท์สีสวยในมือขึ้นจิบโชร์เขา "มึงนี่ขี้เสือกนะ มึงวางสายไปเลยกูจะทำงานแล้ว" "((หูย~ อะไร ๆ ก็งาน ก็เหมาะกันดีเนอะ งานต้องมาก่อน))" พระเพลิงปราดสายตามองคนข้างๆที่ยังคงนั่งอยู่ข้างกายตนไม่ไปไหน เป็นคู่นายกับลูกน้องที่เข้ากันดีจริงนะ ใครฟังก็รู้ว่าแม่งประชด.... "ถ้าพวกกูไม่ทำงานนี้ ตอนนี้พวกมึงจะมีแดกกันมั้ยละ" มันมองหน้าเขาแล้วยิ้ม....แต่ครั้งนี้รอยยิ้มของมันไม่ถึงดวงตา เหมือนแค่ยิ้มออกมาให้เห็นว่ากำลังยิ้มเท่านั้น "((อย่ามาอ้างเลยเฮีย สมบัติเก่าพ่อแม่พวกเรา กินทั้งชาติก็ไม่หมด ไม่รู้จะดันทุรังอะไรกัน))" คิ้วกระตุกขึ้นทันทีที่จบประโยคนั้นของมัน... "วงการที่พี่มึงอยู่เข้าแล้วออกได้ง่ายๆงั้นเหรอเพลิง"พิภพตอบกลับเสียงขุ่น "((รู้ว่าออกยากแล้วจะเข้าไปทำไม))" ความเงียบเข้าปกคลุมเราสองคนทันทีที่จบประโยคนั้นของมัน จากที่คุยเล่นตามภาษาพี่น้องก็ต้องจบลงด้วยบรรยากาศกระอักกระอ่วนใจแบบที่ทั้งมันและเขาก็ไปไม่ถูก "....." "(( ผมแค่เป็นห่วง.. ))" ใบหน้าคมสวยดูรู้สึกผิดไม่ใช่น้อย น่าแปลกที่เสียงดังตามสายของมันเงียบลงตอนไหนก็ไม่รู้ เหมือนมีคนกดหยุดเพลงในผับของมันไว้ยังไงอย่างงั้น "อืม..." "((แต่ถ้าเฮียยังไม่เคลียร์เรื่องพ่อกับแม่ ผมสืบให้เอามั้ย? มันสืบง่ายมากเลยนะ))" "....." "((หรือจริง ๆ เฮียรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ไม่ยอมทำอะไรเลย?))" พระเพลิงมองหน้าพี่ชายด้วยแววตาสีนิลที่ไหววูบ เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็เงียบลงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองยิ่งพูดมากเท่าไรยิ่งแย่กว่าเดิม "..กูไม่เข้าใจว่ามึงต้องการสื่ออะไรเพลิง" พิภพเอ่ยเสียงเย็นเรียบขึ้นมาทันทีที่อีกฝ่ายหยิบยกประเด็นนี้ขึ้น สายตามองสบตาสีเดียวกันอย่างอย่างไม่สบอารมณ์ "((ผมจะอยู่เงียบ ๆ โอเคมั้ย?))"พระเพลิงยกมือยอมแพ้อย่างจำยอม เมื่อเห็นแบบนั้นเขาจึงเปลี่ยนกลับมาพูดเรื่องที่มันจะให้เขาออกจากวงการด้วยเหตุผลที่ว่า มันเป็นห่วงเขา? "จะให้กูออกจากวงการเหรอ? แน่ใจ? แต่ธุระกิจที่มึงจับๆอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่มีกูคุ้มกะลาหัวไว้ มึงว่ามันจะเป็นยังไง?" "((ยังไงละ? ผมก็ยังโดนไล่ฆ่าทุกวันอยู่ดีอะ นี้เฮียคุ้มกะลาหัวผมแล้วเหรอ))" มันตอบกลับหน้าตายเลย พิภพมองค้อนใส่น้องชายไปทีอย่างหมดแรงที่จะพูดกับมันต่อ " ตัวมึงเองที่ทำอยู่นี้ ไม่ใช่ว่าเข้าวงการเดียวกับกูมาครึ่งตัวแล้วเหรอเพลิง?" "((โอเคผมยอมแล้วครับ~....))" "มึงมันปากดีเพลิง...ระวังจะตายไม่ดีเพราะปาก" "((ถ้าจะแช่งกันขนาดนี้ผมไม่กวนแล้วก็ได้ แล้วมือซ้ายเฮียอะเอากลับไปมั้ย?))" "ไม่....ให้มันอยู่ดัดสันดานมึงไปนั้นแหละดีแล้ว" "((เฮีย! แต่มันปล่อยให้ผมโดน..))" ติ๊ด! เมื่อกดวางสายแล้ว พิภพทำเพียงเก็บโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะหัวเตียงตัวเอง ยิ่งคุยยิ่งปวดหัว กดตักสายไปแบบนั้นแหละเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว และหันกลับมามองคนบนเตียงที่ยังคงหลับสบายแบบที่ไม่ได้รับรู้อะไรเลย ดีจังนะมึง ด้วยความมันเขี้ยว เขาจึงแกล้งบีบจมูกโด่ง ๆ นั้นไปทีอย่างไม่เบามือ ทำเอาจมูกมันขึ้นรอยแดงจาง ๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่มีท่าทีที่จะตื่นขึ้นมาเลย ก่อนพิภพจะเอามือขยี้บนผมสีน้ำตาลเข้มธรรมชาติของมัน ปัดปอยผมออกจากหน้าผากของมันและโน้มตัวลงไปจูบบนนั้นแผ่วเบา "ฝันดี...."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม