seven sins l

2446 คำ
@ สหรัฐอเมริกา (วอชิงตัน ดีซี) ตึกสูงเสียดฟ้านับร้อย ๆ ชั้นใจกลางเมืองหลวงของมหานครที่ผู้คนทั่วทุกมุมโลกต่างหลักไหลเข้ามา ภายในจุดยอดสูงสุดของตึกกลับซ่อนเร้นสถานที่ลับแห่งหนึ่งไว้ "นี้...ใครเห็นเจ้า 'มูซา' หลงมาทางนี้บ้างหรือเปล่า ฉันหามันมาตั้งนานแล้วยังไม่เจอเลย" เสียงนุ่มลึกละมุนของชายเจ้าของดวงตาสองสีที่สะดุดตาผู้พบเห็น เขาได้เดินเข้าภายในห้องโถงใหญ่ที่มีโซฟาและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เรียงรายอยู่ในห้องสไตย์โมเดินคลาสสิกหรูหราสบายตา ที่แม้ของแต่ละชิ้นภายในห้องจะไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยนักเนื่องจากสมาชิกในห้องต่างขี้เกียจที่จะเก็บมัน ดวงตาทั้งสองสีของเขาเกิดจากความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่กำเนิดเข้ากันได้ดีกับใบหน้าหล่อคมคายสมเชื้อสายชาวอาหรับตะวันออกกลางที่มองคนทั้งห้องด้วยรอยยิ้มนุ่มลึกบาดใจที่ใคร ๆ เห็นก็เกินจะต้านทานกับเสน่ห์นี้ของเขา "แมวขนดำที่ใส่สร้อยทองประดับเพชรเป็นสิบกะรัตของนายน่ะเหรอ? เป็นฉันคงฆ่ามันเอาสร้อยไปขายแล้วล่ะ" เสียงหวานยั่วยวนของหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องปราดตามองผู้มาใหม่ด้วยสายตาเบื่อหน่าย เจ้าหล่อนมีรูปร่างและใบหน้าที่คมสวยเซ็กซี่ ผิวสีแทนสมเอกลักษณ์ของสาวบราซิล ผิดกับนิสัยใจคอที่ดูจะร้ายกาจอยู่ไม่น้อย "ฉันขอให้พระเจ้าลงโทษเธออย่างหนัก.." ชายหนุ่มทำสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมากกับคำตอบของเจ้าหล่อน ที่คิดจะเอาแมวของเขาไปทารุณกรรม ก่อนจะเดินสะบัดชายเสื้อคลุมสีขาวคาดทองที่ยาวแทบลากพื้นของตัวเองออกไปหาแมวของเขาต่อด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด " เสียใจด้วยฉันไม่ได้นับถือพระเจ้าย่ะ" เจ้าหล่อนไม่วายที่จะตะโกนตอกกลับไปทีอย่างหมั่นไส้กับความร่ำรวยของอีกฝ่ายที่แม้แต่แมวยังมีเครื่องประดับราคาแพงให้ใส่เดินเล่นไปทั่วอย่างไม่กลัวเกรงสิ่งใด "พี่ราฮิมมาแล้วเหรอ?" เด็กหนุ่มผมทองหยักศกนัยน์ตาสีน้ำทะเลมีแววหล่อเหล่าอยู่ไม่น้อย ใบหน้าบ่งบอกเชื้อชาติทางฝั่งยุโรปแท้ที่ไม่ผสมกับชาติพันธุ์ใด ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวมีวัยเพียง 16 ปี เท่านั้น กำลังชะเง้อคอขึ้นมามองคนที่ออกจากห้องไปอย่างไวด้วยความมึนงงเพราะตนพึ่งจะตื่นนอนได้ไม่นาน "นอนไปเลยเจ้าเด็กนี้...ไหนว่าง่วงนักหนาไง" หญิงสาวเอามือดันหัวของอีกฝ่ายให้นอนลงกับโซฟาที่นอนเดิมของเขาอย่างโหดร้าย เด็กหนุ่มสะดุดตกใจกับความรุนแรงนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็จำใจต้องนอนลงกลับที่เดิมด้วยความมึนงง... "ก็ง่วง...แต่นอนไม่หลับแล้ว ผมนอนรอพวกพี่ที่องค์กรมาสามวันแล้วนะ" "กำหนดการมันวันนี้ไม่ใช่เหรอ...นายจะรีบมาทำไม" หญิงสาวขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเจ้าตัวพูดบอกมาแบบนั้น "มาสเตอร์มอบภารกิจให้ผมแล้ว เขาขอให้ผมแฮกข้อมูลกลุ่มก่อการร้ายในปากีสถานเพื่อเอาข้อมูลไปขายให้พวกรัฐบาลน่ะสิ "เด็กหนุ่มยันตัวลุกขึ้นมาอีกครั้งโดยครั้งนี้ก็มองระแวงมือของอีกฝ่ายไม่น้อย กลัวว่าจะผลักตนลงไปนอนอีกครั้ง "แล้ว? มันแฮกยากมากเหรอ" ''ไม่เลย....ง่ายเกินไปด้วยซ้ำ แต่ผมขี้เกียจไง พวกนั้นไม่มีข้อมูลอะไรน่าสนใจเลยสักอย่าง เทคโนโลยีก็ดูจะล้าสมัย จะมีข้อมูลอะไรให้ผมได้กัน?" เด็กหนุ่มถามขึ้นด้วยความสงสัย ยังคงไม่เข้าใจว่าทางองค์กรต้องการอะไรจากภารกิจในครั้งนี้กัน "แค่ตำแหน่งที่ตั้งของพวกมันก็เหลือแหล่แล้ว...นายหวังจะได้ข้อมูลอะไรกับพวกก่อการร้ายกัน?" "ผมไม่อยากมีปัญหากับพี่คาเตอร์นะ ให้ผมแฮกข้อมูลขายตำแหน่งให้รัฐ แต่พี่เขาก็ขายอาวุธให้ทางนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ?" "มันก็ถูกแล้ว เราไม่ได้เข้าพวกกับใครแค่ขายสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นศัตรูกันก็ไม่ใช่เรื่องของเราที่จะต้องไปใส่ใจ" "แปลก....แต่ผมก็ชอบแนวคิดนะ ไม่ปวดหัวดี" เด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้เมื่อพี่สาวตรงหน้าบอกอะไรมาก็เข้าใจได้อย่างง่ายดาย สำหรับเขานั้นขอแค่ไม่มีปัญหาตามมาที่หลังก็พอ ตึ๊ง! "ถึงเวลาแล้วไม่ใช่เหรอ? นี้ยังมาไม่ครบกันอีกหรือไง" เสียงเข้มดุดันโผล่เข้ามาให้ห้องด้วยสีหน้าที่ดุร้ายบรรยากาศรอบกายอึมครึมไปด้วยกลิ่นอายของความอันตรายและโหดร้ายในทันที ชายร่างสูใหญ่เดินเข้ามาในห้อง ก็ทำเอาคนในห้องสะดุดตกใจหันไปมองคนมาใหม่ด้วยความหวาดระแวง เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อคมดุร้ายผสมกันระหว่างสองเชื้อชาติ ทำให้ใบหน้าของเขาออกไปทางอาหรับที่ได้จากฝั่งแม่ แต่สีผิวของเขากลับเข้มออกไปทางอารยัน ยิ่งเขาปล่อยผมดำที่ยาวและหยักศกนั้นให้พะรุงพะรัง เขาจึงดูดิบเถื่อนเข้าไปอีก เจ้าตัวมองสำรวจรอบห้องไปทั่วเหมือนสำรวจการมีอยู่ของสมาชิก ซึ่งตอนนี้เขาเห็นมีอยู่กันแค่สองคน....แล้วนอกนั้นหายหัวไปไหนหมด? "ยัง..." หญิงสาวตอบคนมาใหม่ด้วยใบหน้าเฉยเมย ตั้งแต่ได้เจอกันมาเธอไม่ถูกชะตากับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แค่บรรยากาศรอบกายเจาตัวก็ไม่น่าเข้าใกล้อยู่แล้ว พอเธอได้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นหน่อยก็ทำเอาอยากจะเดินหนีไปไกล ๆ เสียให้ได้ เพราะความนึกคิดของเขามันช่างบิดเบี้ยวจนเกินรับไหวจริงๆ 'แมคคาเดเมีย ดิซูล่า' หัวหน้าพวกโจรสลัดโซมาเรีย ที่ครอบครองน่านน้ำมหาสมุทรอินเดีย ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งนี้แล้วละก็ มีหรืออีกฝ่ายจะได้เข้ามาอยู่ในรายชื่อเจ็ดบาปนี้ได้ "ฉันจะต้องมารอพวกมันด้วยหรือไง? ภารกิจอยู่ไหน ฉันจะรีบรับแล้วกลับเลย" "อะไรกัน นายไม่คิดจะรอดูหน้าเด็กใหม่หน่อยเหรอ?" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อมองสบตาเหี้ยมไร้ความปรานีของอีกฝ่าย ก่อนเจ้าตัวจะแค่นยิ้มบิดเบี้ยวกลับมาให้เธอแทน "เหอะ! รอแล้วฉันจะได้ประโยชน์อะไร?"ก่อนจะถามคำถามออกมาด้วยน้ำเสียงยียัว "นั้นสินะ...ก็อาจจะจริงของนาย ต้นตระกูลจ้าวพึ่งจะผลัดเปลี่ยนผู้นำได้ไม่กี่วัน ไม่แน่ภารกิจแรกอาจไม่ได้มารับก็ได้ บางทีรอไปก็อาจไม่มีประโยชน์อะไรอย่างที่นายว่า"เจ้าหล่อนไม่อยากสนใจอีกฝ่ายอีก แค่ท่าทางที่แสดงออกมาก็ทำเธอขนหัวลุกแทบบ้าแล้ว "จ้าว?...เป็นคนจีนเหรอครับพี่?" เด็กหนุ่มหันกลับมาถามหญิงสาวด้วยแววตาสงสัย เมื่อตนพึ่งจะรู้ว่าหนึ่งในสมาชิกเป็นคนเอเชียตะวันออกที่ในประเทศของเขาถือว่าหาเจอได้ยากทีเดียว "ไต้หวันต่างหากล่ะ แล้วนี่พึ่งรู้หรือไง? เจ้าเด็กนี้ไม่ยอมทำการบ้านสินะ นายคิดว่าเจ้าของอสังหารายใหญ่ของโลกจะเป็นคนแทบยุโรปหมดหรือไงกัน" "ผมไม่เข้าใจวัฒนธรรมทางแถบเอเชียเท่าไร พวกเขาชอบทำอะไรที่ดูจะ? ยุ่งยาก?" "หึ! เข้าใจพูดนะ"แมคคาเดเมียมองสบตากับเด็กหนุ่มด้วยรอยยิ้มถูกใจ ซึ่งทำเอาอีกฝ่ายสะดุดก้มหลบหนีสายตาแทบไม่ทัน "ใช่...ที่เป็นแบบนั้นเพราะเราไม่ใช่พวกป่าเถื่อน ไร้อารยธรรมแบบนาย" เสียงนุ่มทุ้มของชายคนหนึ่งแทรกเข้ามากลางบทสนทนา ทำเอาคนที่โดนด่าต้องหันไปมองด้วยสายตาคมกริบ "....คำพูดไม่กี่คำอาจฆ่านายได้นะราฮิม"สายตาวาวโรจน์ปราดมองคนมาใหม่ด้วยความไม่พอใจ "ยังไง? ฉันไม่จำเป็นต้องลงเรือหรอกนะ...." อีกฝ่ายทำเพียงยักไหล่ไม่สนคำพูดของคนตรงหน้าแม้แต่น้อย ทำเพียงอุ้มแมวขนดำที่มีเครื่องประดับเพชรเดินผ่านเจ้าตัวไปเท่านั้น "อย่าได้โผล่มาถึงถิ่นของฉันเชียว...ไม่งั้นนายจะไม่มีโอกาสได้ขึ้นฝั่งอย่างแน่นอน" คำขมขู่นี้ทำราฮิมชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้คนขู่อย่างไม่เกรงกลัว "อย่าลืมว่าราคาไข่มุกของนายขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของฉันนะ" "...." "นี้ พวกนายไม่คิดว่าแปลกเหรอ?" เสียงหวานเรียกความสนใจคนในห้องได้เป็นอย่างดี แม้แต่กับคนที่กำลังโกรธอยู่ก็ด้วย "พูดมาขนาดนี้แล้ว รู้อะไรมาก็พูดออกมาเถอะ เธอจะเก็บง่ำไว้ทำไม? " แมคคาเดเมียพูดพร้อมจิ๊ปากอยากไม่พอใจ มีแต่คนทำให้ไม่สบอารมณ์อยู่เรื่อยเลย ขัดอารมณ์กันเก่งจริงๆ "ราคาข่าวฉันแพงนะย่ะ" "แพงขนาดไหน คนที่จะซื้อข่าวเธอก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้มั้ย?" หญิงสาวเบ่งปากมองอีกฝ่ายอย่างดูถูก....อยากฟังข่าวของเธอแต่ไม่ยอมแม้แต่จะออกเงินสักแดงเดียว คิดเอาเถอะว่าหน้าด้านหน้าทนกันขนาดไหน "จริง ๆ พวกนายน่าจะสังเกตแล้ว ว่าช่วงนี้มีอะไรที่มันผิดปกติ" " ผิดปกติ? ยังไงของเธอ " แมคคาเดเมียมองเจ้าหล่อนด้วยความสงสัย มีเรื่องสนุกอะไรที่เขาไม่รู้ด้วยเหรอ "ทะเลคงเป็นอุปสรรคของพวกเขาในการตามล่าหัวของนายสิน่ะ" "หืม? แล้วเหตุการณ์บนบกของพวกเธอเป็นแบบไหนกัน บ้านฉันคือทะเล ถ้าอยากได้หัวกันนักก็ลงทะเลมาเอาไปสิ"เจ้าตัวพูดพรากยิ้มร้ายอย่าท้าทาย คงสนุกไม่น้อยถ้าจะมาเอาตามล่าเอาค่าหัวเขาจริงๆ "ล่าสุดฉันพึ่งจะโดนสะกดรอยตาม แต่อีกฝ่ายไม่ได้ลงมืออะไรหรอกนะ เหมือนแค่มาดูลาดราวเฉยๆ ส่วนเจ้าเด็กนี้ก็พึ่งจะโดนไล่ฆ่ามาเหมือนกัน" เธอรู้สึกไม่พอใจเท่าไรที่น้องเล็กสุดในกลุ่มอย่าง 'คลาวด์ เทเดอร์' แฮกเกอร์มือโปรของวงการไอทีต้องมาวิ่งหนีการไล่ล่าของพวกนั้นแล้วมาหลบกบดันอยู่ที่นี้ตั้งสามวัน ช่างน่าสงสารจริงๆ "พี่รู้ได้ยังไง? ผมไม่เคยเล่าให้พี่ฟังนะ"คลาวด์เงยใบหน้าขึ้นจากหมอนรองมืออย่างประหลาดใจละคนตกตะลึง "คิดว่าฉันเป็นใครกัน?..." หญิงสาวยิ้มหวานตอกกลับเด็กหนุ่มข้างกายที่ทำสีหน้าไม่พอใจ เธอคือราชินีแห่งวงการข่าวสาร 'คาริน เดอ ซูราร่า' เจ้าของแหล่งข่าวลับในตลาดมืดเชียวนะ ไม่ได้มาด้วยชื่อสักหน่อย เรื่องอะไรเธอจะไม่รู้กัน จะพูดหลบพูดอ้อมหรือโกหกอะไรมา เธอรู้หมดแหละ บ้างทีอาจรู่มากกว่าเจ้าของข่าวด้วยซ้ำ "พวกมันถึงได้เลือกคนที่จัดการได้ง่าย ๆ ก่อนไง" ทั้งห้องเงียบมองหน้าเธออย่างสับสนและไม่เข้าใจเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น ในสมาชิกเจ็ดบาปนี้มีคนที่จัดการได้ง่ายด้วยเหรอ? " ใคร?" แมคเอ่ยถามเสียงเข้ม ในตามีแววยินดีแบบประหลาด ซึ่งทำให้คนทั้งห้องที่หันไปมองต้องขนลุกกับความประสงค์ร้ายซึ่ง ๆ หน้าของเขา "คาเตอร์เหรอ" คราวนี้เป็นราฮิมที่เอ่ยถาม... หญิงสาวพยักหน้ารับเบาๆ ครั้งนี้เมื่อเธอเล่าจะทำสีหน้านิ่งเป็นพิเศษเพราะเกี่ยวพันถึงความเป็นตายของสมาชิกภายในกลุ่ม " ล่าสุดเจ้าตัวโดนลอบฆ่าที่มาเก๊า แล้วร่องรอยก็หายไปเลย ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้อยู่ไหน" จริงๆเจ้าตัวก็ไม่ได้จัดการได้ง่ายอย่างที่เธอพูดหรอกเพียงแต่ครั้งนี้ไปอยู่ต่างถิ่นและไม่ได้ระวังตัวมากนัก คงไม่คิดว่าจะโดนไล่ตอนแบบนั้น "ตายแล้ว?"แมคคาเดเมียถามขึ้นอย่างอดที่จะสงสัยไม่ได้ เพราะกว่าเจ้าหล่อนจะพูดจบ ก็เล่าซะกำกวมเสียจนเขาไม่อยากที่จะตีความให้ยุ่งยาก "อย่าพูดแบบนั้นสิ...ลูซิเองก็อยู่ที่นั่น อืมเรียกว่าถิ่นของเจ้าตัวเลยนะ น่าจะช่วยคาเตอร์อยู่บ้าง" เธอพูดพร้อมกรอกตาใส่อีกฝ่าย.. หมอนี้ก็บ้าหวังจะให้คนตายอย่างเดียวเลย.... "หึ!...สุนัขรับใช้จักรพรรดิคนนั้น มีน้ำจิตน้ำใจกับเขาด้วยหรือไง?" น้ำเสียงของเขาพูดออกมาราวกับขบขันที่ได้ยินแบบนั้น แม้กระทั่งชื่อของบุคคลที่พูดถึงยังไม่หลุดออกมาจากปาก ราวกับเกลียดชังมากจนแม้แต่ชื่อก็ไม่อยากเรียก "....." "แต่ไม่แน่ลูซิเองก็น่าจะไม่มา...."หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มพูดขึ้นก่อนจะหยุดเงียบไป พร้อมกับรอยยิ้มหวานหยดมองไปอย่างสมาชิกแต่ละคนในห้อง ดูความอยากรู้บนใบหน้าพวกเขาสิ.... "ฉันซื้อข่าวเอง...เธอพูดต่อสิ"ราฮีมพูดขึ้นหลังจากที่เธอเว้นจังหวะไว้ไม่เล่าหมด เจ้าตัวลูบขนแมวบนตักตัวเองแผ่วเบา แค่ราคาข่าวไม่เท่าไร เขาจ่ายได้สบาย ๆ อยู่แล้ว เพราะเขาคือ'อิบราฮิม อับดู คาลิม'เจ้าของบ่อน้ำมันรายใหญ่ของทวีป ซึ่งไม่มีทางขาดแคลนกำลังทรัพย์อยู่แล้ว "ต้องแบบนี้สิเจ้าชาย~....บัญชีเดิมนะ" คนถูกเรียกว่าเจ้าชายพยักหน้ารับเจ้าหล่อนเบาๆ ไม่ติดใจอะไรถ้าจะเรียกเขาแบบนั้นเพราะตัวเขานั้นมีสายเลือดของราชวงศ์ของประเทศทางแทบเอเชียตะวันออกกลางอยู่จริงๆ "แหล่งข่าวของฉันบอกว่า พวกนักล่าค่าหัวเล็งหัวลูซิเฟอร์ไว้เป็นตัวแดง ๆ เลยละ เพราะเป็นค่าหัวที่คุ้มค่าไม่น้อย แล้วเริ่มลงมือตามล่ากันแล้วด้วยนะ" "คุ้มค่าเหรอ ยังไง?" " คุ้มสิ มีคนตั้งค่าหัวไว้สูงลิ่วแซงค่าหัวพวกเราไปมากโขเลย คนจ้างวานเองก็ไม่แผ่ว พวกสไนเปอร์นี่ดูจะเนื้อหอมไม่น้อยในหมู่นักฆ่าด้วยกันนะ" "ฆ่าสุนัขได้ เจ้านายก็คงจะจัดการได้ไม่ยาก คงคิดแบบนั้นกันน่ะสิ" แกร๊ก... "...!!" "...!!" เสียงวัตถุกระทบกับพื้นทำคนทั้งห้องหันไปมองต้นเสียงที่ขัดจังหวะบทสนทนาอย่างพร้อมเพรียง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม