หลังจากที่ฉันและณิชากินข้าวที่โรงอาหารคณะเศรษฐศาสตร์เรียบร้อยเราก็รีบกลับคณะเพราะยังมีเรียนคาบบ่ายต่อ ส่วนพวกพี่อินแจตอนบ่ายพวกเขามีซ้อมบาสเกตบอลกันที่โรงยิม
ก่อนจะขึ้นตึกคณะพวกเราแวะห้องน้ำกันก่อนเพื่อจัดการธุระส่วนตัว หลังจากที่ฉันออกจากห้องน้ำมาก็ได้มีผู้หญิงที่พยายามเลี่ยงดักรออยู่กับเพื่อนอีกสองคน
“ลูกพีช”
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” ลูกพีชพูดพร้อมกับลากแขนฉันเข้าไปคุยในห้องน้ำ โดยที่มีณิชาเดินตามพวกเราเข้าไปด้วย ส่วนเพื่อนร่วมคณะของลูกพีชอีกสองคนยืนรออยู่ปากทางเข้าห้องน้ำ
“มีเรื่องอะไรว่ามา” ฉันสะบัดแขนแล้วเอ่ยถาม
“เลิกยุ่งกับพี่อินแจซะ” พอได้ยินชื่อพี่อินแจปุ๊บฉันถึงกับตาโตขึ้นมาทันที ยัยลูกพีชไปรู้จักกับพี่อินแจได้ยังไง
“นี่เธอรู้จักพี่อินแจด้วยเหรอ” ด้วยความสงสัยฉันจึงรีบถามออกไป
“พี่อินแจคือคนที่ฉันชอบ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับเขา”
“แค่คนที่ชอบ แล้วพี่เขาชอบเธอด้วยรึเปล่า ขอถามหน่อยเถอะจะอะไรกับฉันหนักหนาฮะ” ถึงฉันจะไม่ชอบมีปัญหา แต่ถ้าปัญหามันเข้ามาหาฉันก็ไม่ยอมหรอกนะ
ลูกพีชเธอเป็นแบบนี้ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะจงเกลียดจงชังอะไรฉันนักหนา เธอมักจะทำตัวเหมือนคนขี้อิจฉาพอฉันได้อะไรเธอก็ต้องได้ตาม
ตอนเรียนอยู่มอปลายมีรุ่นพี่เข้ามาจีบฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอกเพราะตอนนั้นยังไม่คิดเรื่องมีแฟน พอลูกพีชรู้ว่ามีรุ่นพี่มาจีบฉันนางก็เสนอตัวตามจีบจนได้พี่เขาเป็นแฟน
พอจบมอปลายพ่อซื้อรถไว้ให้ฉันเอาไว้ขับไปกลับมหาวิทยาลัย นางก็ไปอ้อนน้าโสแม่ของนางให้ซื้อให้บ้าง
ที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดมากอะไรหรอกนะ ไม่ถือสาด้วยซ้ำกับสิ่งที่ลูกพีชทำ แต่มาครั้งนี้มันชักเริ่มรู้สึกว่าเธอตั้งใจแล้วล่ะ
“เธอไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน ถ้าไม่อยากเสียใจก็เลิกยุ่งกับพี่อินแจซะ อีกไม่นานเราก็จะคบกันอย่างแน่นอน” เธอตอบออกมาดูมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะทำให้คนอย่างพี่อินแจคบกับเธอได้
“ไว้รอถึงวันนั้นค่อยมาพูดกับฉันก็แล้วกัน ปะ ณิชา เราไปกันเถอะ” ฉันตอบกลับเสียงแข็งแล้วดึงแขนณิชาให้ออกจากห้องน้ำมา
“กรี๊ดดดด ยัยขนม เธอเตรียมตัวรับความพ่ายแพ้เอาไว้ได้เลย ยังไงฉันก็ต้องได้เป็นแฟนกับพี่อินแจก่อนเธอแน่นอน” เสียงตะโกนโหวกเหวกตามหลังฉันออกมาจากห้องน้ำ
ชิ คนอย่างขนมโนสนโนแคร์ค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องพี่อินแจฉันก็ไม่ยอมแพ้เธอเหมือนกันยัยลูกพีชเน่า
หลังจากออกมาจากห้องน้ำฉันกับณิชาก็กลับขึ้นมาเรียน
“ที่ยัยลูกพีชมาหาเรื่องแกวันนี้ หรือว่านางเห็นพวกเราไปกินข้าวกับพวกพี่อินแจเลยอิจฉา” เสียงเพื่อนรักเอ่ยขึ้นมา ความจริงฉันก็คิดแบบเดียวกับที่ณิชาคิดนั่นแหละ
“ช่างเหอะ ยัยนั่นก็ทำตัวไร้สาระแบบนี้แหละ” ฉันบอกปัดเพราะไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ต้องเก็บมาคิดมากให้รกสมอง
“ช่างได้ไงล่ะแก นางประกาศตัวเป็นคู่แข่งขนาดนี้ ระวังเหอะ ไม่ทันได้คบเดี๋ยวจะโดนตัดหน้าไปซะก่อน” ณิชาพูดจบก็หันหน้าไปทางอาจารย์ผู้สอน
เฮ้อ อะไรกันนักหนาชีวิตฉัน จะทำอะไรแบบไม่มีอุปสรรคสักเรื่องเลยไม่ได้หรือไง
ยัยลูกพีชเน่านี่ก็เหมือนเจ้ากรรมนายเวรที่อยู่ในรูปของคนในครอบครัวดีๆ นี่เอง คอยหาแต่เรื่องให้ฉันได้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน มัวแต่คิดเรื่องไร้สาระจนเรียนไม่รู้เรื่องเลยวันนี้
…..
@คอนโด
.
“วันนี้มันเป็นวันซวยอะไรของฉันกันเนี่ย น้ำที่คอนโดไม่ไหลไปอีก” แต่ที่โชคร้ายกว่านั้นคือฉันกำลังสระผมและก็ยังไม่ได้ล้างแชมพูออก
ฮือ~ จะทำยังไงดี ฉันรีบคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวเอาไว้ และใช้ผ้าผืนเล็กอีกผืนมาคลุมผมที่มีแต่ฟองสีขาวเต็มหัว
ฉันเดินออกไปนอกห้องน้ำเพื่อไปดูน้ำขวดที่ซื้อเอามาไว้ดื่มกินแต่ก็ไม่เหลือสักขวด มีแต่ขวดที่ถูกแช่เย็นเอาไว้และเหลือเพียงแค่ขวดเดียว มันจะไปพออะไรล่ะ
มือเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อจะหาใครสักคนที่จะช่วยฉันได้ ‘พี่อินแจ’ เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบกดโทรไปหาเขาทันที
…..
-Call-
ขนม (พี่อินแจ พี่อยู่ที่ห้องรึเปล่าคะ)
อินแจ (โทรมามีอะไร)
ขนม (ห้องพี่พอจะมีน้ำเหลือสัก 4-5 ขวดมั้ยคะ)
อินแจ (ไม่มี โทรมาถามหาน้ำเนี่ยนะ ห้องเธอไม่มีน้ำกินหรือไง)
ขนม (ฮือ พี่อินแจ น้ำห้องขนมไม่ไหลอะ แล้วนี่ก็ยังไม่ได้ล้างผมเลย พี่ช่วยไปซื้อน้ำให้หน่อยได้มั้ยคะ นะนะ รบกวนหน่อย)
อินแจ (อืม เดี๋ยวลงไปซื้อให้)
ขนม (อินแจโอปป้าใจดีที่สุด เอาขวดใหญ่หลายๆ ขวดเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
…..
เย้ มีที่พึ่งแล้ว ถ้าไม่ได้พี่เขานี่ไม่รู้ว่าคืนนี้ฉันจะได้ล้างผมรึเปล่า
ผ่านไปเกือบ 20 นาทีพี่อินแจก็มาเคาะเรียกที่หน้าห้อง พร้อมกับน้ำขวดใหญ่หลายขวด
“อะน้ำ” รุ่นพี่ยื่นน้ำขวดใหญ่ที่ถูกห่อเป็นแพ็คให้ ใบหน้าหล่อตี๋จ้องมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะอยู่ในสภาพไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร
“ขอบคุณค่ะ พี่ช่วยยกเข้ามาให้หน่อยจิ” ส่งสายตาอ้อน และเขาก็ยกเข้ามาวางในห้องให้จริงๆ ด้วย
“ค่าน้ำเท่าไรคะ เดี๋ยวขนมโอนตังค์คืนให้”
“ไม่เป็นไร แค่ไม่กี่บาท”
“ไม่เอาอะ เกรงใจ แค่ให้พี่ไปซื้อน้ำให้ก็เกรงใจจะแย่แล้วค่ะ”
“ไม่ต้องคืน แล้วนี่ฉันกลับได้แล้วใช่มั้ย” เขาพูดพลางหันมองไปทางอื่น นี่ฉันไม่น่ามองขนาดนี้เลยเหรอ ออกจะตัวเล็ก ทั้งสวยทั้งน่ารัก ผิวก็ขาว
“ไหน ๆ ก็มาแล้วช่วยอะไรหน่อยสิคะ” ฉันเอ่ยขอความช่วยเหลือ กะพริบตาปริบๆ พร้อมกับกระตุกชายเสื้ออย่างเช่นเคย “ช่วยเทน้ำใส่ผมให้หน่อยได้มั้ยคะ ทำเองมันไม่ถนัด”
“นี่บื้อรึเปล่าเนี่ย น้ำไม่ไหลแล้วสระผมทำไม” โดยคนเย็นชาหลอกด่าอีกแล้ว
คิดได้ไงเนี่ยถ้ารู้ว่าน้ำมันจะไม่ไหลแล้วขนมจะสระผมให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้มั้ยละคะ คราแรกก็นึกว่าจะไม่ช่วยที่ไหนได้ ก็ยอมแกะน้ำที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกออกมาอยู่ดี
“ไปล้างผม เดี๋ยวไม่สบาย” คนตัวสูงเดินนำเข้าไปในห้องน้ำ ยัยขนมก็ดีใจรีบเดินตามไปเลยสิคะ
ฉันแกะผ้าขนหนูที่คลุมผมออกแล้วก้มหัวลงให้พี่อินแจคอยเทน้ำใส่ผมเพื่อล้างแชมพูออก เทโดนบ้างไม่โดนบ้างเหมือนเขาไม่ได้มองเลยว่าผมอยู่ทางนี้
“พี่อินแจขยับมาทางนี้หน่อยสิคะ น้ำมันไม่โดนผมเลย” คนตัวสูงขยับมาตามที่บอก รู้สึกว่าเวลานี้เขาจะหายใจแรงแบบผิดปกติ
ดีนะที่ฉันรีบท้วงพี่อินแจ ไม่อย่างนั้นน้ำที่ซื้อมาทั้งหกขวดคงไม่พอ เพราะที่ถูกเททิ้งเพราะไม่โดนผมฉันดูๆ แล้วน่าจะเกือบสองขวดได้
“พี่ไม่สบายเหรอคะ หายใจเสียงดังจัง”
“ปะ…เปล่า” เขารีบปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก
ฉันรีบล้างผมเสร็จจนฟองแชมพูออกจนหมดจด แล้วก็เผลอสะบัดหัวขึ้นอย่างลืมตัวจนน้ำที่เกาะอยู่บนเส้นผมกระเด็นโดนหน้าหล่อๆ ของพี่อินแจเต็มเลย
“นี่ยัยบื้อ ระวังหน่อยสิ น้ำเต็มหน้าพี่หมดแล้ว” เขายกมือขึ้นลูบน้ำที่เกาะอยู่บนใบหน้า สายตาคู่คมจ้องมาทางฉันอย่างเหลืออด
อุ๊ย! “ขะ…ขอโทษค่ะ” รีบเอ่ยขอโทษไปทันที ก็ฉันลืมตัวไปนี่นา ดันเผลอสะบัดหัวแรงเสียด้วย ขอโทษนะคะพี่อินแจ อือ รู้สึกผิด
พี่อินแจรีบเดินออกไปจากห้องน้ำ ส่วนฉันก็รีบเช็ดผมและเดินตามออกไปเช่นกัน
“ขอบคุณนะคะที่ช่วย” ใบหน้าหล่อยังดูเหมือนงอนนิดๆ ที่เมื่อกี้น้ำกระเด็นใส่หน้า “โกรธเหรอ”
“เปล่า” เขารีบตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “รีบไปใส่เสื้อผ้าได้ละ หรือว่าตั้งใจจะอ่อย” ดูสายตาแทะโลมคู่นั้นสิ มองตั้งแต่หัวจรดเท้า จนคนโดยมองรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าและหัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ