“อย่าทำมันอีก ฉันไม่ชอบ” เขาสั่งเสียงต่ำเช่นเดิม ร่างสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอว สองตาแลออกไปนอกผนังกระจก หวังจะให้สีเขียวสีครามของต้นไม้ใบหญ้า ช่วยดับความขุ่นข้องหมองใจอันเกิดจากสตรีร่างเล็กบางที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ฉันว่าคุณคุกคามความเป็นส่วนตัวของฉันมากเกินไปแล้วนะ ถ้าแค่นี้คุณก็ห้าม ฉันคงทำงานให้คุณไม่ได้ ฉันขอลาออก!”
สิมันตราตะคอกใส่เจ้านาย เขาไม่มีสิทธิ์มาสั่งให้เธอเลิกทำอย่างโน้นอย่างนี้ โดยเฉพาะเมื่อเหตุผลเดียวที่มีคือคำว่า เขาไม่ชอบ
“อะไร! เธอจะลาออกทั้งๆ ที่มาทำงานได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ!”
“ใช่! ทำไม”
“เธอต้องเขียนใบลาออกล่วงหน้าอย่างน้อยสองเดือน” เขาหาทางรั้งคนร่างบางเอาไว้ เขาไม่ปล่อยแม่สมันตัวน้อยให้หลุดออกจากเมืองยักษ์ง่ายๆ หรอก
“ลืมไปหรือเปล่าคะเจ้านาย ฉันไม่ได้เขียนใบสมัคร” เธอลอยหน้าลอยตาบอกเขาอย่างเป็นต่อ ในตอนท้ายประโยคเผยรอยยิ้มที่มุมปากอย่างอวดดี
“เธอจะเขียนมันแน่ๆ ถ้าฉันต้องการให้มีเอกสารแผ่นนั้น”
เจ้าของบริษัทอวดอำนาจมืดเล็กน้อย ริมฝีปากแดงเรื่อราวอิสตรีแย้มยิ้มบางๆ แต่เผยเขี้ยวยักษ์เจ้าเล่ห์อย่างร้ายเหลือ
สิมันตรารู้ดี เขาสามารถเนรมิตเอกสารใดๆ ขึ้นมาก็ได้ในเมื่อบริษัทนี้เป็นของเขาทุกตารางนิ้ว
“บ้าอำนาจที่สุด ถ้าฉันไม่ทำตามที่คุณสั่งคุณจะจับฉันขังคุกหรือเปล่าฮะ!”
“แน่นอน แต่ไม่ใช่ขังคุกหรอก ถ้าเธออยากรู้ละก็ฉันจะพาไปดูเอง อย่างเธอนี่คำว่าคุกมันสบายเกินไป!”
ร่างสูงใหญ่เคลื่อนกายเข้าหาร่างอรชรด้วยความรวดเร็ว เขาย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วแบกเอาร่างของสิมันตราพาดบ่า ในขณะที่เจ้าตัวร้องกรี๊ดๆ ด้วยความตกใจ เขาจัดการเปิดประตูห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับห้องน้ำ เปิดประตูห้องเข้าไปโดยไม่ลืมล็อกให้เรียบร้อย ก่อนจะตรงไปยังเตียงเพื่อเหวี่ยงคนปากดีลงบนนั้นอย่างแรง ไม่มีอนาทรร้อนใจว่าหล่อนจะได้รับความเจ็บปวดทางร่างกายหรือไม่
“โอ๊ย! เจ็บนะ! แล้วพาฉันมาในนี้...ทำไม” ถามเขาเสียงสั่น ทั้งจุกทั้งกลัว
เจ้านายหนุ่มไม่ตอบ เขาโถมกายเข้าหาหล่อนแล้วช้อนฝ่ามือแข็งแรงเข้าใต้ท้ายทอยขาวผ่องเพื่อดึงรั้งเข้าหาตัว ก่อนจะลงทัณฑ์แม่กวางจอมดื้อด้วยริมฝีปากคมๆ และร้อนฉ่า
สิมันตราหายใจไม่ทั่วท้อง มือน้อยที่คอยผลักไสตั้งแต่เริ่ม บัดนี้ทำได้เพียงวางแหมะบนแผงอกที่คร่อมอยู่เหนือร่าง เธอกำลังเมาจูบ กุมภัณฑ์ผู้ช่ำชองเรื่องนี้ดึงเธอให้จมดิ่งในบทลงทัณฑ์อันเร่าร้อนของเขา
หญิงสาวหายใจหอบถี่เมื่อเขาผละจากริมฝีปากอิ่มเต็มตึง สายตาสองคู่สานสบกันในระยะห่างเพียงไม่กี่นิ้ว ลมหายใจที่ถ่ายเทเข้าออกก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจากร่างกายกันและกัน
กุมภัณฑ์กำลังควบคุมสติ มันกระเจิดกระเจิงจนไม่อยากกลับมาหาเจ้าของ เขาไม่เคยเป็นเช่นนี้เลย ไม่เคยสัมผัสใครแล้วปรารถนาจะสัมผัสต่อไม่จบไม่สิ้น แต่เขาจำต้องหยุด เพราะถ้าไม่หยุด มันต้องดำเนินต่อไปจนถึงรุ่งเช้าของอีกวันแน่ๆ
“อย่าทำอย่างนั้นอีกนะกวาง อย่าพูดอย่าหัวเราะอย่างนั้นกับผู้ชายคนไหนอีก เข้าใจไหม”
กวางสาวส่ายหน้าช้าๆ นายยักษ์ออกคำสั่งสินะ แล้วเธอต้องทำตามด้วยใช่ไหมล่ะ ไม่อย่างนั้นคงถูกจับกินเป็นแน่แท้ นี่แค่พูดคุยนะ ถ้านายยักษ์เห็นเธอจับมือถือแขนหรือโอบกอดกับหนุ่มๆ ข้างล่างละก็ ไม่อยากคิดเลยว่าเธอจะโดนอะไร
“คุณ...มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน! แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอกด้วย”
สิมันตราจ้องกุมภัณฑ์อย่างไม่เชื่อว่าเขาจะกล้ากระทำการอุกอาจถึงเพียงนี้ และไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำบ่นน้อยๆ ของตนเองจะสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของห้อง
“ไม่มีคำตอบในสิ่งที่เธออยากรู้หรอก รู้เอาไว้แค่ว่าฉันมันคนขี้หวง แม้แต่แม่บ้าน ฉันก็ไม่ชอบใช้ร่วมกับคนอื่น จำเอาไว้”
“คนโรคจิต...” สิมันตราค่อนขอดแต่กุมภันฑ์กลับยิ้มรับ
“ขอบคุณ ฉันชอบจัง ‘คนโรคจิต’ งั้นคนโรคจิตปล้ำใครคงไม่ผิดใช่ไหม” ไม่พูดเปล่าแต่ยังคุกคามกวางสาวด้วยฝ่ามือร้อนผ่าวที่ลูบไล้ไปทั่วร่างน้อย
“อย่านะ! จะบ้าหรือไง นี่มันเวลางานนะ”
กุมภัณฑ์เลิกคิ้วสูง
“งั้นเลิกงานแล้วเราไปหาที่มิดชิดเล่นสนุกกันหน่อยดีกว่านะ หึๆ”
เขาหัวเราะในลำคออย่างมีเลศนัย ริมฝีปากคลี่ยิ้มน้อยๆ เผยเขี้ยวเสน่ห์ให้สิมันตราได้หลงใหล
“ฝันไปเถอะย่ะ ปล่อยฉัน! ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณท่าน”
สิมันตราเอามารดาเจ้านายมาขู่ แต่เขาไม่กริ่งเกรงสักนิด
“เอาสิ ถ้าเธอไม่อายถ้าคนอื่นจะรู้ว่าเราสองคนทำเรื่องแบบนั้น”
“เรื่องแบบไหนฮะ! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย และถ้าคุณพูดขึ้นมา คุณนั่นแหละต้องอายเพราะว่าต้องแต่งงานกับฉัน!”
คราวนี้กุมภัณฑ์ได้สติ เขาปล่อยมือจากการกอดสิมันตรา แล้วลุกมานั่งครุ่นคิดถึงสิ่งที่ทำลงไป
“ขอโทษที ฉัน...ทำไปได้ยังไงเนี่ย!” กุมภัณฑ์ตวาดตัวเอง แต่เสียงนั้นทำเอาคนที่มือไม้สั่นเพราะติดกระดุมเสื้อต้องสะดุ้งสุดตัว
“ถ้าถามฉัน ฉันก็จะตอบว่าเพราะความหื่นไม่เลือกเวลาของคุณนั่นแหละที่ทำให้เรื่องบ้าๆ นี่เกิดขึ้น” เธอประชดประชัน พอติดกระดุมเสื้อเสร็จก็รีบเผ่นออกจากห้องนอนมรณะของเจ้านายบ้ากามทันที