แม้มันจะเป็นเรื่องที่ดูไร้สาระในสายตาคนอื่น แต่เจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่ของพวกเธอกลับแข็งกร้าวแสดงถึงความมุ่งมั่น ขอโทษพระเอกที่แสนดีจากประเทศที่โดนแบนด้วยก็แล้วกัน ตอนนี้พวกเธอขอระบายความโกรธด้วยวิธีการนี้ไปก่อน
"งั้นเอาซีรีส์เกาหลีเนาะ" รินะเปิดไปดูเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยดูและเป็นแนวรักคอมเมดี้ขึ้นมา สามสาวนั่งอินกับละครและฟินกับหนุ่มเกาหลีกล้ามโตสายละมุนพลางพึมพำว่าผู้ชายดีๆ มีแต่ในนิยายชีวิตนี้เลยขอฟินกับนิยายไม่ไปอยู่แล้วโลกความจริงอันโหดร้าย แล้วทั้งสามคนก็ต่างเออออไปด้วยกัน
จนซีรีส์จบไปห้าตอนเลยเวลาหาอาหารเย็นมาพักใหญ่แต่บ้านรินะยังไม่ตั้งโต๊ะเพราะติดพันกับละครถ้าไม่จบตอนก็หยุดไม่ได้ พอจบตอนที่หก พวกเธอจึงหยุดดูเพราะความหิวบังเกิด
"ป้าหนีมาจนป่านนี้ก็ยังไม่มาง้อ คุณอาคมต้องทำสงครามประสาทกับป้าแน่ๆ เพราะมีเรียกตาคินมาเสริมทัพ"
รินะนึกขึ้นได้ว่าอนาคินพูดถึงเรื่องที่บิดาเขาตามกลับมาคุยธุระ แสดงว่าเขาเองก็ไม่คิดจะมาง้อป้าเมตเหมือนกัน... หญิงสาวเห็นแววอกหักของตัวเองรางๆ คราวนี้คงบอกเพื่อนไม่ได้เพราะโดนด่าแน่ ตอนนี้ถึงบอกป้ากับแม่ก็ไม่ได้เหมือนกันแต่อย่างน้อยก็ยังมีพวกท่านอยู่แฮงค์เอาท์ด้วย...
ฮือ...
"กลับไปง้อสามีไหมพี่เมต" นาลินถามเมตตาเพราะเห็นชัดแล้วว่าฝ่ายสามีเพื่อนรุ่นพี่ตนนั้นเอาจริงเรื่องนี้ ถ้าเป็นเรื่องอื่น เขาคงมาง้อไปแล้ว
"ไม่ได้" เมตตาพูดเสียงขึ้นจมูก "ในเมื่อเขาสู้มา ฉันก็จะสู้กลับ"
"เอายังไงดีคะคุณป้า" รินะใจชื้นที่อีกฝ่ายมีเลือดนักสู้... เหมือนเธอ
"ไปเกาหลีกัน"
"หูย ไอเดียแจ่มค่ะสุดสัปดาห์นี้รินะว่าง ส่วนแม่เอางานไปทำที่ไหนก็ได้ เราไปแฮงค์เอาท์กันที่โซลดีไหมคะ"
"ไม่ต้องห่วงดูละครตอนต่อไปแล้ว เพราะเราจะไปหาพระเอกข้างหน้า" เมตตาประกาศกร้าว
"ไปด้วยๆ" นาลินที่ว่างและไม่ต้องประหยัดเงินมากเพราะมีงานประจำทำแล้ว แถมทริปเกาหลีแบบปุบปับทัวร์ของพวกนางยังใช้เงินไม่มากเพราะยัยรินะเคยพานางไปเที่ยวบ่อยครั้งในช่วงมีตั๋วโพรโมชัน ส่วนเมตตาถ้าว่างอย่างไรก็ไปได้เพราะขนหน้าแข้งไม่ร่วงอยู่แล้ว ชีวิตช่วงหลังๆ ของนางไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเหมือนตอนที่รินะยังเด็กเพราะเก็บเงินไว้เยอะตอนนี้เลยมั่นคงระดับหนึ่ง พอตอนทำงานจึงมีเงินมากพอสำหรับพักผ่อน
"รินะอยากสักรูปผีเสื้อจัง เก็บไว้ชวนผู้ชายหล่อมาดูผีเสื้อที่ห้อง" เธอเล่นมุกเพราะละครที่ดูด้วยกันเรื่องก่อนพระเอกสักรูปผีเสื้อใต้ร่มผ้าแล้วชวนนางเอกมาดูผีเสื้อที่ห้องแล้วก็เกิดฉากวาบหวามขึ้น พวกเธอสนิทกันมากหญิงสาวเลยเล่นมุกโดยไม่กลัวโดนตำหนิ
"เปลี่ยนชื่อเป็นนาบีเลยไหมรินะ จะได้เลิกมีชื่อญี่ปุ่น" นาลินชักอยากจะเอาด้วย ถูกชายญี่ปุ่นหักอกครั้งเดียวนางก็กลายเป็นแอนตี้แฟนประเทศนี้ไปเสียแล้ว ตอนนั้นมันเจ็บปวดมากแต่ไม่รู้จะแบกทุกข์ไว้ทำไมเลยเอามาเป็นเรื่องสนุกๆ ที่พูดกันได้โดยไม่มีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว...
"เปลี่ยนชื่อรับสามีชาวเกาหลีที่เรากำลังจะเจอก็ดีนะคะแม่... นาบี ลูกสาวคุณนาลิน เหมาะเจาะมาก" ลูกสาวเข้ากับมารดาเป็นปี่เป็นขลุ่ย
"ไปลูกหนูนาบี ลูกชายป้าจะไปแต่งแม่นางแบบสกุลหวังนั้นก็ช่าง อย่างน้อยหนูนาบีก็เป็นลูกสาวป้าอีกคน ป้าจะหาลูกเขยใหม่แบบโอปป้าๆ ให้เลยลูก"
เมตตาเรียกชื่อใหม่ของรินะแล้วทั้งสามสาวก็ยกแก้วเหล้ามักกอลลีของเกาหลีที่นำมาดื่มตอนดูซีรีส์ชนแก้วกัน วันนี้เมาพอกึ่มๆ พอดื่มหมดแก้วแล้วก็กอดคอกันลุกขึ้นยืนเพราะจะไปสนามบินกันบัดเดี๋ยวนั้นเลย...
แต่หันกลับมาก็เจออนาคินยืนหน้านิ่งไร้ความรู้สึกอยู่...
และไม่รู้ว่าเขามายืนตั้งแต่เมื่อไหร่
ชายหนุ่มยกมือไหว้สวัสดีนาลินที่ยังยืนนิ่งอยู่ สายตาเขามองเมินรินะไปหยุดอยู่ที่มารดาตัวเอง
"ม้า ป๊าให้มาตามกลับบ้านครับ"
เมตตาที่อารมณ์ดีเมื่อเจอหน้าลูกชายหน้าตึงเปรี๊ยะขึ้นสิบระดับ
"ม้าไม่กลับ ไปบอกป๊าพี่คินเลย ว่าม้าจะไปเกาหลี นี่จัดกระเป๋ามาแล้วด้วย"
"ไปทั้งที่กำลังเมากันแบบนี้เหรอครับ"
"ไม่ได้เมาค่ะ ตอนดูซีรีส์เราดื่มแค่พอกึ่มๆ เดี๋ยวตาลายอ่านซับไทยไม่ได้" รินะรีบบอก คนที่เอาแต่จ้องหน้ามารดาตัวเอง เขาไม่มองหน้าเธอเลย เวลาครอบครัวต้องเจอกันเขาคุยกับมารดาเธอบ้างแต่นิ่งๆ กับเธอตลอดจนทุกคนคิดว่าเขาไม่ได้สนใจเธอเท่าที่ควร ทั้งที่เมื่อเช้าก็ยังอยู่ด้วยกันอยู่เลย
"ป๊ากำลังเข้าครัวอยู่เลยให้มาเชิญบ้านคุณน้าไปกินข้าวครับ"
"งั้นเดี๋ยวม้าโทรหาป๊าก่อน" นางหันไปมองโทรศัพท์ที่รอสามีโทรเข้ามาค่อนวันแต่เงียบสนิท ตาแก่นั่นคงจะให้ลูกชายมาง้อแทนสินะ เมตตากดโทรออกเพื่อเช็กว่าสามีจะยอมลงให้นางไหม
จะได้กินอาหารจีนหรือเกาหลี วันนี้รู้กัน
"คุณอาคม ที่ให้ตาคินมาตามฉันไปกินข้าว คุณยอมฉันแล้วใช่ไหมคะ"