บทที่ 9: สายลมแห่งการตัดสินใจ

1550 คำ
ท้องฟ้าสีเทาหม่นคล้ายบอกถึงความวุ่นวายที่กำลังจะมาถึง หย่งหมิงเดินออกมาจากกระโจมใหญ่พร้อมอารมณ์ที่อัดแน่น เขาสั่งการแม่ทัพให้ออกไปเตรียมการโดยไม่ให้มีผู้ใดเข้ามาขัดจังหวะ ก่อนจะมุ่งตรงไปยังที่พักของหลิงฮวา เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป หลิงฮวานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็ก ใบหน้าซีดขาวราวกับคนที่แบกรับความกดดันมาหลายวัน อู๋เฟิงหลินยืนพิงเสาอยู่ไม่ไกล เขาสบตากับหย่งหมิงเพียงแวบเดียว ก่อนจะถอยออกไปยืนห่าง ราวกับรู้ดีว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้ต้องมีคนพูดความจริง “หลิงฮวา ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า” หย่งหมิงพูดเสียงเรียบ แต่ดวงตาที่มองมานั้นคมกริบราวกับจะทะลุทะลวงเข้าไปในหัวใจของนาง หลิงฮวาเงยหน้าขึ้นมองเขา ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย “องค์ชาย... ข้าไม่มีอะไรจะพูด” “ไม่มีอะไรจะพูด? หรือเจ้ากำลังปกปิดบางอย่างจากข้า?” น้ำเสียงของหย่งหมิงหนักแน่นขึ้น แต่ยังคงรักษาความสงบ อู๋เฟิงหลินที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เอ่ยขึ้นเบาๆ “องค์ชาย หากท่านจะกล่าวหานาง ท่านควรมีหลักฐาน มิใช่แค่เพียงข้อสงสัย” หย่งหมิงหันไปมองเขา สายตาเต็มไปด้วยความระแวง “เจ้าคิดหรือว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าเองก็มีความลับ? ทั้งหมดนี้อาจเกี่ยวพันกับเจ้าเช่นกัน” คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศในห้องตึงเครียด หลิงฮวารีบลุกขึ้นยืน “ได้โปรดหยุดเถิด ข้าไม่ต้องการให้พวกท่านมาทะเลาะกันเพราะข้า!” หย่งหมิงมองหน้านางด้วยความสงสัยที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน “หลิงฮวา ข้าไม่ได้ต้องการทำให้เจ้าลำบากใจ ข้าแค่ต้องการความจริง” หลิงฮวาก้มหน้าลง สูดลมหายใจลึก ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา “ข้ายอมรับว่าข้าได้รับจดหมายจากลี่เหยียน... แต่มันเต็มไปด้วยคำกล่าวหาที่ข้าก็ยังไม่แน่ใจว่าควรเชื่อหรือไม่ ข้ารู้เพียงว่า... นางพยายามแทรกแซงความสัมพันธ์ของพวกเรา” คำพูดนั้นทำให้หย่งหมิงเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก้าวเข้ามาใกล้หลิงฮวา วางมือลงบนไหล่ของนาง “เจ้าควรไว้ใจข้า หลิงฮวา ข้าจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดมาทำร้ายเจ้า” ในขณะที่หลิงฮวาและหย่งหมิงกำลังหาทางแก้ไขปัญหา ลี่เหยียนนั่งอยู่ในห้องลับของตัวเอง นางกำลังบดสมุนไพรบางชนิดด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง แต่ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “นี่จะเป็นงานเลี้ยงที่เขาจะไม่มีวันลืม” นางพึมพำเบาๆ ขณะที่จัดเตรียมยาพิษใส่ในขวดแก้วใบเล็ก งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในวันรุ่งขึ้นโดยมีข้ออ้างว่าเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะเล็กๆ ที่พวกเขาทำสำเร็จในการป้องกันชายแดน ลี่เหยียนเดินเข้ามาในกระโจมจัดเลี้ยงพร้อมรอยยิ้มที่ไม่มีใครจับผิดได้ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอบน้อม “องค์ชาย ข้าหวังว่างานเลี้ยงนี้จะช่วยให้ท่านและทหารทุกคนได้ผ่อนคลาย” หย่งหมิงมองนางด้วยความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในแววตา เขาไม่ตอบ แต่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการยอมรับ ในขณะที่ทุกคนกำลังดื่มกิน อู๋เฟิงหลินจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติ เขาเห็นลี่เหยียนลอบมองหย่งหมิงเป็นระยะ และสายตานั้นไม่ได้แสดงความปรารถนาดี “องค์ชาย อย่าเพิ่งดื่มน้ำแก้วนั้น” อู๋เฟิงหลินกระซิบเสียงเบา ขณะที่หย่งหมิงกำลังจะยกแก้วขึ้นดื่ม หย่งหมิงหยุดชะงัก ก่อนจะวางแก้วลง เขาหันไปมองลี่เหยียนและยิ้มเล็กน้อย “ลี่เหยียน เจ้าช่างใส่ใจจริงๆ ที่จัดงานนี้เพื่อเรา” ลี่เหยียนยิ้มตอบ แต่ในใจของนางกลับรู้สึกกดดันอย่างหนัก นางไม่ทันสังเกตว่า หย่งหมิงได้ส่งสัญญาณบางอย่างให้ทหารผู้ติดตาม “เช่นนั้นข้าขอดื่มอวยพรให้กับทุกคน” หย่งหมิงกล่าวพร้อมยกแก้วขึ้น แต่ไม่ดื่ม เพียงแค่ยกขึ้นเป็นพิธี ลี่เหยียนที่ยืนมองอยู่เริ่มรู้สึกเหมือนบางอย่างผิดพลาด แต่นางยังคงรักษาสีหน้าไว้ได้ “ข้าหวังว่าองค์ชายจะพอใจกับสิ่งที่ข้าจัดเตรียม” หย่งหมิงพยักหน้า “แน่นอน แต่บางทีเราควรพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้” คำพูดนั้นทำให้สีหน้าของลี่เหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนที่นางจะพยายามกลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง บรรยากาศในงานเลี้ยงที่ควรเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะกลับคล้ายมีกลุ่มเมฆหมอกแห่งความระแวงปกคลุม แม้ดนตรีจะบรรเลงไพเราะ และเสียงพูดคุยของทหารก็ดูสนุกสนาน แต่สำหรับบางคน ความตึงเครียดกำลังก่อตัว หย่งหมิงเดินออกจากกระโจมงานเลี้ยงหลังจากกล่าวอวยพรอย่างเป็นทางการ ลี่เหยียนเดินตามออกมาอย่างแผ่วเบา เธอประสานมือไว้ด้านหน้า รักษาท่าทีสง่างาม แม้ภายในใจจะวุ่นวายเหมือนสายลมพัดผ่านคลื่นน้ำ “องค์ชาย หย่งหมิง” นางเรียกเสียงนุ่ม หย่งหมิงหยุดฝีเท้า แต่ไม่หันกลับมา เขาเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่ส่องแสงอยู่เบื้องบน ราวกับกำลังครุ่นคิดเรื่องราวในใจ “เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้า ลี่เหยียน?” เขาถามเสียงเรียบ ลี่เหยียนกัดริมฝีปาก ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงความอ่อนโยน “ข้าแค่ต้องการให้ท่านทราบว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย ข้าเพียงต้องการช่วยท่านในสิ่งที่ข้าทำได้” หย่งหมิงหัวเราะเบาๆ แต่เสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “ช่วยข้าอย่างนั้นหรือ? เจ้ามีอะไรจะช่วยข้าได้บ้าง นอกจากสร้างความวุ่นวาย” คำพูดนั้นเหมือนคมมีดที่บาดลึก ลี่เหยียนสูดลมหายใจลึกเพื่อควบคุมอารมณ์ “ท่านคงไม่เชื่อข้า แต่ข้าทำทุกอย่างเพราะต้องการปกป้องท่าน” หย่งหมิงหันกลับมา สายตาของเขาเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง “ปกป้องข้าด้วยยาพิษในแก้วนั้นหรือ?” คำพูดนั้นทำให้ลี่เหยียนหน้าซีด เธอพยายามพูดบางอย่าง แต่เหมือนถ้อยคำติดอยู่ในลำคอ “เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ? ข้าจับตามองเจ้าอยู่ตลอดเวลา ลี่เหยียน” หย่งหมิงจ้องลี่เหยียนด้วยสายตาเยือกเย็น หลังจากที่คำพูดของเขาดังก้องในความเงียบที่ชวนอึดอัด ลี่เหยียนยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขณะมือของนางบีบชายเสื้อไว้แน่น ความเงียบหนักอึ้งทำให้บรรยากาศในห้องแปรเปลี่ยนเป็นเหมือนการเผชิญหน้าก่อนพายุใหญ่จะมา “ทั้งๆ ที่เจ้าเป็นสหายกับหลิงฮวา เจ้ากลับกล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?” น้ำเสียงของหย่งหมิงกดต่ำ แต่ทุกคำพูดเต็มไปด้วยแรงกดดัน ลี่เหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ราวกับพยายามปิดบังความรู้สึกอึดอัด “องค์ชายเพคะ ข้าก็แค่คนธรรมดา มีอะไรที่ข้าทำผิดหรือเพคะ?” หย่งหมิงก้าวเข้าไปใกล้ นัยน์ตาคมกริบราวกับดาบจ้องมองตรงเข้าไปในดวงตาของลี่เหยียน “อย่าเสแสร้งอีกเลย ข้าเคยเห็นเจ้ากับหลิงฮวา เจ้าเป็นคนใกล้ชิดของนาง แต่สิ่งที่เจ้าทำกำลังทำร้ายทั้งตัวนางและอาณาจักร เจ้ามีเหตุผลอะไรจึงต้องทรยศต่อคนที่เจ้าเรียกว่าสหาย?” ลี่เหยียนหลบสายตา น้ำตาคลอเบ้า แต่เธอปฏิเสธที่จะร้องไห้ “เพราะข้าไม่มีทางเลือก” เสียงฝีเท้าดังขึ้นเบื้องหลัง ทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน อู๋เฟิงหลินปรากฏตัวพร้อมกับหลิงฮวา ใบหน้าของทั้งคู่เคร่งเครียด “ลี่เหยียน ข้าคิดว่าเจ้าควรหยุดเล่นละครได้แล้ว” อู๋เฟิงหลินพูดเสียงเย็น ลี่เหยียนหันมองพวกเขาอย่างหวาดระแวง เธอถอยหลังไปเล็กน้อย แต่ยังพยายามรักษาความสง่างาม “ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้ากล่าวหา” “อย่าเสแสร้งอีกเลย” หลิงฮวาก้าวออกมา น้ำเสียงของนางเจือความผิดหวัง “ข้ารู้ว่าเจ้าพยายามใช้ข้าเป็นเครื่องมือเพื่อทำลายหย่งหมิง และข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำอีกต่อไป” ลี่เหยียนหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงแฝงความขมขื่น “เครื่องมือ? หลิงฮวา เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้าก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมนี้เหมือนกัน?” หย่งหมิงยกมือขึ้นห้ามหลิงฮวาไม่ให้โต้ตอบ เขาเดินเข้าไปใกล้ลี่เหยียนอีกครั้ง “เจ้ายอมสารภาพเสียเถิด ไม่เช่นนั้นข้าจะต้องใช้วิธีอื่น” สายตาของลี่เหยียนเปลี่ยนเป็นความดื้อรั้น เธอรู้ว่าไม่มีทางหนีอีกต่อไปแล้ว “ข้าไม่มีอะไรจะสารภาพ ท่านจะทำอะไรก็เชิญ” หย่งหมิงถอนหายใจ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้อู๋เฟิงหลิน “ตรวจค้นตัวนาง” อู๋เฟิงหลินเข้ามาใกล้ แต่ลี่เหยียนถอยหนี เธอหยิบขวดแก้วใบเล็กออกมาจากแขนเสื้อ พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความท้าทาย “ข้าคงไม่ให้พวกเจ้ามาจับตัวง่ายๆ” เธอพูด ก่อนจะขว้างขวดแก้วใส่พื้น ขวดแตกออกส่งกลิ่นฉุนรุนแรง หย่งหมิงถอยหนี แต่โชคดีที่อู๋เฟิงหลินยื่นแขนดึงหลิงฮวาออกไปพ้นรัศมีของไอพิษ “ลี่เหยียน!” หย่งหมิงตะโกน แต่เธอหายลับไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงกลิ่นพิษและความวุ่นวายที่ยังคงหลงเหลือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม