ตอนที่ 9 โลกใบใหม่
ณ.ห้องทำงานของลี่เฉิน ประธานแห่ง NK GROUP
ลี่เฉินหยิบการ์ดแต่งงานมาอ่าน บนการ์ดระบุงานเลี้ยงมงคลสมรสระหว่าง
‘มารินา เศตากุล กับ วิวัฒน์ เอนกรัตนภาค’
เขาหยิบมาอ่านอย่างตั้งใจ
ในใจยังคงคิดถึงสาวน้อยลิลลี่สีขาวคนนั้น ด้วยยังเข้าใจผิดว่าเธอชื่อ ลลิญา เศตากุล
นับเป็นความชะล่าใจของลี่เฉินที่ไม่สืบอะไรให้แน่ชัด เขาเพียงแต่คิดว่า ในเมื่อระดับประธานโรงแรมมารายงานเขาด้วยตัวเอง มีหรือจะเอาข้อมูลผิดๆมาให้
คุณหยาง ผู้ช่วยส่วนตัว ของลี่เฉิน เคาะประตู ก่อนได้รับอนุญาตให้เข้ามา
"นายท่านครับ ไม่ทราบว่าท่านจะไปงานแต่งงานของ ตระกูล เอนกรัตนภาค ไหมครับ ผมจะได้เลื่อนการเดินทางของท่านให้ก่อนครับ"
"อืม "
"ได้ครับนายท่าน ส่วนกำหนดการเดินทางกลับ ผมจะแจ้งให้คนจัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้พร้อมไว้นะครับ"
ลี่เฉินพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ
คุณหยางโค้งคำนับก่อนทำท่าจะเดินออกไป
"เดี๋ยว" ลี่เฉินทักให้หยุดก่อนเอ่ยต่อ
"ไปหามาว่าบ้านตระกูล เศตากุล อยู่ที่ไหน แล้วสั่งคนเอาดอกลิลลี่สีขาวไปส่งให้คนชื่อ ลลิญา บอกว่าจากฉัน"
"ได้ครับนายท่าน "
ลี่เฉินยิ้มมุมปาก อย่างมีความสุข เฝ้ารอวันและเวลาที่จะได้เจอสาวน้อยคนนั้นอีกครั้ง
พลันก็มีวีดีโอคอลขึ้นมา
ลี่เฉินรับ
"ว่าไง ยัยตัวแสบ โทรหาพี่มีอะไร "
"ต้องมีธุระหรือคะ ถึงโทรมาได้ ใจร้ายมากกกกกก" ปลายสายลากเสียงยาว ก่อนเอ่ยต่อ
"เมื่อไหร่จะกลับเมืองจีนได้แล้วคะ ติดใจสาวๆ ที่เมืองไทย จนลืมสาวที่เมืองจีนคนนี้แล้วแน่เลย"
"รู้มาก" ลี่เฉินตอบเรียบๆ
"ปลายอาทิตย์นี้แหละ พี่มีเรื่องต้องสะสางนิดหน่อย"
"สะสาง โห พี่เฉิน ไปตั้งเป็นเดือน งานเยอะถึงขนาดสะสางไม่หมดเลยหรอ พักผ่อนบ้างนะคะ" ปลายสายทำน้ำเสียงงอแง
"อื้ม ฝากเราแวะไปเยี่ยม คุณพ่อพี่ที่บ้านบ้างนะ ไว้เสร็จธุระแล้วพี่จะรีบกลับ"
"ได้เลยค่า รอนะคะ" สาวสวย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของลี่เฉินวางสาย เธอแอบชอบลี่เฉินมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ลี่เฉิน ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่าน้องสาว
ยิ่งตอนนี้ตัวเขา กลับหลงใหลสาวน้อยที่แรกเจอคืนนั้นไปเสียแล้ว
ในปีนี้ ลี่เฉิน อายุ 28 ปี ถึงเวลาที่เขาจะต้องสร้างครอบครัว
เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุ 25 ปี จัดเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ทรงอิทธิพลมาก ลี่เฉินมารับช่วงต่อจาก บิดาที่เริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพ
ไม่เพียงเท่านั้น เขาสามารถขยายธุรกิจไปทั่วเอเชียได้ภายในระยะเพียง 1 ปีกว่าๆ สร้างกำไรมหาศาลให้กับบริษัท มีทั้งรัฐมนตรีต่างๆ ที่เข้ามาขอการสนับสนุนทุนจากเขา หลายๆ คนจึงให้ความเกรงใจครอบครัวตระกูลลี่ ด้วยเครือข่ายที่มีอยู่มากมาย และมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ภักดีต่อตระกูลนี้เป็นพิเศษ
ที่ผ่านมาลี่เฉินก็ทำแต่งานเป็นอย่างหนัก เขาเป็นคนพูดน้อย แต่เด็ดขาด ทุกเรื่องในชีวิตจะต้องเป๊ะอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา และการทำงาน หลายๆ คนเข้าถึงตัวได้ยาก
หากแต่เมื่อเจรจาธุรกิจเขาจะเป็นเสมือนพญานกอินทรีที่พูดจาให้เหล่านกน้อยยอมคล้อยตามในความเห็นเขาเสมอ
เขาไม่รู้สึกประทับใจใครง่ายๆ หากที่ผ่านมามีผู้หญิงลูกหลานนักธุรกิจ รวมถึงดารามากมายที่พร้อมเสนอตัวให้เขา แต่เขาก็ไม่เคยจะสนใจ
ผู้หญิงที่ไหนก็เหมือนกันหมดในความรู้สึกเขา หากคนเราจะชอบใครสักคน มันเป็นเรื่องของหัวใจมากกว่า หากได้ชอบแล้วก็คือชอบ
ความรักมันเป็นเรื่องของโชคชะตา
การที่เขาได้เจอเธอในคืนนั้น มันเป็นเรื่องบังเอิญมากสำหรับเขา ลี่เฉินเองก็รู้สึกผิดที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ เขาก็ตอบไม่ถูกว่าทำไม ทันทีที่เห็นเธอ ความรู้สึกแปลกๆ ก็บังเกิดขึ้นภายในใจ มันเป็นความวูบไหวอย่างประหลาด
หญิงสาวคนนั้น ราวเธอ..เป็นดั่งแม่เหล็ก ดึงดูดให้เขาเข้าไปหา อย่างถอนตัวไม่ได้
--------------
ช่อดอกไม้ลิลลี่สีขาว ถูกส่งไปยังตระกูล เศตากุล
"คุณหนูคะ มีช่อดอกไม้ส่งมาถึงคุณหนูค่ะ"
ลิญาในชุดแซกสีชมพูเดินมารับช่อดอกไม้อย่าง งงๆ "ของใครอ่ะ พี่วัฒน์หรอ" เธอรับช่อดอกไม้มายิ้มระรื่น “ส่งมาง้อฉันละสิ”
ตามจริง เธอยังคงงอนวิวัฒน์ ที่ไม่รับสายเธอเรื่องที่เธอโทรให้ไปรับ กว่าจะโทรหาเขาติด ก็เมื่อเธอเดินทางกลับมาถึงบ้านแล้ว
ลิญาอมยิ้ม พร้อมพลิกการ์ดที่ช่อดอกไม้มาอ่าน เธอทำสีหน้าแปลกใจ
" ลี่เฉิน ประธานแห่ง NK GROUP" ใครอะ ไม่รู้จัก
ลิญาไม่ค่อยสนใจธุรกิจหรือข่าวสารมากนัก นอกจากปาร์ตี้กับเพื่อนไปวันๆ เธอไม่สนใจเรื่องทำงานด้วยซ้ำ คิดแต่ว่า ยังไงแล้ว วันหนึ่งเธอก็ต้องแต่งงาน กับผู้ชายตระกูลรวยๆ ยังไงเงินทองของเธอและของเขา ก็ทำให้เธออยู่สุขสบายได้ โดยไม่ตรงลงทุนทำอะไร ด้วยเธอเองก็มีรายได้ จากการรับเงินปันหุ้นของบริษัทที่ คุณศาสตราผู้เป็นพ่อ จัดการไว้ให้
ลิญาหยิบการ์ดและช่อดอกไม้เอาไปให้คุณแม่ของเธอดู
เวลานี้ที่บ้านเศตากุล เธออยู่กับแม่ของเธอแค่สองคน เนื่องจากคุณพ่อ มีประชุมงานที่บริษัทแต่เช้า ยังไม่กลับเข้ามา
"คุณแม่ดูสิคะ จาก ลี่เฉิน ประธานแห่ง NK GROUP " เธอส่งการ์ดให้แม่ของเธอดู
"ตายแล้วลูก หนูไปรู้จักคนระดับนี้ได้อย่างไง เขารวยมากเลยนะ ถ้าเทียบกับตาวัฒน์ของเรา เรียกว่ารวยกว่าไม่รู้กี่สิบเท่า " คุณนายมินตรา ตาลุกวาว
"โห คุณแม่ ดูชื่อก็รู้ว่าคนจีน แล้วหนูพูดภาษาจีนเป็นที่ไหน " ลิญาไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า คนระดับลี่เฉินสามารถพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว เพราะเขาพูดได้ถึง 6 ภาษา คนที่ทำธุรกิจระดับเอเชียจึงไม่แปลกที่จะพูดภาษาอื่นได้อย่างชัดเจน
" แต่เขารวยมากลูก ไม่ได้รวยธรรมดานะลูก ธุรกิจเขามีทั่วเอเชียเลย เข้าถึงตัวยากมากด้วย เออ...แต่แม่ได้ยินว่า เขาค่อนข้างเนี๊ยบและดุมากเลยนะ เขามารู้จักลูกได้ยังไงเนี่ยะ " คุณนายมินตรายังคงสาธยายถึงความรวยของลี่เฉิน
"โอ้ยย คุณแม่ ยิ่งคนประเภทนี้เลยที่หนูไม่เอาเนี๊ยบๆแบบนี้หนูไม่ค่อยชอบค่ะ หนูไม่อยากอยู่แบบนักโทษ "
ลิญาดึงนามบัตรจากมือมารดา มาขยำทิ้งลงถังขยะ
"บ้านเราก็รวยค่ะ หนูไม่สนใจหรอกค่ะ ผู้ชายแบบนี้น่าเบื่อ"
ลิญาเมินไม่สนใจ ก่อนคว้าช่อดอกไม้ทิ้งลงถังขยะเช่นกัน
หากเธอได้เจอแล้วรู้ว่า ลี่เฉิน หล่อราวเทพบุตร เธอจะทำยังไงนะ......
——————————