ตอนที่ 10 งานแต่งงาน
งานแต่งงานเริ่มขึ้นในเวลาหัวค่ำ ในสวนสวยที่ประดับไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ สระว่ายน้ำถูกตกแต่งไปด้วยน้ำพุ มีรูปหงส์คู่สีขาวจำลอง ลอยอยู่กลางสระ
บรรดาแขก เต็มไปด้วยบุคคลมีชื่อเสียง และนักธุรกิจระดับชั้นแนวหน้า
ลิญา ในชุดแต่งงานสวยหรู เดินเฉิดฉายเข้ามาท่ามกลางแขกเหรื่อในงาน
ทุกคนล้วนประหลาดใจ เรื่องการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวโดยไม่มีการแจ้งกับแขกเหรื่อล่วงหน้า ต่างพากับจับกลุ่มซุบซิบนินทา เดาเรื่องราวกันไปต่างๆ นาๆ
แต่ลิญา เธอหาได้แคร์ต่อเสียงซุบซิบนินทาเหล่านั้นไม่ เธอยังคงควงแขนเจ้าบ่าว วิวัฒน์ เดินยิ้ม ทักทายแขกไปทั่วงาน ราวกับเป็นคู่รักที่รักกันหวานชื่น
บริเวณหน้าทางเข้างาน ยังคงมีเหล่าบรรดาแขกที่เดินทางเข้ามาในงานอย่างต่อเนื่อง
จนรถหรูสีดำคันหนึ่งเข้ามาจอด
พนักงานทำการเปิดประตูแล้วโค้งคำนับ เพื่อเชิญแขกวีไอพี ลงมาจากรถ
ลี่เฉิน ก้าวลงมายืนเด่นเป็นสง่า พร้อมขยับเสื้อสูทเล็กน้อย เพียงแค่เขาเดินทางมาถึง ยังไม่ทันก้าวเข้ามาในงานก็เรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบข้าง มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนพวกเขาเป็นอย่างมาก ที่นักธุรกิจระดับเอเชีย ให้เกียรติเป็นแขกเข้ามาร่วมในงานแห่งนี้
ผู้เป็นพ่อและแม่ ของวิวัฒน์และลิญา เมื่อเห็นลี่เฉิน เข้ามา ก็รีบตรงเข้ามาต้อนรับ พร้อมกล่างแสดงความขอบคุณลี่เฉินที่ยอมสละเวลาอันมีค่าเพื่อมาร่วมงานก่อนให้คนไปตามเจ้าบ่าว เจ้าสาว ที่ต้อนรับแขกอีกมุมหนึ่ง ให้รีบมาต้อนรับลี่เฉิน
เหล่าบรรดานักธุรกิจน้อยใหญ่ เมื่อเห็นว่าลี่เฉินมาในงาน ก็รีบเข้ามาหารายล้อมเขา ทุกคนต่างสนใจและอยากทำความรู้จักเพื่อขอร่วมทำในธุรกิจ
แต่ทว่า สายตาของลี่เฉินเขากลับมองหาหญิงสาวคนที่เขาเฝ้าคิดถึง แต่ด้วยผู้คนจำนวนมากเขาที่หลายล้อมเขาอยู่จึงมองไม่เห็นเธอ เห็นเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เดินรับแขกอยู่ไกลลิบ จนเขามองไม่ถนัด
เขาทักทายทุกคนเป็นพิธี ทันทีจะก้าวเข้าไปภายในงานตามคำเชื้อเชิญ
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ ของลี่เฉินดังขึ้น
"ครับ ...ว่าไงนะ คุณพ่ออาการไม่ค่อยดี ให้เดินทางกลับภายในคืนนี้ ได้ครับคุณแม่ ผมจะกลับทันที"
ลี่เฉิน หันไปบอกผู้ช่วยหยาง
"ฉันจะกลับเดี๋ยวนี บอกคนของเรา ให้เตรียมเครื่องบิน ด่วน"
ลี่เฉินไม่รอช้า รีบขอตัวเดินทางออกจากงาน ก่อนไปเขายังคงหันไปมองในงานอีกครั้งหนึ่ง ด้วยหวังเพียงเสี้ยวจะเจอหน้าเธอคนนั้น .....แต่ ไม่พบ
"ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ พอดีผมติดธุระด่วน อย่างไรแล้วผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่านเป็นอย่างมากครับ"
เขาให้ลูกน้องถือของขวัญกล่องใหญ่ พร้อมแคชเชียร์เช็ค มอบให้กับเจ้าของงาน ก่อนขอตัวกลับออกไปท่ามกลางความเสียดายของแขกเหรื่อ
เนื่องจากชุดแต่งงานที่ลิญาส่วมใส่ค่อนข้างยาว ทำให้การเดินของเธอ กว่าจะมาถึงลี่เฉิน เป็นไปอย่างเชื่องช้า กว่าที่เธอและเจ้าบ่าวจะมาถึง รถคันหรูของลี่เฉิน ก็แล่นออกไปแล้ว
ณ.เมืองซูโจว
ลี่เฉินบินด่วนมาถึงสนามบิน ทันทีที่ลงจากเครื่อง เขาก็สั่งให้คนขับรถที่มาจอดรอรับ รีบขับตรงไปยังโรงพยาบาล
ในเวลานี้เขารู้สึกร้อนใจมาก
ที่ห้องวีไอพีของโรงพยาบาล คุณนายลี่ แม่ของเขาสีหน้าแลดูกังวล แต่เมื่อเห็นลี่เฉินเดินเข้ามาก็ยิ้มดีใจ
"อาเฉิน มาแล้วหรือลูก" เธอลุกขึ้นจากโซฟา พร้อมเดินไปจับแขนลูกชาย
" คุณพ่ออาการเป็นอย่างไรบ้างครับ " ลี่เฉินถามด้วยความเป็นห่วง
" หมอเพิ่งมาดูอาการเมื่อสักครู่ ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วลูก แต่ยังไงคงต้องเฝ้าระวังสักพัก " คุณนายลี่ กล่าว
ลี่เฉินพยักหน้า ก่อนเดินเข้านั่งข้างๆ ผู้เป็นพ่อ เขาค่อยๆ เอามือผู้เป็นพ่อมากุมไว้
" คุณพ่อครับ ผมกลับมาแล้ว คุณพ่อต้องไม่เป็นอะไรนะครับ"
คุณนายลี่ จับบ่าลูกชายเบาๆ "ลูกเพิ่งเดินทางมาถึง พักผ่อนก่อนดีไหมลูก"
"ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมอยากเฝ้าคุณพ่อสักพัก"
"แล้วการเดินทางไปไทย เรียบร้อยดีไหมลูก ธุรกิจติดปัญหาอะไรไหม" คุณนายลี่ถามด้วยความเป็นห่วง
"ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ ว่าแต่ อาหนานเป็นยังไงบ้าง ผมโทรหาเจ้าน้องชายตัวแสบไม่เคยว่างเลย"
"น้องเราหรอ เข้าบ้านมาแปปๆ แล้วก็ออกไป เป็นถึงรองประธานบริษัท แต่ยังคงเที่ยวเตร่ไปทั่ว" คุณนายลี่อดบ่นถึง ลี่หนาน ลูกชายคนที่สองไม่ได้
ลี่หนานอายุห่างกับลี่เฉิน 2 ปี ปีนี้เขาอายุ 26 ย่างเข้า 27 ด้วยความที่เขาเป็นน้องชาย ภาระหนักของตระกูลจึงตกหนักกับลี่เฉินผู้เป็นพี่มากกว่า ลี่หนานเป็นหนุ่มหล่อ เจ้าสำราญและมีเสน่ห์ ชอบจีบหญิงไปทั่ว แตกต่างกับผู้เป็นพี่โดยสิ้นเชิง
"แต่ น้องก็รับผิดชอบงานได้ดีนะครับ คุณแม่" ลี่เฉินแอบปกป้องน้องชายสุดที่รัก
ทั้งสองคนเป็นพี่น้องที่รักและสนิทกันมาก ถึงจะบุคลิกและนิสัยจะแตกต่างกันบ้างแต่ก็เป็นพี่น้องที่เข้าใจกันในทุกเรื่อง
คุณนายลี่ได้แต่ส่ายหัวและก็ยิ้ม "เรานี่ก็ปกป้องน้องตามเคย"
ลี่เฉินยิ้ม
--------------------
ณ. วิลล่า ริมแม่น้ำเมืองซูโจว
มิรินเดินลงบันได มาด้วยความรู้สึกเวียนหัว นี่ก็ผ่านมาเดือนนึงแล้วสินะ ที่เธออยู่เมืองจีน
พอนึกถึงประจำเดือนเดือนนี้ก็ยังไม่มาเลย มิรินรู้สึกไม่ค่อยดี เธอมัวแต่ยุ่งๆ เลยลืมนึกเรื่องการป้องกัน ไม่ทันได้ฉุกคิด เรื่องการกินยาคุมฉุกเฉิน ในคืนนั้น
ไหนจะเสียใจเรื่องน้องสาว เรื่องทำให้คุณพ่อเสียใจ ไหนจะเรื่องการยกเลิกการแต่งงานกับพี่วัฒน์
พอสมองมัวพะวงคิดเรื่องโน้น เรื่องนี้ สุดท้ายก็ลืมคิดถึงเรื่องการกินยาคุมฉุกเฉิน
เรื่องสำคัญขนาดนี้เธอลืมได้ยังไงนะ
มิริน เดินเอามือกุมท้อง หรือว่า.....เธอจะท้อง!!
เธอจะท้องไหมนะ เธอเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ
แอนนา นั่งจิบกาแฟอยู่ที่โซฟา
"อ้าวริน ตื่นแล้วหรอ" แอนนาทัก
"อืม เช้านี้เวียนหัวนิดหน่อยเลยตื่นสาย ขอโทษนะ" มิรินเดินลงมานั่งข้างๆ ที่โซฟา
"ไหวไหมแก ไปหาหมอไหม" แอนนาเอามือจับหัวมิริน "ตัวไม่ร้อนนี้"
"ฉันไม่ได้เป็นไข้แก แต่....แค่เวียนหัว"
"งั้นวันนี้แกพักอยู่นี่นะ ฉันจะเข้าบริษัทเอง ไม่อยากให้แกเป็นลมเป็นแล้งที่นั่น " แอนนาเย้า
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้น ฉันไหวน่า" มิรินไม่กล้าบอกในสิ่งที่ตัวเองสงสัยเรื่องตัวเองจะท้องหรือไม่
"ไหวแน่นะ ป่ะ งั้นไปกัน ถ้าไม่ไหวแกต้องบอกฉันทันทีนะ" แอนนายังอดห่วงเพื่อนไม่ได้
มิรินพยักหน้ายิ้ม