“ผมว่าไปตามหมอดีกว่านะครับ” เหนือเมฆหันไปปรึกษาผู้จัดการส่วนตัวของพราวดาวซึ่งเธอเองก็เห็นด้วย แต่ขณะเนตรนภากำลังจะออกไปตามหมอประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง ผู้เข้ามาใหม่เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสวมเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตา หน้าตาหล่อเหลาเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายยังไงอย่างงั้น บนใบหน้าคมคายมีกรอบแว่นตาบดบังอีกทั้งยังไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา เขาสุขุมเยือกเย็นดูเป็นคนเข้าถึงยากแต่ในเวลาเดียวกันก็ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น
“คุณหมอมาก็ดีแล้วเนตรว่ากำลังจะออกไปตามพอดีค่ะ” เนตรนภารู้จักกับพายุเป็นการส่วนตัวจึงกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง ซึ่งบ่งบอกว่าผู้จัดการส่วนตัวของพราวดาวจะปลื้มคุณหมอคนนี้มากกว่าอีกคน
“ฟื้นนานหรือยังครับ” คุณหมอเดินเข้ามาพร้อมนางพยาบาลคนหนึ่ง สีหน้าของเขาเรียบเฉยยามเอ่ยถามอาการคนไข้
“พึ่งฟื้นค่ะแต่พอฟื้นขึ้นมาก็จำชื่อตัวเองไม่ได้ยังไงคุณหมอช่วยดูให้หน่อยนะคะ” ขณะผู้จัดการสาวอธิบายอาการ หมอเจ้าของคนไข้ของดาราสาวก็เดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงก่อนจะตรวจอาการเบื้องต้นให้กับคนไข้
ทำไมเราถึงไม่ใช่คนที่ถูกรัก เพราะอะไร!!!
วินาทีที่ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้านีรชาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังก้องเข้ามาในหัวของเธอ ความทรงจำของเธอถูกย้อนกลับไปช่วงเวลานั้นอีกครั้ง น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด คำตัดพ้ออย่างคนสิ้นหวังกับชีวิตถาโถมเข้ามามากในคราวเดียวกัน แต่เธอไม่รู้ว่าเสียงนั้นดังมาจากแห่งหนใดและดูเหมือนว่าจะเพียงเธอเท่านั้นที่ได้ยิน
คนถูกเรียกว่าคุณหมอเดินไปยังฝั่งที่มีเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ด้วยความสุขุม นัยน์ตาสีรัตติกาลวินิจฉัยอาการเบื้องต้นจากหน้าจอเล็ก ๆ ก่อนที่เจ้าของร่างสูงจะหันมาไปมองคนไข้ของเขา
“รู้สึกปวดหัวไหม” น้ำเสียงนุ่มลึกแต่แฝงไปด้วยความคุ้นเคย ยิ่งมองลึกเขาไปในดวงตาคู่นั้นเธอก็ยิ่งรู้สึกผูกพันอย่างแปลกประหลาดราวกับเคยรู้จักกันมาก่อน
“คุณหมอถามก็ตอบไปสิ” ผู้จัดการส่วนตัวหันมาสะกิดเมื่อเห็นว่าพราวดาวเอาแต่นิ่งเหมือนคนใบ้กิน
“ว่าไงรู้สึกปวดหัวหรือเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมกับแววตาอันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หากเป็นคนไข้ทั่วไปศัลยแพทย์อย่างเขาจะใช้คำพูดที่เป็นทางการและสุภาพมากกว่านี้ แต่กับพราวดาวคุณหมอเลือกจะพูดเป็นกันเองเพราะคุณหมอกับพราวดาวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กและเขาคนนี้ก็คือ พายุ พระรองในยายของนีรชานั่นเอง
หากจะให้เท้าความหลัง พราวดาวสนิทกับพายุพอ ๆ กับเมฆเพียงแต่ในเรื่องของความรู้สึกพราวดาวคิดกับพายุแค่เพื่อนคนหนึ่งส่วนพายุก็มีผู้หยิงที่แอบชอบอยู่แล้ว แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่ต่างจากผืนแผ่นดินกับท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางมาบรรจบกัน
ระหว่างนีรชากำลังสับสนอยู่นั้นนางพยาบาลอีกคนก็เปิดประตูเข้ามาด้วยเรื่องสำคัญ
“ขอโทษค่ะคุณหมอพายุผู้อำนวยการฝากเอกสารมาให้คุณหมอเซ็นค่ะ"
พายุ คุณหมอพายุงั้นเหรอ!
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินคนชื่อเดียวกับตัวละครในนิยายของตัวเองพร้อมกันในวันเดียวถึงสองคน ไม่สิ สามคนต่างหากเพราะยังมีผู้หญิงที่ชื่อเนตรนภาอีกคน
หลังจากคุณหมอเซ็นเอกสารเรียบร้อยพยาบาลคนนั้นก็ออกไปจากห้องทันที จังหวะหันกลับมาสายตานีรชาปะทะเข้ากับป้ายชื่อที่ติดไว้บนเสื้อกาวน์
นายแพทย์พชร พชรเหมสกุล
ต้องไม่ใช่เรื่องปกติแล้วล่ะ พชร พชรเหมสกุล คือชื่อและนามสกุลของพระรองในนิยายของเธอ นี่มันอะไรกันเธองงไปหมดแล้วนะ
“มัวชักช้าอยู่ได้รีบตรวจสักทีสิ” บอสหนุ่มอย่างเหนือเมฆใจร้อนเป็นนิสัยเมื่อเห็นว่าพายุมัวแต่เอื่อยเฉื่อยเลยต่อว่าไปด้วยน้ำเสียงเผด็จการ
“ฉันเป็นหมอฉันรู้ว่าต้องทำยังไงถ้าว่างมากแกก็กลับไปนั่งหายใจทิ้งที่บริษัทตัวเองก็ได้นะ” พายุเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติไม่มีทีท่าไม่พอใจ สายตาคมจ้องอยู่ที่ชาร์ตรายงานแต่การที่เขามองว่าเหนือเมฆเป็นคนไร้ประโยชน์ก็ทำเอาประธานบริษัทหัวร้อนโต้ตอบกลับทันที
“นี่แกว่าฉันทำตัวไร้ประโยชน์เหรอ” บางครั้งพระเอกของนีรชาก็ทำตัวเหมือนเด็กน้อยชอบหาเรื่องคนอื่น แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่านิสัยสองคนนี้ชอบขัดกันเป็นประจำมากกว่า
“แล้วแต่จะคิดเพราะฉันพูดไปตามที่เห็น” ต่างจากคนที่รับบทพระรอง ไม่ว่าใครจะแสดงอาการไม่พอใจออกมาแค่ไหนคุณหมอพายุก็ยังดูสุขุมเยือกเย็น
“นี่….!” บอสหนุ่มชี้หน้าเพื่อนด้วยความเจ็บใจ พระเอกนิยายของนีรชาหัวร้อนปากร้ายชอบเอาชนะเป็นที่สุด ดูจะตรงตามคาแรคเตอร์ที่แม่นักเขียนวางเอาไว้ทุกอย่าง
“เนตรว่ารีบให้คุณหมอดูอาการให้พราวดีกว่านะคะถ้าคุณเหนือเป็นห่วงพราวจริงๆกรุณาช่วยอยู่เฉยๆดีกว่าค่ะ” ผู้จัดการส่วนตัวออกความเห็นเมื่อสองหนุ่มทำท่าจะก่อสงครามประสาทขึ้นกลางห้องโดยมีเธอกับนางพยาบาลยืนเป็นสักขีพยาน
“เมื่อกี้เรียกคุณคนนี้ว่าอะไรนะคะ” พอได้ยินเนตรนภาเรียกชื่อชายหนุ่มที่เข้ามาเป็นคนแรกนีรชาก็ถามด้วยสงสัยมากกว่าเดิม
“อย่าบอกนะว่าจำฉันไม่ได้ ฉันเหนือไง เหนือเมฆ เมธาอัครโยธิน เจ้าของบริษัทโฆษณาที่หล่อและเก่งที่สุดในประเทศ” เจ้าตัวรีบพรีเซนต์ตัวเองด้วยความภาคภูมิใจแต่ก็เป็นอย่างที่เขาว่า เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักธุรกิจหนุ่มแฟงแรงอย่างเขา
“หนะ…เหนือเมฆเหรอ” คนถามเบิกตากว้างเพราะตกใจ ความมั่นอกมั่นใจแบบนี้ นิสัยหลงหลงตัวเองเป็นที่หนึ่งแบบนี้ มันคือคาแรคเตอร์พระเอกในนิยายของเธอชัด ๆ
ต้องไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญแล้วล่ะ ทั้งเรื่องถูกเข้าใจว่าเธอชื่อพราวดาว แล้วไหนจะผู้ชายหน้าตาดีสองคนที่ชื่อเดียวกับพระเอกกับพระรองในนิยายของเธอ แล้วยังมีผู้หญิงที่ชื่อเหมือนผู้จัดการส่วนตัวของนางร้ายเธออีกล่ะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
“ตกลงฉันคือ...” ดวงตาเรียวรีมองไปยังทุกคนด้วยความสับสนในใจภาวนาให้เรื่องที่เธอกำลังคิดเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิด
“เธอก็คือพราวดาวไง พราวดาว จิรวราพงษ์ นางร้ายดาวเด่นของวงการบันเทิง” เนตรนภาโผลงขึ้นด้วยน้ำเสียงชัดเจนทุกคำ
คำตอบจากผู้หญิงแปลกหน้าทำให้นีรชาหัวเราะแห้ง ๆ ออกมาราวกับคนบ้า เรื่องน่าเหลือเชื่อแบบนี้มีอยู่บนโลกเราจริง ๆ เหรอ
ไม่ใช่หรอก อาจจะเป็นแค่ความฝัน ใช่…เธอกำลังอยู่ในความฝันของตัวเอง สงสัยเพราะนอนน้อยมาหลายคืนถึงได้เผลอหลับไปทั้งที่ยังแต่งนิยายไม่เสร็จ
เมื่อคิดได้ดังนี้นีรชาก็หยิกแขนตัวเองแรง ๆ ไปทีหนึ่งเพื่อพิสูจน์ว่าเธอแค่ฝันร้ายไปเท่านั้นแต่ทว่าตรงที่เธอพึ่งหยิกแขนตัวเองไปมันกลับมีความรู้สึก
เดี๋ยวก่อนนะ ถ้ามีความรู้สึกก็แสดงว่าเธอไม่ได้กำลังฝันอยู่น่ะสิ เธอเข้ามาอยู่ในนิยายของตัวเองจริง ๆ และถ้าหากตอนนี้เธออยู่ในร่างของพราวดาว ถ้าผู้ชายคนนี้คือเหนือเมฆพระเอกในนิยายที่เธอแต่งน่ะสิ ไม่ใช่หรอกเธอกำลังฝันอยู่ต่างหาก
ความคิดของนีรชามาพร้อมรอยยิ้มเลศนัย เธอค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นนั่งโดยไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่พึ่งฟื้นจากความตายจะมีกะจิตกะใจมาฉวยโอกาสหอมแก้มคนอื่นกลางห้อง
“ทำบ้าอะไรของเธอ” เหนือเมฆก็เหนือเมฆเถอะต่อให้เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองแค่ไหนเจอผู้หญิงจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวเป็นใครก็ต้องตกใจกันทั้งนั้น
“คงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะถ้าดูหิวขนาดนี้” คุณหมอเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยขณะมือขวาจดอาการสำคัญลงไปในแฟ้มรายงาน
“นี่.....!” คนถูกว่าให้ถึงกับถลึงตาใส่อย่างลืมตัว นิสัยชอบว่าให้คนอื่นด้วยใบหน้าเย็นชาแบบนี้มันคาแรคเตอร์พระรองในนิยายเธอนี่ไหนจะชื่อกับนิสัยของผู้ชายอีกคน แสดงว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นความจริงเหรอ!
“ฉันว่าแทนที่เธอจะเสียเวลากับคนที่เขามีเจ้าของแล้วพักผ่อนให้เยอะๆจะดีกว่านะหัดเป็นห่วงตัวเองซะบ้าง” ดูเหมือนว่าคราวนี้พ่อพระรองจะยิงนกนัดเดียวได้ถึงสองตัวความคิดพายุ เหนือเมฆกำลังคบอยู่กับน้ำค้างต่อให้จะมาด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือมาในฐานะเพื่อนคนหนึ่งแต่การทำแบบนี้มันก็ยิ่งจะทำให้พราวดาวตัดใจยากกว่าเดิม
“ให้ยาตามนี้นะครับถ้าคนไข้ดื้อมากก็จับฉีดยาได้เลย ผมอนุญาต” ไม่รอให้อีกฝ่ายได้โวยวายคุณหมอหันไปสั่งนางพยาบาลน้ำเสียงเรียบ พายุรู้ดีว่าพราวดาวกลัวเข็มฉีดยาขึ้นสมองเลยเอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่แต่คนนอนเจ็บอยู่บนเตียงตอนนี้ไม่ใช่พราวดาวที่เขารู้จักแต่เป็นอีกคนและเธอต่างหากที่รู้จักเขาดีกว่าใคร
“พราวอยากไปเข้าห้องน้ำเหนือช่วยพาพราวไปหน่อยสิ” นีรชามองชายหนุ่มหน้าตาด้วยสายตาอ้อนประหนึ่งแมวน้อย ด้วยรูปลักษณ์ของพราวดาวที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์ยั่วยวนเป็นทุนเดิมพอมาเจอคนเขียนนิยายอย่างนีรชาที่สวมบทบาทได้อย่างสมจริงจริตจะก้านที่ออกทางสีหน้าและแววตาเลยไม่ต่างจากผู้หญิงให้ท่าผู้ชาย
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับถ้ามีอะไรกดเรียกพยาบาลได้ตลอดเวลา” พายุหันไปพูดกับผู้จัดการส่วนตัวของพราวดาวก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยมีนางพยาบาลตามหลังไปติด ๆ
“ตกลงไม่ได้ความจำเสื่อมจริงๆใช่ไหม” ใครจะแกล้งอะไรไม่รู้แต่สำหรับผู้จัดการดาราเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะถ้าพราวดาวความจำเสื่อมขึ้นมาจริง ๆ ย่อมมีผลกับงานแสดงและโฆษณาอีกหลายตัวที่รับงานไว้ก่อนหน้านี้
“เปล่าเมื่อกี้แค่รู้สึกมึนๆน่ะ” พอเริ่มจับต้นชนปลายถูกนีรชาก็รีบสวมรอยเป็นนางร้ายของตัวเอง นีรชาให้เนตรนภารู้จักกับพราวดาวตอนเข้าวงการใหม่ ๆ ตอนนั้นเนตรนภายังเป็นแค่พนักงานในร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งที่พราวดาวมักจะไปเช่าออกงานเป็นประจำ พราวดาวมองเห็นแววและคุยกันถูกคอจึงชวนให้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัว
นีรชายังสร้างความสัมพันธ์ให้ทั้งสองคนทำงานด้วยกันอย่างพี่น้องมากกว่าจะเป็นผู้จัดการกับดารา เนตรนภาอายุห่างพราวดาวไม่กี่ปีเลยให้ทั้งคู่เข้ากันง่ายและนีรชายังเพิ่มความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นด้วยการให้พราวดาวยื่นมือช่วยเหลือเวลาเนตรนภาเดือดร้อนอยู่หลายครั้ง
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วงั้นฉันกลับก่อนนะไว้จะมาใหม่ถ้ามีอาการผิดปกติยังไงให้รีบโทรบอกฉันนะฉันจะรีบมา” เหนือเมฆพูดขึ้น
“อือ ไปทำงานเถอะ” เหนือเมฆมองพราวดาวเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อสายตาตัวเอง ปกติถ้าเขาพูดทำนองนี้คนนิสัยเอาแต่ใจอย่างพราวดาวจะต้องรั้งเขาไว้สิถึงจะถูก แต่นี่อะไรนอกจากจะไม่เซ้าซี้ยังทำเหมือนเข้าใจอีกต่างหาก แปลก...
แต่เหนือเมฆก็บอกกับตัวเองว่าบางทีเขาอาจจะแค่คิดมากไปก็ได้ พราวดาวพึ่งฟื้นขึ้นมาคงแค่อยากจะพักผ่อนล่ะมั้ง
ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิทเนตรนภาก็จับจ้องไปยังใบหน้าพราวดาวก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พี่ดีใจนะที่พราวตัดใจจากคุณเหนือได้สักที”
“ตัดใจ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันก่อนที่นีรชาจะนึกออกว่าที่เนตรนภาพูดหมายถึงอะไร
จากการปูเนื้อเรื่องนีรชาให้ผู้จัดการส่วนตัวคอยเป็นหูเป็นตาและให้จัดการทุกอย่างแทนยกเว้นแค่เรื่องผู้ชายที่พราวดาวจะเป็นคนตัดสินใจเอง คงเห็นพราวดาวเข้าใจอะไรมากขึ้นผู้จัดการสาวเลยเห็นดีเห็นงามด้วยสินะ
“ก็ใช่น่ะสิหรือว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่” ขนาดพายุยังรู้จักพราวดาวเป็นอย่างดีมีหรือคนเป็นถึงผู้จัดการส่วนตัวจะดูไม่ออก จะว่าไป…หากเธอให้พราวดาวยอมตัดใจจากเหนือเมฆได้ง่าย ๆ เรื่องมันคงไม่บานปลายมาขนาดนี้ นีรชาแอบถอนหายใจเงียบ ๆ เมื่อคิดว่าตัวเองไม่ควรแต่งเรื่องให้มันยุ่งเหยิงเลย
“เปล่าพราวจะมีแผนอะไรพี่ก็คิดมากไปได้” ว่าจบคนอาศัยร่างก็ล้มตัวลงนอนก่อนจะหันหลังให้เป็นการบอกว่าเธอต้องการพักผ่อนทำให้เนตรนภาไม่กล้าเซ้าซี้ต่อ
ร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดีพร้อมจะชาร์ตพลังงานโดยไม่ต้องแกล้งทำ นีรชาค่อย ๆ หลับตาลงในขณะกำลังใช้ความคิด ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าวันหนึ่งเธอจะหลุดเข้ามาอยู่ในนิยายของตัวเอง แล้วดูสิหลุดเข้ามาทั้งทีทำไมถึงไม่ให้เธอได้ใช้ชีวิตเป็นนางเอกแต่ดันมาอยู่ในร่างนางร้ายอาภัพรักซะได้