ตอนที่ 4

951 คำ
EP.04 “ก็เนี่ย แต่งงานจนจะเดือนอยู่แล้ว อาร์ตยังไม่พาหนูรุ้งไปแนะนำให้พนักงานในโรงแรมรู้จักเลยนะลูก วันแต่งงานน่ะ พนักงานก็ไม่ได้รู้จักหน้าค่าตาหนูรุ้งหรอกนะ เพราะว่าแต่งหน้าเจ้าสาวกับแต่งหน้าธรรมดามันไม่เหมือนกัน แม่ว่าช่วงบ่ายๆ ก็พาน้องไปแนะนำให้แต่ละฝ่ายรู้จักด้วยเลย เผื่อมีธุระปะปังอะไรที่ต้องให้น้องไปทำแทน พนักงานจะได้รู้จักน้องไว้” “ถ้าคุณแม่ไม่มีอะไรแล้ว ผมไปก่อนนะครับ” “อาร์ต... อาร์ต! ตาอาร์ต! ลูกคนนี้นี่ แม่ยังพูดไม่จบเลยเดินหนีก็ได้ เอ่อ... หนูรุ้งทานข้าวต่อเถอะลูก พี่เขามีประชุมเช้านะ พี่เขารีบ” อิ่มนวลรีบหันมาบอกลูกสะใภ้คนโปรดเพราะลูกชายพูดจบก็เดินหนีออกไป ไม่ได้สนใจฟังในสิ่งที่หล่อนพูดเลยสักนิด และหน้าตาของปลายรุ้งที่แทบจะลดลงเหลือ 2 นิ้วก็ทำให้หล่อนสงสารเหลือเกิน “รุ้งอิ่มแล้วล่ะค่ะ งั้นรุ้งขอตัวไปทำงานก่อนนะคะคุณแม่” “จ้ะลูก เอ่อ… หนูรุ้ง หนูย้ายงานไปทำที่บ้านริมบึงได้แล้วนะ ตาเชิดเพิ่งบอกแม่เมื่อเช้าว่าช่างเขาเก็บงานเรียบร้อยแล้ว หนูเข้าไปใช้ตรงนั้นทำงานได้เลย แล้วจะขนอะไรไปบ้างก็บอกเด็กมันละกัน” “ขอบคุณมากค่ะคุณแม่” ปลายรุ้งพนมมือไหว้ดวงตาเป็นประกายใบหน้ามีรอยยิ้มทำให้อิ่มนวลต้องยิ้มตาม เพราะนี่คงเป็นสิ่งที่หล่อนจะชดเชยให้กับปลายรุ้งได้ในช่วงเวลานี้ นั่นคือให้ปลายรุ้งได้ทำในสิ่งที่ชอบ แต่อีกไม่นานปลายรุ้งก็จะได้ทำในสิ่งที่หล่อนชอบเช่นกัน ดวงตาที่แต่งแต้มเครื่องสำอางจนสวยสมวัยมองตามร่างอรชรอ้อนแอ้นของลูกสะใภ้ ปลายรุ้งแบบบางแต่ยังมองรู้ว่าซ่อนรูป เพราะหน้าอกหน้าใจนั้นไม่ได้เล็กตามขนาดตัวเลย อิ่มนวลอมยิ้ม อย่างไรหล่อนก็เชื่อว่าหล่อนเลือกไม่ผิด ต้องมีสักวันที่อนวัทย์หันมองปลายรุ้งอย่างเช่นผู้ชายมองผู้หญิง เพราะลูกสะใภ้คนนี้หล่อนเลือกด้วยตัวเอง แม้จะเป็นการใจร้ายกับขวัญนภาไปมากแต่นั่นก็ถือว่าหล่อนทำเพื่อลูกชายคนเดียวของหล่อน แรกเริ่มที่ได้รู้ข่าวว่าขวัญนภาพบเจออะไรมาบ้าง ยอมรับว่าหล่อนจิตตก เพราะหล่อนแค่แนะนำขวัญนภาให้กับโมเดลลิ่ง แค่ให้ขวัญนภากินยานอนหลับเข้าไปและฟื้นขึ้นมาในช่วงเวลาที่แขก VIP เข้าไปที่ห้องพอดี ซึ่งเมื่อขวัญนภาโวยวาย พิธีแต่งงานของอนวัทย์กับปลายรุ้งก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ทว่าเมื่อขวัญนภาตกล่องปล่องชิ้นไปกลับท่านประธานบริษัท หล่อนก็ดีใจด้วยซ้ำ เพราะถือว่าหล่อนทำให้ขวัญนภาสมหวังและเจอผู้ชายที่คู่ควรด้วยจริงๆ มากกว่าที่จะเป็นลูกชายของหล่อน เพราะหล่อนเป็นแม่ของอนวัทย์ หล่อนรู้จักลูกชายของตัวเองดี รู้ว่ายามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน อนวัทย์โอนอ่อนผ่อนตามในสิ่งที่ขวัญนภาต้องการทุกอย่าง แต่เมื่อแต่งงานกันไปแล้ว คนแข็งอย่างอนวัทย์กับคนแข็งกว่าอย่างขวัญนภาไม่มีทางจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่ง ผู้หญิงอย่างขวัญนภาต้องการเผชิญโลกกว้าง ต้องการทำงานตามความสามารถของตัวเองที่ได้ร่ำเรียนมา และอนวัทย์ก็สนับสนุน ไม่ได้คิดถึงผลในระยะยาวว่านั่นจะเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับขวัญนภา ผู้หญิงคนนี้จะกลายเป็นผู้นำไม่ใช่ผู้ตาม และการที่ผู้หญิงอย่างขวัญนภาได้ครองคู่กับเควินนั่นคือสิ่งที่เหมาะสมแล้ว เพราะเควินมีรังสีบางอย่างที่ทำให้ขวัญนภากลายเป็นนางแมวน้อยๆ ของเขาได้ ซึ่งสิ่งนั้นไม่มีเลยในตัวของอนวัทย์ ลูกชายของหล่อนควรได้ผู้หญิงที่พร้อมจะเป็นผู้ตาม ไม่ว่าสามีจะบอกอะไรก็พร้อมจะทำตามทุกอย่าง และนั่นคือสิ่งที่ปลายรุ้งมีซึ่งขวัญนภาไม่มีเลย ดังนั้นหล่อนก็เชื่อว่าทุกสิ่งที่หล่อนทำไม่ผิด เพราะคุณดาราเองก็เห็นด้วยทุกอย่าง ทั้งยังกระตือรือร้นช่วยหล่อนวางแผนเสียด้วยซ้ำ มาจนถึงตอนนี้ก็มีทางเดียวคือต้องเดินหน้าต่อไป ในเมื่ออนวัทย์กับปลายรุ้งแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ก็คือทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน หล่อนเชื่อในสัญชาตญาณของผู้ชาย อนวัทย์ไม่มีวันยอมให้ปลายรุ้งหลุดมือไปได้ และเมื่อข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกอะไรอะไรก็ง่ายขึ้น อนวัทย์เดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน หน้าตาเรียบเฉยไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา แต่สายตาที่ตวัดมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟารับแขกกลับทำให้ปลายฟ้าถึงกับขยับตัวให้ความอึดอัดคลายลง “คุณแม่มีอะไรหรือครับ” เขาหันไปถามแม่ที่นั่งอยู่ในฝั่งตรงกันข้ามกับหล่อน “ก็แม่บอกอาร์ตแล้วไง ว่าแม่จะให้อาร์ตพาหนูรุ้งไปแนะนำให้กับพนักงานทุกฝ่ายรู้จัก แล้วแม่ก็จะให้หนูรุ้งมาทำงานที่นี่ด้วย” “ไม่มีตำแหน่งอะไรให้หรอกครับ เต็มทุกตำแหน่ง แต่ถึงจะไม่เต็ม...” ดวงตาคมเข้มปรายมองผู้หญิงที่นั่งก้มหน้ามือประสานกันอยู่บนตัก แค่กิริยาไม่กล้าจะเงยหน้ามองใคร นั่นก็เป็นสิ่งที่พนักงานโรงแรมไม่ควรจะมี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม