“เฮ้...รถใครนะ?...คุณพ่อคุณแม่มีแขกเหรอ?” อมิตาบ่นพึมพำเมื่อพึ่งกลับบ้านก็ค่ำมากแล้ว เพราะวันนี้พวกเขาทั้งสามคนพอหาอะไรกินกันเสร็จสรรพก็ชวนกันดูหนังต่อเป็นการเที่ยวเลี้ยงส่งปิ่นมุกที่จะต้องเดินทางไปอังกฤษ อมิตาไม่ได้รู้จักพี่อลันของหนูมุกเป็นการส่วนตัว แต่ที่พอรู้เพราะว่าทุกปิดเทอมปิ่นมุกมักจะบินไปอังกฤษทุกครั้ง
“อุ้ย!...” ปิ่นมุกร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเธอถูกชนจนเกือบล้ม ถ้าต้นเหตุจับเธอไว้ไม่ทันและดึงเธอเข้าหาอกแกร่งแข็งแรงนั้น ในขณะที่อมิตาและปิ่นมุกกำลังเดินเข้าบ้าน
“พี่ลีโอ” อมิตาร้องเรียกเสียงดังกว่าปกติ เป็นการดึงสติของลีโอที่กำลังประคองจ้องตาหญิงสาวในอ้อมแขน เพราะเธอช่างมีใบหน้าที่หวานดวงตาคมโตผิวแก้มขาวอมชมพู จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางน่ารักสีชมพู
“เอ่อ...ขอโทษครับ” ลีโอกล่าวขอโทษเป็นภาษาไทยที่ชัดเจนขัดกับใบหน้ารูปร่าง เพราะลีโอเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-อิตาเลี่ยน
“ไม่...เป็นไรค่ะ” หนูมุกกล่าวและกลับมายืนอย่างมั่นคงด้วยขาของตัวเอง และมองชายตรงหน้าที่เกือบเป็นสาเหตุให้เธอบาดเจ็บจากการล้มไปแล้ว
“พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่?” อมิตาถามพี่ชายต่างแม่
“ก็มาถึงประเทศไทยวันนี้และต่อเครื่องมาที่นี่เมื่อตอนบ่ายๆ”
“อุ้ย....มุกนี้พี่ลีโอพี่ชายต่างแม่ของเรานะ...ชื่อพี่ลีโอ”
“สวัสดีค่ะ...” หนูมุกกล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้ตามธรรมเนียมที่ผู้น้อยต้องเคารพผู้ใหญ่กว่า
“สวัสดีครับ...ชื่อน้องมุกหรือครับ...เหมาะสมกับชื่อมากครับ” ลีโอรับไหว้ตามธรรมเนียมประเพณีไทยเช่นกันถึงแม้เขาจะเติบโตมาจากอเมริกา แต่เนื่องจากพ่อเขาเป็นคนไทยและช่วงหนึ่งของชีวิตเขาวัยเด็กก็เติบโตมาพร้อมกับพ่อและแม่ที่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-อิตาเลี่ยนถึงแม้ทั้งสองจะแยกทางกันเดิน แต่ความรักที่ท่านมอบให้กับเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลงแต่เขาเลือกที่จะอยู่กับแม่ สำหรับพ่อเขาก็ไปมาหาสู่เขาตลอด จึงทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อไม่ห่างเหินอย่างที่ควรเป็น
“น่าเสียดายจังครับ...พี่มีธุระด่วนที่ต้องไปจัดการ...ไม่งั้นพี่คงอยู่ทำความรู้จักกับน้องมุกให้มากกว่านี้...ไว้โอกาสหน้านะครับ” ลีโอให้เหตุผลและกล่าวลาหญิงสาวทั้งสองและรีบร้อนออกไป ใช่!ตอนนี้เขามีเรื่องด่วนและสำคัญมากต้องไปจัดการ
“เข้าบ้านกันเถอะ...คุณพ่อคุณแม่คงรออยู่” อมิตาชวนปิ่นมุกเข้าบ้าน
“ครืด...ครืด...ครืด...” หนูมุกยืนมองโทรศัพท์ของตัวเองที่สั่นไม่หยุดน่าจะรอบที่ห้าแล้ว หน้าจอแสดงเป็นเบอร์ที่บ้านทำให้เธอรู้ว่าใครโทรมาเวลาแบบนี้ อมิตาแอบชำเลืองมองเพื่อนแต่ก็ไม่พูดอะไร เพราะเข้าใจว่าเพื่อนคงไม่อยากพูดถึงตอนนี้
“ติ๊ด..ติ๊ด...” ก่อนที่หนูมุกตัดสินใจจะปิดเครื่องก็มีเสียงข้อความเข้า เมื่อเธอเปิดอ่านก็ต้องตกใจเพราะมาจากพี่อลัน
“มุก...เกิดอะไรขึ้น...ทำไมทำหน้ายังกับเห็นผี” อมิตาเห็นอาการผิดปกติของเพื่อน จนต้องถามออกไปเพราะเพื่อนสาวดูหน้าซีดอย่างชัดเจน
“ตา...เราขอโทษนะคือเราต้องกลับบ้านแล้ว” ปิ่นมุกหันไปหาเพื่อนสาวอย่างเกรงใจ เพราะเธอต้องกลับบ้านสาเหตุมาจากข้อความ “พี่กำลังจะออกไปรับที่บ้านเพื่อน...ถ้าไม่ยอมกลับมาพร้อมกัน...พี่จะไปบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า...หนูมุกเป็นเมียพี่แล้ว” เธอกำลังโกรธข้อความนี้มันไม่จริงเลย และที่เธอกลับไม่ใช่ว่ากลัว แต่เธอรู้ว่าพี่อลันจะทำอย่างที่บอกมาในข้อความถึงแม้ว่ามันไม่จริง แต่เธอต้องการกลับไปจัดการกับเขาต่างหาก
“ที่บ้านเกิดเรื่องอะไรเหรอเปล่า?” อมิตากลับเข้าใจไปอีกแบบ เนื่องจากสถานการณ์มันสามารถคิดแบบนั้นได้
“เอ่อ...เปล่าจ๊ะ...แค่...แค่...” อมิตาโบกมือเป็นการห้ามเพื่อนว่าไม่เป็นไรไม่สะดวกไม่ต้องบอกก็ได้ และเสริมตอนท้ายให้เพื่อนสาวสบายใจว่าแค่ไม่มีเรื่องร้ายก็โอเคแล้ว
“มุกฝากกราบขอโทษและกล่าวลาคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะ” อมิตาพยักหน้ารับ และหนูมุกก็เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนอนเป็นชุดที่ใส่มาวันนี้ เพราะแม่บ้านของเพื่อนซักรีดเรียบร้อยแล้วนำมาให้ตั้งแต่ตอนหัวค่ำ
หนูมุกกอดลาเพื่อนสาวอีกครั้งและเดินขึ้นรถที่อลันนั่งมาข้างหลังและมีชายอีกคนขับมา นั้นคืออดัมน้องชายของอลันนั้นเอง และทั้งสองไม่ได้ลงจากรถ หนูมุกเองก็ไม่ได้แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนสาวคนสนิทอย่างเป็นทางการ เพราะตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์อะไร ซึ่งอมิตาก็ไม่ถือสาอะไรและเข้าใจเพื่อนดี
อดัมเคลื่อนรถออกทันที เมื่อขับไปถึงประตูใหญ่ก็สวนกับรถของลีโอที่ขับเข้ามาพอดี ต่างฝ่ายก็หันไปมองผ่านกระจกรถของกันและกัน แต่ก็เห็นกันไม่ชัดเจนและต่างก็ขับผ่านไปทางใครทางมัน
“พี่อดัม...ขอบคุณนะคะ...และมุกต้องขอโทษที่ไม่ได้อยู่คุยด้วย...มุกขอตัวก่อนนะคะ” หนูมุกพูดเป็นประโยคแรกทันทีที่อดัมขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของเธอ
“ไม่เป็นไรครับน้องมุก...ดึกแล้วพักผ่อนเถอะ” อดัมกล่าวอย่างเข้าใจเพราะตลอดการขับรถมาของเขา เขาแอบมองกระจกส่องหลังหนูมุกนั่งด้านหลังเบียดตัวเองกับประตูเลยทีเดียว และหันหน้าไปมองออกไปนอกหน้าต่างไม่หันมามองพี่ชายของเขาสักนิด ส่วนพี่ชายของเขาก็นั่งกอดอกอย่างคนที่กำลังกักเก็บความไม่พอใจไว้ อดัมแอบยิ้มจะมีใครสักกี่คนกันที่จะได้เห็นอารมณ์แบบนี้ของ พี่ชายเขา ความรักหนอความรัก
และเมื่อหนูมุกลงจากรถและวิ่งเข้าบ้านไปแล้วอลันหันมาพูดกับอดัม “อดัม...เตรียมเดินทางไปอังกฤษ...เป็นตัวแทนพี่เซ็นต์สัญญากับลูกค้าคนสำคัญ”
“ไม่มีปัญหาครับ...คุณพี่ชาย...ว่าแต่พี่ก็อย่ารุนแรงบังคับจิตใจน้องสาวผมนักละกัน...ผมไม่อยากเห็นน้ำตาหนูมุกของพี่อลันครับ” อดัมยิ้มกวนพี่ชาย พฤติกรรมการคุยเล่นแหย่กันแบบนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออยู่กันตามลำพังสองคนพี่น้องหรือต่อหน้าแม่ของทั้งคู่ เพราะถึงแม้สองคนจะเติบโตกันคนละประเทศแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาของความสัมพันธ์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องยกนิ้วให้แม่ของพวกเขาที่ไม่ยอมให้พี่น้องต้องห่างเหินกัน จึงทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมากและจะเป็นที่ปรึกษาของกันและกันอย่างไว้เนื้อเชื่อใจเป็นที่สุด
อลันไม่ตอบรับใดๆต่อคำเตือนของน้องชาย และเปิดประตูลงจากรถไป อดัมก็เคลื่อนรถออกไปทันทียังสถานที่ที่เรียกว่าบ้านของเขาอีกหลัง ห่างจากบ้านหลังนี้เพียงยี่สิบเมตรเป็นบ้านสองชั้นสี่ห้องนอนที่พ่อของเขาได้สร้างไว้เป็นที่พักยามมาพักผ่อนหรือมาเยี่ยมเขาตอนที่เขาอยู่เมืองไทย ซึ่งบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนที่ดินของพ่อทูนหัวเขาโดยท่านบอกว่าให้มาสร้างอยู่ใกล้ๆกันดีกว่า ถึงปัจจุบันนี้บ้านนั้นไม่ค่อยได้ต้อนรับเจ้าของบ้านมานานหลายปีแล้วตั้งแต่เขาย้ายกลับไปประเทศอังกฤษ แต่พ่อทูนหัวเขาก็ดูแลอย่างดี และวันนี้ก็ได้เปิดต้อนรับอดัมที่ไม่ได้กลับมานานถึงสามปี แต่ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย แต่อดัมก็ได้แวะมาบ้าง เพราะเขามาดูเกาะรุ่งอรุโณทัยซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวที่พ่อเขาซื้อไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนที่พ่อทูนหัวเขาได้ไปร่วมงานแต่งงานพ่อกับแม่เขาและท่านได้เสนอว่ามีเศรษฐีที่กำลังมีปัญหาจะขายเกาะเพื่อต้องการเงินไปแก้ปัญหาธุรกิจ และขายให้ในราคาถูกตอนนั้นมีสองเกาะ พ่อทูนหัวเขาซื้อไว้หนึ่งเกาะและตั้งชื่อว่าเกาะมุก และปัจจุบันเกาะนี้เป็นของบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านคือหนูมุก ส่วนอีกเกาะพ่อของเขาตัดสินใจซื้อและยกให้เป็นของขวัญของภรรยาสุดที่รักและท่านตั้งชื่อเกาะว่ารุ่งอรุโณทัยตามนามปากกาของท่าน ซึ่งปัจจุบันแม่ของเขาก็ได้ยกเกาะนี้ให้กับน้องชายของเขาจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอดัมต้องเดินทางมาเมืองไทยบ่อยขึ้น
อลันเดินเข้าบ้านหลังจากน้องชายเคลื่อนรถออกไปแล้ว และตอนนี้อารมณ์เขาก็ยังไม่มั่นคงและสงบนัก เมื่อตอนทานมื้อเย็นเขาลงมาจากห้องหลังจากนอนพักเพียงพอแล้ว เพื่อที่จะมาทานอาหารมื้อเย็นกับคุณพ่อคุณแม่ทูนหัวรวมถึงน้องชายที่บินมาจากอเมริกาและหนูมุกที่น่าจะกลับมาจากการที่เขายอมอนุญาตให้ออกไปกับเพื่อนๆได้ แต่เมื่อเขาเดินมาที่โต๊ะอาหารทุกคนพร้อมหน้ากันรวมถึงน้องชายเขาที่พึ่งจะมาถึงจากการต่อเครื่องจากสุวรรณภูมิมาภูเก็ตโดยทันที ยกเว้นหญิงสาวที่เป็นสาเหตุหลักของการมาเมืองไทยครั้งนี้ของเขา ตามที่แม่ทูนหัวบอกเธอจะค้างบ้านเพื่อน ตอนนั้นอลันรู้ได้ทันทีว่าหนูมุกต้องการหนีหน้าเขา แล้วมีหรือว่าคนอย่างเขาจะยอมให้เกิดขึ้น
อลันผลักประตูห้องนอนเข้าไปได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ เขาตัดสินใจนั่งอยู่ที่ปลายเตียงและครุ่นคิดหาวิธีจัดการน้องสาวท้องชนกันคนนี้ให้ได้ และไม่ทันที่เขาจะได้มีเวลาคิดไปมากกว่านี้ หนูมุกเดินออกมาจากห้องน้ำสวมใส่ชุดนอนสีขาวกระโปรงยาวผมดำสยายยาวถึงกลางหลังใบหน้าเกลี้ยงเกลาสดใสตามวัย ปากบางสีชมพูระเรื่ยตามธรรมชาติที่รสชาติหวานปานน้ำผึ้งตราตรึงในความรู้สึกเขาจนถึงตอนนี้จนอยากจะลิ้มลองแล้วลิ้มลองอีก อลันถอนหายใจและลุกจากที่มั่นตรงปลายเตียงเดินเข้าห้องน้ำไปโดยทันที เพราะความรู้สึกบางอย่างในกายเขามันกำลังตื่นตัว