ห้องนอนของเขากับเธอตั้งแต่เยาว์วัย

1376 คำ
“อดัม” อลันบ่นพึมพำเรียกชื่อน้องชาย อย่างเป็นทางออก เพราะคงต้องขอความช่วยเหลือให้น้องบินไปช่วยควบคุมสถานการณ์แทนเขาที่อังกฤษ เพราะเขารู้ว่าสถานการณ์ของน้องสาวท้องชนกันของเขา คงไม่มีใครจัดการได้นอกจากเขาเท่านั้น อลัน มองรอบห้องนอนของเขากับเธอตั้งแต่เยาว์วัย   และเห็นกล่องของขวัญวางซ้อนเรียงรายโดยปราศจากการแกะประมาณยี่สิบกล่อง กล่องเล็กบ้างใหญ่บ้างวางไว้แบบไม่ได้รับความสำคัญและใส่ใจจากเจ้าของเลยสักนิด เพราะมันเป็นของขวัญจากเขา น่าจะประมาณสองสามปีได้ดูจากจำนวนกล่องเพราะเขาจะส่งให้กับเธอทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ วันเด็กของประเทศไทย วาเลนไทน์ วันแม่ วันพ่อ คริสมาส ของขวัญวันเกิด แม้แต่วันที่เขากับเธอต้องห่างกันเป็นครั้งแรก ตอนนั้นปิ่นมุก อายุเจ็ดขวบ และเขาอายุสิบห้าปี  อลันยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้   เด็กน้อยปิ่นมุกร้องไห้ฟูมฟายน้ำหูน้ำตาไหลยังกับเขื่อนแตกไม่ยอมให้เขาจากไปท่าเดียว “หนูมุกไม่ร้องนะ...โอ๋ๆๆๆ....” อลันเด็กชายอายุเพียงสิบห้าปี นั่งคุกเข่าสองมือพัลวันทั้งรูปผมยาวดำของเด็กผู้หญิงที่ร้องไห้ฟูมฟายน้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุดและอีกมือของเขาต้องคอยเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมายังกับเขื่อนแตก “หนู...ฮือ!!!..มุก...ไม่ให้...ฮือ...ไป...ฮือออออ....” หนูมุกร้องไปพูดไป “หนูมุก...ฮือ...เปลี่ยน...ใจ...ฮือออออ” อลันโอบกอดเด็กสาววัยเจ็ดขวบเข้ามาในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากเด็กในอ้อมแขนนี้เลย เขาเองก็ไม่อยากจาก   หนูมุกไปเลย เขาทั้งรักและช่วยพ่อแม่ทูนหัวเลี้ยงหนูมุกไม่ต่างไปจากไข่ในหิน ทั้งๆที่มีการพูดคุยและตกลงกันกับหนูมุกมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วว่าเขาต้องเดินทางกลับประเทศอังกฤษ ตลอดสัปดาห์ทั้งเขาทั้งพ่อแม่ทูนหัวค่อยๆอธิบายให้หนูมุกเข้าใจ แต่พอมาถึงวันนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เขากำลังจะเดินเข้าเกทหนูมุกวิ่งเข้ามาดึงเขาและร้องไห้ฟูมฟายเสียงดัง เขาก็เข้าใจอยู่หรอกว่าจะเอาอะไรมากมายกับเด็กอายุเจ็ดขวบ “หนูมุก...เดี๋ยวพี่ไปถึงจะเฟสทามมาหาหนูมุกทันที...ยังจำที่พี่สอนได้หรือเปล่า”  “จำไม่ได้” หนูมุกตอบกลับทันทีแต่น้ำตาก็ยังไหล หน้าตาแดงก่ำเพราะการร้องไห้หนักมาก  “ไหนขอดูสร้อยที่พี่ให้หน่อยสิครับ” หนูมุกดึงสร้อยคอทองคำขาวออกมาโดยจี้นั้นเป็นแหวนวงเล็กๆที่ดัดแปลงเป็นจี้ “เก็บรักษาไว้ให้ดีนะครับ...แล้วปิดเทอมนี้หนูมุกต้องบินไปหาพี่ที่อังกฤษนะครับ...พี่จะรอ”  “น่ารักมากหนูมุกของพี่” อลันพูดจบก็หอมแก้มที่ชื้นเปียกไปด้วยน้ำตาทั้งสองข้าง และหนูมุกก็เช่นเดียวกันก็หอมแก้มอลันกลับทั้งสองข้าง  และหลังจากนั้นเอกวุฒิก็เข้ามาอุ้มหนูมุกไว้ อลันยืนขึ้นยกมือไหว้พ่อทูนหัวอีกครั้ง และเหลือบตาไปมองแม่ทูนหัวที่ตอนนี้น้ำตาไหลออกมาพร้อมโบกมือลา และก่อนที่เขาจะหันหลังก็โบกมือลาหนูมุกอีกครั้ง หนูมุกโบกมือลาตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง และสองมือของเด็กน้อยของหนูมุกก็โอบรอบคอบิดาและร้องไห้ครั้งใหญ่อีกครั้ง และนั้นเป็นภาพสุดท้ายที่อลันหันหลังเดินเข้าเกท ด้วยแววตาพร่าเลือน  “เฮ้ย!...แกเป็นอะไร...เป็นฝ่ายนัดพวกฉันออกมา...แต่แกกลับมานั่งยังกับคนไม่มีวันพรุ่งนี้ให้มาถึงยังไงยังงั้น” อมิตา หรือ ตา เพื่อนสาวคนสนิท “ตา...คืนนี้ขอไปนอนบ้านแกด้วยนะ” อมิตาหันไปมองเพื่อนที่อาการแปลกมาก  ถามอย่างพูดอีกอย่าง “ขอทำไม...หนูมุกแกอยากไปตอนไหน...บ้านฉันต้อนรับแกตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว” อมิตาหันไปมองเพื่อนอีกครั้ง  “ขอบใจ” ปิ่นมุกพูดแค่นั้น อมิตาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะรู้จักปิ่นมุกเป็นอย่างดี ถ้าอยากเล่าก็คงเล่าออกมาเอง อมิตาพยักหน้าแค่นั้นพร้อมเอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างเข้าใจและให้กำลังใจ  “เย้ยยยยย” อมิตาร้องออกมาต่อจากนั้นทันที เมื่อนายเติ้ลเพื่อนชายที่ตัวเองคิดมากกว่าแค่เพื่อน ขับรถแข่งเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่ง และหันกลับมามองคนที่นั่งข้างๆ ที่แค่ยิ้มดีใจระดับความดีใจแค่บันไดขั้นที่สอง ต่างจากเธอที่ความดีใจบันไดขั้นสูงสุด “เป็นไงบ้างมุก...วันนี้เราทำเวลาดีขึ้นว๊ะ” สุพัฒน์ถามความเห็นเพื่อนสาว “อืม”  “อืม...แค่เนี่ยนะ...แล้วนี้ตกลงแกจะลงสนามเหรอเปล่า” “ไม่อ๊ะ...ไม่มีอารมณ์” อมิตานั่งมองการสนทนาระหว่างปิ่นมุกกับสุพัฒน์อย่างเงียบๆ แบบที่เป็นมาตลอด “เอ่อ...ตามใจ...ว่าแต่แกจะเดินทางวันไหน” สุพัฒน์ตัดสินใจถามเพื่อนสาวเพราะเขารู้เรื่องที่เธอต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษในปีสุดท้าย  สุพัฒน์มองเพื่อนอย่างต้องรักษาสถานภาพความเป็นเพื่อนไว้ ทั้งๆที่ตัวเองคิดกับปิ่นมุกมากกว่าเพื่อนมานานแล้ว แต่ตัวเขาก็รู้เช่นกันว่าปิ่นมุกมีพี่อลันในใจเพียงคนเดียว เขาเคยคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปอะไรๆก็อาจเปลี่ยนแปลง และสามปีที่ผ่านมาที่หนูมุกไม่ได้บินไปหาพี่อลันเลยนั้นเขาเคยคิดว่าเวลานั้นที่เขารอคอยอาจมาถึง แต่แล้วมันก็ไม่ใช่เพราะหนูมุกก็ยังเป็นหนูมุกของพี่อลันไม่เปลี่ยนแปลง “ไม่รู้” “เอ่อ...มุก...ฉันยังไม่ได้บอกแกว่า...ฉันตัดสินใจจะไปเรียนต่อโทที่อังกฤษแล้วว๊ะ” ปิ่นมุกหันมามองเพื่อนชาย พร้อมรอยยิ้มที่ออกมาอย่างดีใจ ก่อนหน้านี้เธอเคยถามหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ  “ฉันจะรอนะ” ปิ่นมุกตอบออกไป อมิตามองทั้งสองคนอย่างเงียบๆ เธอก็พอจะดูออกว่านายเติ้ลเพื่อนที่เธอแอบรู้สึกมากกว่าเพื่อนนั้น เขาก็รู้สึกกับปิ่นมุกมากกว่าแค่เพื่อน แต่เธอคิดว่าทั้งเขาและเธอต่างก็ให้ความสำคัญของความสัมพันธ์ของเพื่อนมาเหนือสิ่งอื่นใด จึงพยายามหยุดความรู้สึกให้อยู่ในกรอบของแค่เพื่อน ในเมื่ออีกฝ่ายรับรู้สถานะแค่นั้น  อมิตาพึ่งจะรู้จักเป็นเพื่อนกับหนูมุกตอนย้ายมาเรียนมัธยมต้นที่ภูเก็ตตามคุณพ่อกับคุณแม่ที่พึ่งย้ายมาตั้งรกรากที่นี่ ปิ่นมุกกับสุพัฒน์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว และเมื่อทั้งสามจบมัธยมปลายก็ไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต่างสถาบันกันมีแต่เธอกับสุพัฒน์ที่เรียนสถาบันเดียวกันแต่คนละคณะ แต่ทั้งสามก็ยังไปมาหาสู่กันตลอด “งั้นเดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน...รอแป็บนะเดี๋ยวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”    สุพัฒน์บอกก่อนที่จะลุกเดินออกไป และตัวเขาย้อนคิดไปถึงเมื่อเช้าตอนที่เขาเข้าไปรับปิ่นมุกและได้เจอกับเอกวุฒิพ่อของเพื่อนสาว ตอนที่เขาถามหาเพื่อนสาวทำให้เขารู้ถึงสาเหตุที่เพื่อนสาวต้องรีบร้อนออกจากบ้านวันนี้ สาเหตุคือพี่อลันนั้นเอง เขากลับมารับหัวใจของเขาแล้วสินะ สุพัฒน์รู้ว่าหลังจากวันนี้ไปเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกับปิ่นมุกอีกนาน และนั้นเป็นสาเหตุที่เขาตัดสินใจไปเรียนต่อที่อังกฤษแค่ปีเดียว เพราะเขาเองก็ตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้อยู่เคียงข้างปิ่นมุก จึงทำให้เขาเรียนจบพร้อมปิ่นมุกเช่นเดียวกัน  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม