อลันไม่ชอบสายตาที่เธอใช้มองเขาเลย มันเต็มไปด้วยความไม่พอใจตลอดเวลา สายตาเหล่านั้นโยษิตาไม่เคยใช้กับเขาเลยตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมา
...เวลาผ่านไปสักพักคนตัวเล็กก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัว เธอเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารโดยไม่ได้พูดอะไร
“มีนักข่าวอยู่ด้านล่าง แต่ฉันให้คนกันออกหมดแล้วแหละ” อลันเหมือนคุยคนเดียวเสียมากกว่า เมื่ออีกฝ่ายตั้งหน้าตั้งตากินอาหารเช้าที่เขาทำให้ โดยไม่ได้พูดอะไร
เห็นเธอกินได้ก็รู้สึกดี โยษิตาแปลกใจที่เขาทำข้าวผัดอเมริกันอร่อยได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าไปหัดทำเอาตอนไหน
“ช่วงที่เธอไม่อยู่ ฉันทำอาหารกินเองบ่อยน่ะ” เขาเอ่ยพูดราวกับมานั่งในใจ เห็นใบหน้านิ่วคิ้วขมวดก็คิดว่าเธอคงสงสัย เลยเอ่ยบอก
“หึ...” เธอหัวเราะเบา ๆ ถ้าไม่เลิกกันก็คงไม่คิดอยากทำอะไร “...ฉันจะไปหาพ่อแม่ของดลก่อน”
“ยังไม่มีงานศพหรอก ญาติส่งชันสูตรอยู่น่ะ”
“แต่ยังไงฉันก็ต้องไปขอโทษ” เขาสบตากับเธอ อลันนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย
“ถ้าเธอไปขอโทษ...ขอโทษที่ทะเลาะกับเขา หรืออะไร”
“ก็ต้องขอโทษที่...ที่ผ่านมา” ว่าพร้อมกับน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ไม่คิดว่าเขาจะไปเร็วขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่กำลังจะมีความสุขด้วยกันแท้ ๆ
“ถ้าเธอไปหาตอนนี้ นักข่าวรุมเธอแน่”
“ฉันไม่ใช่นางแบบแล้ว”
“แต่ก็มีคนสนใจชีวิตของเธออยู่ดี” อลันยืนกรานไม่อยากให้เธอต้องเผชิญหน้ากับใคร เพราะตอนนี้คำด่าทอเต็มโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือแม้แต่ทวิตเตอร์ที่กำลังขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งด้วยชื่อของเธอ
#โยษิตาฆาตกร
หญิงสาวก้มหน้าลง ข้าวที่กินก็กินไม่หมด ไม่ใช่ว่าไม่อร่อย แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีเลยสักนิด
“เธออาจจะต้องเผชิญกับเรื่องไม่ดี รอเวลาสักพัก วันนี้เดี๋ยวไปที่บริษัทก่อน” โยษิตาไม่ได้ตอบอะไร เขาจะว่าอะไรก็ต้องยอม เพราะตอนนี้เธอก็มืดแปดด้านเช่นกัน
“อลินกำลังบินกลับ”
“หือ เธอไปเที่ยวนี่”
“ก็อยากมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ” โยษิตาผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ หญิงสาวไม่อยากรบกวนเพื่อนเลย ลำพังเวลาของเพื่อนก็น้อย เธออยากให้อลินได้ใช้ชีวิตกับสามีและลูก
“โทรศัพท์ฉันยังอยู่กับตำรวจ ติดต่ออลินไม่ได้” โยษิตาพึมพำออกมา ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองโทรศัพท์ของเขา
“อลินน่าจะอยู่บนเครื่อง ส่วนแม่ของเธอฉันโทรบอกแล้วแหละ ตั้งแต่เมื่อคืน”
“เหรอ แม่ว่าไง” เขานิ่งไปสักพัก น้ำเสียงกระตือรือร้นนั้นทำให้เขารู้สึกดีใจ
“ก็ฝากฉันดูแลเธอน่ะ” น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่มันกลับทำให้คนฟังรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา เขาเป็นลูกเขยคนโปรดของแม่ ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะไว้วางใจให้เขาดูแลเธอ
“กินได้แล้วข้าวเย็นหมด ไม่อร่อยหรือไง” อ้อมแอ้มถาม อยากรู้ว่าเธอจะชอบหรือเปล่า
“อิ่มแล้วแหละ” แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ถูกใจ เธอว่าพร้อมกับดันจานออกห่าง โยษิตาดื่มน้ำก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา รอเขากินข้าว ท่าทีหมางเมินของเธอทำให้คนเห็นมองตามตาละห้อย แม้นว่าว่าที่เจ้าบ่าวของเธอจะเสียชีวิต แต่ก็ใช่ว่าเจ้าหล่อนจะกลับมารักเขาได้ มันริบหรี่ยิ่งกว่าทางออกของคดีนี้เสียอีก...
เพราะคอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นคอนโดระดับ Super Luxury ดังนั้นนักข่าวจึงทำได้แค่นั่งรออยู่ที่หน้าคอนโดฯ บริเวณป้อมยามเพียงเท่านั้น โยษิตามองกลุ่มนักข่าวอยู่บนรถยนต์คันหรู ซึ่งอลันมีรถหลายคันมาก ทำให้นักข่าวไม่รู้ตัวเลยว่าทนายหนุ่มพาอดีตภรรยาออกมาแล้ว
...ไม่นานก็มาถึงสถานที่คุ้นเคย ปกติหากไม่มีงานเดินแบบจะเป็นเธอเสียเองที่มาหาเขาที่ทำงาน แม้นว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบใจนัก เกรงว่าจะรบกวนเวลางาน ทว่าคราวนี้เขาเป็นคนพาเธอมาเอง
พอมาถึงเธอก็เห็นคนที่ไม่อยากเจอที่สุด
ฟ้าใส...
“ยังอยู่อีกเหรอ” อลันกำลังปลดเข็มขัดนิรภัยเป็นอันต้องชะงักไป น้ำเสียงของโยษิตาบอกว่ากำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“หือ...อะไรเหรอ” อยู่ ๆ เธอก็เอ่ยพูด ชายหนุ่มไม่รู้ว่าสาวเจ้าต้องการบอกอะไร ทว่าพอมองตามสายตาก็พบกับใครบางคน
“ฟ้าใสมาพอดีเลย” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นผู้ช่วยทนาย จนถึงป่านนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจสาเหตุจริง ๆ ที่ทำให้โยษิตาทนไม่ไหว
“หึ...”แค่นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลงจากรถเพื่อไปหาอีกฝ่าย ฟ้าใสค้อมศีรษะทักทายเป็นมารยาท ส่วนโยษิตาก็ส่งสายตาฟาดฟันเหมือนกับทุกครั้งที่เจอกัน
“อยู่นานนะ” โยษิตาโพล่งเสียงออกมาก่อน แต่ฟ้าใสก็รู้ตัวว่าไม่ควรโต้กลับอะไร ยิ่งเป็นต่อหน้าทนายอลันแล้วด้วย
“มีอะไรหรือเปล่า” อลันมาถึงก็มึนงง อดีตสามีที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทำให้โยษิตากลอกตามองบน ผู้ช่วยทนายของเขาคนนี้นี่แหละเป็นสาเหตุจริง ๆ ที่ทำให้เธออยากหย่า
“ไม่มีอะไรค่ะ อรุณสวัสดิ์นะคะหัวหน้า”
“อือ นักสืบมายัง”
“อ้อ มาแล้วค่ะ”
“งั้นก็เข้าประชุมเลยก็แล้วกัน” เขาว่าพร้อมกับยื่นกระเป๋าเอกสารให้กับผู้ช่วย ก่อนที่เธอจะไปทำหน้าที่ของตัวเอง ปล่อยให้โยษิตายืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม
“ทำไมยังไม่ไล่เธอออกอีก” กลีบปากสวยขยับพูดโดยที่ไม่ได้หันไปมองคนข้างหลังเสียด้วยซ้ำ
“ฟ้าใสน่ะเหรอ ก็ทำงานดี ไม่เคยทำพลาด ไม่มีข้อเสียอะไร” มุมปากบางขยับยิ้มอย่างคนนึกสมเพช เย้ยหยันผู้ชายที่ฉลาดทุกเรื่อง แต่ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้หญิง
“หึ...” เธอหัวเราะอีกครั้ง หลังจากแต่งงานความหึงหวงของโยษิตาก็เพิ่มขึ้น เธอมาหาเขาที่ทำงานทุกวัน เจอหน้าฟ้าใสทุกวัน คนที่คอยปั่นประสาทเธอเสมอ “ฉันเคยบอกแล้วนี่ว่าให้ไล่แม่นี่ออก”
“ไล่ออกไม่ได้ มีงานหลายอย่างที่ฉันทำร่วมกับฟ้าใส ฟ้าใสถูกซื้อตัวจากบริษัทคู่แข่งเป็นเงินไม่ใช่น้อย ๆ เลย”
“_” โยษิตานิ่งเงียบ เธอทะเลาะกับเขาบ่อยครั้ง แม้แต่วันขอหย่าหญิงสาวก็ไม่ได้บอกว่าทำไม เพราะนึกว่าเขาน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ทว่าผู้ชายคนนี้กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง
“เข้าไปกันเถอะ ไม่ควรให้คนอื่นรอ” เขาใช้ฝ่ามือดันแผ่นหลังบางให้ออกตัวเดิน แต่สาวเจ้ากลับไม่เดินเสียอย่างนั้น
“ตอนนั้น...ที่ฉันบอกว่าถึงจุดอิ่มตัว ถามจริง ๆ เหอะว่าไม่รู้ตัวจริงดิ”
“_” อลันกะพริบเปลือกตาปริบ ๆ เขาคิดว่าคงเป็นเพราะคบกันมานานแล้วเธอก็อยากหาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น
“บางทีฉันก็สงสัยว่า สมองของนายที่สามารถคิดเรื่องซับซ้อนได้ แต่ทำไมถึงคิดเรื่องนี้ไม่ได้”
“เธอต้องการอะไร หือ?...เธอบอกฉันเองนี่ว่าไม่รักฉันแล้ว แค่นั้นมันก็เป็นคำตอบของทุกอย่างไม่ใช่เหรอ เพราะเธอไม่รัก ทุกอย่างมันก็เลยไม่ถูกใจเธอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ตาม” คราวนี้เขาเริ่มขึ้นเสียงขึ้นเล็กน้อย เพราะเธอขุดเรื่องที่ทำให้เขาเจ็บปวดขึ้นมา ใช่สิ...เป็นเธอที่ทิ้งเขา เธอก็สามารถพูดได้ กดแผลที่บาดเจ็บของเขาได้ ขณะที่เขาเองไม่แม้แต่อยากจะพูดถึงมัน
“หึ เพราะอีนั่น เผื่อนายไม่รู้” ว่าจบก็เดินเข้าไปในตัวอาคาร ไม่ได้สนใจว่าอลันจะตกใจกับสิ่งที่เธอพูดมากแค่ไหน
อีนั่นที่เธอพูดถึง...ฟ้าใสอย่างนั้นเหรอ