Chapter 1: เจ้าสาว
ชุดเกาะอกสีขาวบริสุทธิ์พองฟูทำให้หญิงสาวตัวน้อยที่สวมใส่ดูเฉิดฉายมากขึ้นกว่าปกติหลายเท่า รติชาเอี้ยวตัวซ้ายขวา หมุนตัวแล้วมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกด้วยความปลื้มปริ่ม
ชุดเจ้าสาวดันอกอิ่มฟูให้ชิดกันดูน่ามอง เอวเล็กเว้าทำให้เธอดูเป็นสาวเซ็กซี่ด้วยส่วนสูงเพียง 158 เซนติเมตร ใบหน้าสวยหวาน ปากนิดจมูกหน่อยถูกแต่งแต้มด้วยสีสันโทนชมพู เสริมให้สาวน้อยดูเป็นเจ้าสาวที่เพียบพร้อม ไร้ที่ติ
“สวยแล้วค่ะพี่ชา สวยสมกับที่เป็นเจ้าสาว งานจัดเลี้ยงก็เรียบร้อยดี รอแต่เจ้าสาวคนสวยอย่างพี่ชาแค่นั้น” รดาลัยผู้เป็นน้องสาวบอกเธอเพื่อย้ำความมั่นใจให้พี่สาว
เด็กสาวรดาลัยหน้าตาสะสวยไม่แพ้พี่สาวแต่เป็นคนสวยคม ตัวสูง ขายาว ไม่เหมือนพี่สาวที่ออกแนวหน้าหวาน ตัวเล็ก ๆ น่ารัก
“พี่ตื่นเต้นจังน้ำหวาน กลัวญาติพี่ดามพ์ไม่ชอบพี่... แค่สวยอย่างเดียวไม่พอ... เขามาจากตระกูลใหญ่ ที่บ้านก็มีเงินมากกว่าเราหลายเท่า พวกเรามันแค่เด็กกำพร้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ ญาติ ๆ พี่ดามพ์เขาจะรังเกียจพี่หรือเปล่า?” รติชาถามน้องสาว น้ำเสียงมีแววไม่สบายใจแฝงอยู่
เธอคบกับดามพ์มานานถึงสองปีแล้ว ตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยจนเรียนจบ เขาเป็นรุ่นพี่เธอ 3 ปี หน้าตาดี เป็นเดือนคณะ แถมที่บ้านยังมีฐานะดี การที่เขาขอแต่งงานกับเธอมันเหมือนรติชากำลังถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอย่างไรก็อย่างนั้น
“เขาไม่รังเกียจหรอกค่ะ พี่ชาบอกหวานเองนี่นาว่าคุณแม่เขาก็ดูโอเคกับพี่ชา” รดาลัยพูดเพื่อให้พี่สาวของเธอมีกำลังใจมากขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น รดาลัยรีบลุกจากเก้าอี้ไปเปิดประตู สาวน้อยเห็นว่าที่พี่เขยยืนอยู่ เธอสบตาเขาอย่างมีนัยก่อนจะหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องสวีทขนาดใหญ่ที่จองไว้สำหรับให้เจ้าสาวได้เตรียมตัว
“น้ำชา... หนูสวยมากเลยครับ สวยที่สุด หนูตื่นเต้นไหม?” ดามพ์ถามคนรักแล้วยกมือใหญ่ขึ้นเชยคางเจ้าสาวขึ้นมาพินิจดูวงหน้างาม
“ตื่นเต้นค่ะ กังวลด้วย หนูไม่มีใครมาเป็นแขกเลย มีแต่น้ำหวานมาด้วย หนูกลัวคุณพ่อคุณแม่ของพี่ดามพ์จะรู้สึกเหมือนทางหนูไม่ให้เกียรติจัง ถ้าจัดงานที่กรุงเทพฯ หนูยังจะพอเชิญแขกมาได้บ้าง แต่นี่มาจัดการที่ภูเก็ตแถมยังจัดกะทันหันไปหน่อย หนูเชิญใครไม่ทันเลย” รติชาพูดเหมือนบ่น
“ขอโทษด้วยครับที่พี่ขอหนูแต่งงานแบบเร่งด่วนไปหน่อย เหมือนที่พี่บอก... คุณแม่ของพี่เกิดป่วยขึ้นมา ท่านเลยอยากให้แต่งงานเร็ว ๆ กลัวจะเป็นอะไรไปอีก ตอนนี้พี่เชิญเจ้าหน้าที่มาจดทะเบียนสมรสแล้ว เขามาถึงแล้ว พี่จะเชิญเขาเข้ามาจดทะเบียนให้เราเลยนะ ให้น้ำหวานเซ็นเป็นพยาน เดี๋ยวพี่ให้คุณแม่พี่เข้ามาเซ็นเป็นพยานด้วย” ดามพ์บอกน้องอย่างรวบรัดจนรติชาอดตกใจไม่ได้
“หา?! จดทะเบียนกันตอนนี้ในห้องนี้เนี่ยนะคะ?”
“ใช่ พี่ขอโทษที่พี่ไม่ได้บอกล่วงหน้า พี่ติดต่อเจ้าหน้าที่เอาไว้ก่อนแล้ว คิดว่าสะดวกดี ดีกว่าไปจดที่เขตหรือที่อำเภอ จดกันที่โรงแรมนี่แหละ น้ำหวานช่วยออกไปเชิญคุณแม่พี่และเจ้าหน้าที่ที่รออยู่หน้าห้องเข้ามาให้หน่อยสิครับ” ดามพ์ตัดบทแล้วหันไปสั่งน้องแฟนทันที
รดาลัยเดินออกไปอย่างว่าง่ายแล้วเชิญคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของดามพ์พร้อมเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการจดทะเบียน
แม่ของพี่ดามพ์ไม่ได้พูดคุยมากมายกับรติชา แค่เข้ามาเซ็นชื่อเป็นพยานและออกไปจากห้อง การจดทะเบียนสมรสไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก เพียงครู่เดียวก็เสร็จสิ้น
“เสร็จแล้ว เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะถึงฤกษ์แต่งแล้ว หนูนั่งรอในห้องนะครับน้ำชา เดี๋ยวพี่และน้ำหวานจะออกไปดูแขกเหรื่อ ถ้าถึงเวลาพี่จะให้น้ำหวานมาเรียกหนูนะครับ” ดามพ์บอกเจ้าสาวของเขาแล้วบุ้ยใบ้ให้รดาลัยออกจากห้อง
รดาลัยมองพี่สาวคนสวยของเธออีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามาบีบมือของพี่สาวเบา ๆ
“พี่ชาขา หวานรักพี่นะคะ การแต่งงานครั้งนี้มันอาจฉุกละหุกไปนิด แต่หวานหวังว่ามันจะเป็นงานแต่งที่ทำให้ชีวิตของเราสองคนดีขึ้น และพี่จะมีความสุขกับมัน” รดาลัยบอกพี่สาว ในแววตาเหมือนมีความกังวลและเป็นห่วงแฝงอยู่
“พี่รู้ว่าน้ำหวานเป็นห่วงพี่ อีกอย่างถ้าพี่แต่งงานออกไปอยู่กับพี่ดามพ์ น้ำหวานคงเหงา แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หลังแต่งงานถ้าพี่มีลูกพี่จะขอพี่ดามพ์ให้น้ำหวานมาอยู่ด้วยกัน มาช่วยเลี้ยงหลาน ดีไหม?” รติชายิ้มแล้วบอกน้องสาว
รดาลัยมีน้ำตาคลอเบ้าก่อนจะพยักหน้ารับคำพี่สาวแล้วทำท่าจะเดินจากไปพร้อมกับดามพ์
“อ้อ... พี่ชาอย่าลืมดื่มบลูมาการิต้าที่หวานสั่งมาให้นะคะ หวานให้เขาทำเป็นค็อกเทลอ่อน ๆ เดี๋ยวหวานจะออกไปดูที่งานก่อน ถ้าได้ฤกษ์ หวานจะมาตามค่ะ” รดาลัยบอกพี่สาวก่อนออกจากห้องไปพร้อมกับดามพ์
รติชามองแก้วค็อกเทลสีฟ้าสวยที่โต๊ะรับแขกกลางห้อง เจ้าสาวคนสวยเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวก่อนจะหยิบแก้วค็อกเทลมาจิบแล้วเปิดโทรทัศน์ในห้องดูรายการข่าวสารฆ่าเวลา
เจ้าสาววัย 22 ที่นั่งรอฤกษ์ไม่รู้เลยว่าสิ่งใดกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ มีเพียงเจ้าบ่าวและน้องสาวของเธอที่ตอนนี้ยืนอยู่หลังประตูห้องที่ปิดสนิทรู้ถึงชะตากรรมอันโหดร้ายของรติชา
“พี่ชาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?” รดาลัยเงยหน้าถามดามพ์ ทำหน้าราวกับจะร้องไห้
“ถึงเป็นอะไรก็ไม่ถึงตาย น้ำหวานเชื่อพี่สิครับ พี่ทำทุกอย่างก็เพื่อเราสองคนนะน้ำหวาน น้ำหวานก็รู้ ถ้าไม่ทำแบบนี้พี่เองอาจจะตายก็ได้ ระหว่างการที่น้ำหวานปล่อยให้น้ำชาเจ็บนิดหน่อยกับการที่น้ำหวานปล่อยให้พี่ถูกฆ่าตาย น้ำหวานต้องเลือกว่าจะทำแบบไหน ที่สำคัญ... แค่คนที่อยู่ในห้องตอนนี้ไม่ใช่น้ำหวานพี่ก็ดีใจที่สุดแล้ว” ดามพ์ดึงร่างบางของรดาลัยเข้ามากอดแน่น
สิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไปมันเลวระยำ บัดซบ เขารู้ดี...
แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นคนเลวที่ยังมีลมหายใจ
เลวแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าเป็นคนดีแต่สิ้นลมมากนัก
*************************
ลมหายใจร้อนของใครบางคนกระทบผิวแก้มเนียนของเธอ รติชารับรู้ได้ จากนั้นอีกไม่นานมือใหญ่ของใครบางคนก็ลูบไล้ลำแขนกลมกลึงของเธออย่างนุ่มนวล
สาวน้อยได้กลิ่นโคโลญจน์ผู้ชายราคาแพงระรวยริน มันทำให้เธอต้องนิ่วหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทั้ง ๆ ที่เปลือกตาหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น
กลิ่นโคโลญจน์ไม่ใช่กลิ่นของพี่ดามพ์ที่สำคัญ... มันมีอยู่สองกลิ่น!
กลิ่นหนึ่งสดชื่น อบอุ่นเหมือนกลิ่นลาเวนเดอร์จาง ๆ อีกกลิ่นร้อนแรง ทรงพลังเหมือนกลิ่นไม้กฤษณา
หรือพี่ดามพ์เปลี่ยนกลิ่นโคโลญจน์? แต่ทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีพี่ดามพ์สองคนนะ?
เจ้าสาวตัวน้อยวัย 22 คิดในใจ เธอรู้สึกร้อนอบอ้าว อยากจะแก้ชุดแต่งงานที่มันอึดอัดและรุงรังออกเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็นั่นแหละ... สาวน้อยยังลืมตาไม่ขึ้นอยู่ดี
“ไอ้พล ทำไมเจ้าสาวดูแปลก ๆ วะ? มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้หลอกเด็กมันมาทำเมีย?” เสียงทุ้มนุ่มของใครคนหนึ่งดังขึ้นมา
“ไม่ได้หลอกโว้ย! ไอ้คนที่เอาผู้หญิงมาให้บอกว่านี่เมียมันเอง จดทะเบียนกันเรียบร้อย ดังนั้นต้องใช้หนี้ร่วมกัน” เสียงห้าว ออกฉุนเฉียวปนเซ็กซี่ของหนุ่มอีกคนโต้ตอบขึ้นมาทันที
ไม่ใช่เสียงพี่ดามพ์! ใครกัน? พวกมันทำอะไรหนูเนี่ย?!
รติชาคิดในใจแต่ไม่อาจเปิดเปลือกตาได้ ในหัวมันมึนเบลอ คล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น
“เชี่ย! ทำไมมึงเอาเมียคนอื่นมาเป็นเมียเราได้วะ?” ชายเสียงนุ่มพูดขึ้น
“ไอ้เพชร... เวลาแบบนี้ต้องหาใครก็ได้ที่ไม่ต้องมาเกาะแกะวอแวเราทีหลังดีที่สุด กูทำสัญญากับมันเรียบร้อยแล้ว มึงไม่ต้องกลัว” ชายเสียงห้าวพูดเหมือนรำคาญ
“สัญญาเชี่ยไรวะ?”
“สัญญาว่าเราจะซื้อฝากผู้หญิงคนนี้พร้อมมดลูกไง ไอ้คนผัวมันจะมาไถ่เมียคืนภายในหนึ่งปี พอเราทำผู้หญิงท้องก็เอาลูกไว้แล้วส่งเมียกลับไปหาผัว จบข่าว เท่าที่ไอ้หมอนั่นมันบอก เมียมันดูรักมันมากอยู่ ไม่มีทางเกาะติดพวกเราแน่” ชายเสียงห้าวรับรอง
“บ้าฉิบหาย! กูนึกว่ามึงไปซื้อพวกเด็กเอนมา เสือกไปซื้อเมียคนอื่นมา แถมเขายังรักผัวเขามาก แบบนี้ไม่เท่ากับเราข่มขืนเขาเหรอ? แล้วมึงดู น้องมันดูสะลึมสะลือ ดูแปลก ๆ นะมึง” เสียงอบอุ่นบอก เจ้าของเสียงยกมือขึ้นลูบตามกรอบหน้าของรติชาเบา ๆ ด้วยความห่วงใย
“ไหน เอามาดูดิ... แม่ง... ไอ้สัตว์ดามพ์ หลอกขายฝากเมียให้กูเหรอ? เชี่ย!” เสียงก่นด่าของชายเลือดร้อนดังขึ้น
แต่ตอนนี้ถึงเสียงรอบกายจะดังแค่ไหนรติชาก็ทนความร้อนรุ่มในกายไม่ไหวแล้ว สาวน้อยเริ่มถอดดอกไม้ที่ติดผมอยู่ แล้วร้องครางพลางยกสองมือน้อยมาลูบไล้เนื้อตัวเพื่อคลายกำหนัดที่มาจากฤทธิ์ยา
“พี่ขา... หนูร้อน อื้ออออ...” รติชาครางเสียงหวาน เปลือกตาที่มันหนักอึ้งเริ่มเผยอขึ้นพร้อมแววตาหวานฉ่ำยั่วสวาท
ทุกอย่างในหัวของสาวน้อยมันมึนเบลอ เธอรู้แต่ว่าร่างเล็กของเธอร้อนผ่าวไปทั่วจนอยากเปลื้องเสื้อผ้าออกให้หมด สายตาพร่ามัวของหญิงสาวมองเห็นหนุ่มหล่อร่างกำยำสองคนในเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนนั่งอยู่ข้างกายขณะที่ตัวเธอนอนหงายอยู่บนเตียง
หนุ่มคนหนึ่งดูหล่อแบบร้าย ๆ ดวงตาเหมือนเสือ จมูกโด่ง หน้าตาคมสัน ส่วนอีกคนดูหล่อสะอาด หน้าตาหมดจด ขาวใสเหมือนโอปป้าเกาหลี ดวงตาเล็กรีเหมือนตาเหยี่ยว ในแววตาเจือความอ่อนโยน สวมแว่นสายตาอย่างเท่ ดูอย่างไรทั้งสองหนุ่มก็เหมือนดารานายแบบที่หลุดออกมาจากโทรทัศน์ไม่มีผิด
ยิ่งดูพวกเขายิ่งหล่อ และยิ่งเห็นเธอก็ยิ่งอยากให้พวกเขาแตะต้องลูบไล้ โลมเลียเธอไปทั้งร่าง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับหนู? น้องสาวหนูอยู่ไหน? เจ้าบ่าวหนูอยู่ไหน? ที่สำคัญ... ทำไมหนูอยากให้คนแปลกหน้าอย่างผู้ชายสองคนนี้จับต้องตัวหนูได้ขนาดนี้? หนูมันร่านแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!