แม้ไม่เห็นภาพของทินภัทรและรสิตาระหว่างทะเลาะกัน แต่เสียงของทั้งคู่ที่ถูกบันทึกไว้ในวีดีโอคลิปนี้ชัดเจนจนภาวินแทบไม่อยากให้มารดาฟัง เพราะไม่อยากให้ท่านเจ็บปวดเสียใจไปมากกว่านี้
‘คุณทิน กลับมาแล้วหรือคะ’
‘คุณมาที่นี่ทำไม รสิตา’
‘คุณทิน ทำไมไม่เรียกน้องหนู ว่าน้องหนูเหมือนเดิมล่ะคะ’
‘ผมถามว่าคุณแส่มาที่นี่ทำไม’
‘น้อง...น้องหนูคิดถึงคุณ...และน้องหนูมีข่าวดีจะมาบอกคุณด้วยค่ะ’
‘ข่าวดีอะไร’
‘น้องหนูท้อง...ตอนนี้เรากำลังจะมีลูกด้วยกันค่ะ’
‘แน่ใจว่าเป็นลูกของผม’
‘ทำไมคุณทินพูดแบบนี้คะ น้องหนูมีคุณคนเดียวนะคะ’
‘ผมจะแน่ใจได้ยังไง ผมไม่ได้เจอคุณเกือบสองเดือน ระหว่างนั้นคุณอาจจะไปมั่วกับคนงานในฟาร์มจนท้อง แล้วเอามาอ้างว่าเป็นลูกของผมก็ได้’
‘น้องหนูไม่เคยมีใครค่ะ น้องหนูรักคุณ มีคุณเพียงคนเดียว ลูกในท้องก็เป็นลูกของคุณทิน เราแต่งงานกันนะคะ คุณทิน’
‘ใครจะแต่งงานกับคุณ ผมมีคู่หมั้นแล้ว คิดว่าคุณคงเห็นข่าวคู่หมั้นของผม ที่เพิ่งคว้าใบปริญญาโทมามาดๆ และเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกับผม’
‘ไม่ คุณทินจะแต่งงานกับใครไม่ได้ น้องหนูเป็นเมียของคุณ และเรากำลังจะมีลูกด้วยกันด้วย’
‘ผมบอกแล้วยังไงล่ะ ว่าผมไม่ยอมรับว่าเด็กในท้องเป็นลูกของผม คุณไปมั่วกับใคร ก็ให้ไอ้คนนั้นมันรับผิดชอบ และจะบอกให้เอาบุญ ว่าผมไม่เคยรักคุณเลย’
‘คุณทิน...กำลังพูดโกหกใช่ไหมคะ จริงๆ แล้วคุณทินรักน้องหนู คุณทินจะแต่งงานกับน้องหนู เหมือนที่คุณเคยบอกไว้’
‘รสิตา ดูน้ำหน้าของคุณก่อน ว่าคุณเป็นใคร ผมเป็นใคร ตอนนี้ผมกำลังจะได้เป็นพระเอกเต็มตัว ผมมีคู่หมั้นที่เหมาะสมคู่ควรกัน คุณนาราเรียนจบมาจากอเมริกา เป็นที่เชิดหน้าชูตาให้กับผม แล้วคุณล่ะ เรียนก็ไม่จบ แค่เห็นผู้ชายหล่อๆ ก็วิ่งตามเสนอตัวให้ผมอย่างเต็มที่ คุณคิดว่าผมรักคุณยังงั้นหรือ? เปล่าเลย...ผมไม่เคยรักคุณ ใครจะรักผู้หญิงบ้านนอก ใครจะเอาเด็กใจแตกอย่างคุณมายกย่องเชิดหน้าชูตา เมื่อคุณเสนอตัวให้ถึงที่ ผมก็สนองความร่าน ความอยากให้กับคุณ กลับไปซะ ไปหาคนงานในฟาร์มให้เป็นพ่อของลูกในท้อง อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก เพราะเดือนหน้าผมก็จะแต่งงานกับคุณนาราแล้ว’
‘ไม่...น้องหนูไม่ให้คุณแต่งงานกับใครทั้งนั้น คุณต้องแต่งงานกับน้องหนู’
‘เอะ นังนี่พูดไม่ฟัง ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้’
‘น้องหนูไม่ไป น้องหนูจะอยู่ที่นี่กับคุณ’
‘ไม่ออกไปใช่ไหม อย่าหาว่าผมใจร้ายกับคุณก็แล้วกัน’
‘กรี๊ดดด...’
จังหวะที่ทินภัทรแล่นเข้ามาทำร้ายรสิตา ทำให้โทรศัพท์มือถือตกลงกับพื้น และนั่นก็สามารถบันทึกภาพขณะที่หญิงสาวถูกทินภัทรเตะเข้ากลางลำตัว จนทรุดฮวบไปกองกับพื้น
ภาวินเห็นภาพดังกล่าวในวีดีโอคลิปถึงกับแผดเสียงสบถลั่น ใบหน้าถมึงทึงเต็มไปด้วยไฟแห่งความแค้น ที่ลุกโชนทั่วหัวสมองของเขา
“บัดซบ! มันเตะน้องหนู ไอ้สัตว์นรก หน้าตัวเมีย ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้”
วิริยาร้องไห้จนแทบเป็นลมพับเมื่อเห็นลูกสาวถูกเตะ ถูกทุบตีอย่างไม่ยั้ง ท่านเลี้ยงลูกด้วยความทะนุถนอม ไม่เคยตีแม้แต่ครั้งเดียว แล้วสัตว์นรกนี้เป็นใครที่มาทำร้ายลูกสาวของเธอเช่นนั้น
“วิน...วิน...ต้องแก้แค้นให้แม่ แก้แค้นให้น้องหนู ทำให้พวกมัน ทั้งไอ้ทินภัทรและนังนารา คู่หมั้นของมัน ต้องเจ็บปวดเจียนตาย แก้แค้นให้น้องหนูนอนตายตาหลับนะวิน...”
ดวงตาคมกริบโชนไฟแค้น มือใหญ่กำเข้าหากันแน่น เค้นเสียงเย็นยะเยือกฝากสายลมไปถึงคนที่เป็นต้นเหตุให้น้องสาวของเขาต้องฆ่าตัวตาย
“แน่นอนครับ ไอ้ทินภัทรกับ ‘นารา’ คู่หมั้นของมัน จะไม่มีทางได้แต่งงาน เสวยสุขด้วยกัน หากผู้ชายที่ชื่อ ‘ภาวิน’ ยังมีชีวิตอยู่”
ในวันเผาศพของรสิตา วิริยาร้องไห้จนเป็นลมไม่มีแรงลุกขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ ไม่มีแรงต้อนรับแขกที่มาส่งดวงวิญญาณของลูกสาว คงมีแค่เพียงภาวินที่ทำหน้าที่ต้อนรับแขกดูแลงานศพกระทั่งเสร็จสิ้น เก็บเถ้ากระดูกของรสิตามาลอยอังคารในวันถัดไป
งานศพของรสิตาผ่านพ้นไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว ทว่านางยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้ากับการสูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ
และในวันนี้ก็นั่งเหม่อลอยอยู่หน้าบ้าน ข้าวปลาไม่แตะต้อง ในมือมีภาพถ่ายของลูกสาวอยู่ด้วย หยาดน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลาที่ก้มลงมองภาพของลูกสาว
ภาวินเห็นมารดานั่งมองภาพของรสิตาแล้วร้องไห้ไม่หยุด ก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ท่านไม่กินข้าว ไม่แตะต้องอาหาร หรือบางทีก็กินคำสองคำ ก็วางช้อนลง จนร่างกายผายผอมกว่าเดิมมาก ท่านกำลังตรอมใจกับการจากไปของลูกสาวเพียงคนเดียว
นอกจากจะสงสารมารดาแล้ว ภาวินก็ขบกรามด้วยความคลั่งแค้น ชายชั่ว หน้าตัวเมียที่ชื่อ ‘ทินภัทร’ และผู้หญิงร่านแย่งสามีของคนอื่นที่ชื่อ ‘นารา’ ต้องได้รับการชดใช้จากการกระทำของเขาและเธอ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มเปิดเกมการแก้แค้นแล้ว!
“คุณแม่ครับ วันนี้ผมจะเข้ากรุงเทพฯ ครับ”
วิริยาเงยหน้ามองลูกชาย เอ่ยถามรัวเร็วด้วยความหวังในสิ่งที่รอคอยอยู่ “วินจะไปลากตัวหญิงชั่วชายเลวสองคนนั้นมาลงโทษใช่ไหม”
“ใช่ครับ ผมจะทำตามที่ให้สัญญากับน้องหนูไว้ ใครก็ตามที่ทำให้น้องหนูต้องเจ็บปวดเสียใจ พวกมันต้องเจ็บปวดไม่แพ้กัน”
น้ำเสียงแข็งห้วนเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เป็นที่ถูกใจของวิริยาอย่างยิ่ง นางต้องการให้ภาวินทำให้คนเหล่านี้เจ็บปวดเจียนตาย เพื่อตอบแทนความชั่วที่พวกมันได้ทำไว้
“วินจะทำยังไงกับพวกมัน”
“ผมมีแผนของผมอยู่แล้วครับ”
เอ่ยบอกไปแล้ว ภาวินก็ทรุดตัวลงนั่งย่องๆ อยู่ด้านหน้ามารดา เอื้อมมือใหญ่ไปกุมมือของมารดาบีบเบาๆ ส่งกำลังใจให้ท่าน ขณะเอ่ยขอร้องแกมบังคับมารดาด้วย
“ผมจะแก้แค้นให้น้องหนู พวกมันต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม คุณแม่ต้องกินข้าว ต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง คุณแม่ต้องอยู่ดูความหายนะของไอ้ทินภัทรกับคู่หมั้นของมันนะครับ”