“จ้ะ วิน แม่สัญญาว่าแม่จะอยู่ดูความหายนะของพวกมัน”
เพราะอยากเห็นความเจ็บปวดของคนชั่ว วิริยายอมทำตามที่ลูกชายบอกในทันที
ภาวินลอบยิ้มที่สามารถกล่อมมารดาได้ จากนั้นก็ตะโกนเรียกให้เด็กรับใช้ทำข้าวต้มร้อนๆ มาให้มารดารับประทาน
“ผมไปก่อนนะครับ จะไปรับเชลยให้กลับมาชดใช้กรรมที่พวกเขาได้ก่อไว้”
ภาวินสวมกอดมารดาไว้ชั่วขณะ ก่อนจะผละออก ก้าวลงจากบ้านตรงไปยังรถยนต์แบบสปอร์ตคันใหญ่ ที่จะใช้เป็นพาหนะพาเชลยสาวกลับมาลงโทษยังแดนกุมขังแห่งนี้
วิริยามองตามร่างใหญ่ล่ำสันของลูกชาย พร้อมกับร้องไห้ออกมาเบาๆ เมื่อนึกย้อนถึงสิ่งที่ตนเองเคยทำกับลูกชายคนนี้
ภาวินเป็นลูกที่เกิดกับสามีคนแรกซึ่งเป็นชาวอเมริกัน พอภาวินอายุสิบขวบนางก็หนีกลับมาอยู่ประเทศไทย ทิ้งภาวินไว้ที่อเมริกา กระทั่งนางพบรักใหม่กับพ่อของรสิตา
หลังจากกลับมาอยู่ประเทศไทยแล้ว นางไม่เคยไปเยี่ยมลูกชายแม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งภาวินเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และด้วยความคิดถึงมารดา อยากเห็นน้องสาวจึงเดินทางมาเยี่ยมนางที่ฟาร์มโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า
แทนที่จะดีใจเมื่อเห็นลูกชายมาเยี่ยม แต่นางกลับด่าทอต่อว่าภาวิน และห้ามไม่ให้อีกฝ่ายกลับมาที่ฟาร์มอีก
ภาวินทำตามคำสั่งทุกอย่าง พอกลับอเมริกาไปแล้ว เขาก็ไม่กลับมาที่ฟาร์มอีกเลย ทว่าภาวินหาได้ตัดขาดมารดากับน้องสาวเพราะความโกรธเคืองที่ถูกขับไล่ไสส่งไม่!
ภาวินสืบทอดกิจการทำฟาร์มเลี้ยงโคขุนที่ใหญ่และดีที่สุดในรัฐเท็กซัส เขาส่งเงินให้มารดาและน้องสาวได้ใช้กันอย่างสุขสบาย ไม่เคยขาด ไม่ว่ารสิตาอยากได้อะไร แค่เพียงโทรศัพท์ไปหาพี่ชาย ไม่เกินชั่วโมงภาวินก็โอนเงินให้น้องสาวในทันที
ภาวินทำดีกับผู้เป็นมารดาและน้องสาวทุกอย่าง แต่นางกลับไม่เคยรักลูกชายคนนี้เลย เรียกว่าเกลียดอดีตสามี พลอยเกลียดลูกชายไปด้วย แต่ไม่ว่าจะถูกมารดามอบความชิงชังให้มากเพียงใด ภาวินกลับทำตามที่นางต้องการโดยไม่มีโต้แย้ง
“วิน แม่ขอโทษ”
วิริยาพึมพำเสียงสั่นเครือ มองตามรถยนต์คันใหญ่ที่แล่นออกไปพ้นบริเวณหน้าบ้านแล้ว และเมื่อเด็กรับใช้ยกข้าวต้มร้อนๆ มาเสิร์ฟอีกครั้ง ก็นึกถึงคำพูดของลูกชาย
‘คุณแม่ต้องอยู่ดูความหายนะของไอ้ทินภัทรกับคู่หมั้นของมัน’
พอคำพูดของลูกชายสะท้อนเข้าในหัวสมอง วิริยาก็ตักข้าวต้มมากินจนหมดชาม
“ใช่! ฉันต้องอยู่ดูความหายนะ อยู่ดูความพินาศของไอ้ทินภัทรกับนังผู้หญิงที่พรากผัว พรากพ่อของลูกในท้องของน้องหนูไป”
นาราอยู่ในชุดแซกเปิดไหล่สีดำปักเหลื่อมไปทั้งตัว เดินตรงไปยังลานจอดรถใต้อาคารคอนโดสุดหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อไปงานเลี้ยงในตอนค่ำคืนนี้ แต่ไม่ทันได้เข้าไปนั่งในรถ ต้นแขนเล็กขาวเนียนก็ถูกกระชากจากใครบางคนจากทางด้านหลัง
“คุณนารา...ที่รัก”
แค่ได้ยินน้ำเสียงของคนที่เรียกตนเอง นาราก็ตีหน้าบึง ดวงตาวาวโรจน์ กระชากมือออก พร้อมกับหันไปตวาดคนที่บังอาจมาแตะต้องตัวเธอ
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ทินภัทร”
ถูกขึงตามองด้วยความโกรธจัด ใบหน้างามถมึงทึงไม่ยอมญาติดีด้วย ทินภัทรจำต้องปล่อยต้นแขนเล็ก แต่กระนั้นก็ไม่ลืมโอดครวญขอโทษหญิงสาวด้วย
“ที่รัก...
“คุณไม่มีสิทธิ์เรียกฉันว่าที่รักอีก” นาราตวาดเสียงแข็ง
“ทำไมล่ะครับ ก็เราสองคนรักกัน เราเป็นคู่หมั้นกัน ทำไมผมจะเรียกคุณว่าที่รักไม่ได้”
พระเอกจอมเจ้าเล่ห์เล่นละครบทโศก ตีหน้าเศร้าเพื่อให้นาราเห็นใจ
“ฉันไม่ได้รักคุณ และอย่าลืมว่าฉันถอนหมั้นจากคุณแล้ว”
“โธ่...นารา...ผมขอโทษ ผมคิดถึงคุณ อยากปรับความเข้าใจกับคุณ และขอให้คุณยกโทษให้ผมด้วย”
ทินภัทรพยายามขยับเข้าใกล้ร่างบาง แต่นาราก็ก้าวถอยหนี ไม่อยากอยู่ใกล้คนเลวแม้วินาทีเดียว เพื่อให้เสนียดติดตัวเธอ
นาราจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง ยิ้มเยาะตรงมุมปาก ต่อว่าเสียงแข็ง “ยกโทษยังงั้นหรือคุณจะให้ฉันยกโทษคุณในเรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณรสิตา ต่อให้คุณคุกเข่าขอโทษพันครั้ง หมื่นครั้ง ฉันก็ไม่ยกโทษให้คุณ เพราะสิ่งที่คุณทำกับคุณรสิตา เรียกวได้ว่า ‘ชั่ว’ เกินกว่าจะให้อภัย”
ภาวินถึงกับหน้าตึงที่ถูกด่าซึ่งๆ หน้า แต่...เขาเป็นถึงพระเอกดัง เล่นละครมาหลายเรื่อง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะเอ่ยแก้ตัวให้กับตนเอง
“เรื่องของรสิตา ไม่ใช่ความผิดของผมนะครับ”
“ไม่ใช่?” นาราทวนคำเสียงสูง “คุณทำเธอท้อง คุณยังบอกว่าไม่ใช่ความผิดของคุณยังงั้นหรือ คุณรสิตาคงท้องเองไม่ได้ หากคุณไม่มีส่วนร่วมด้วย”
“ลูกในท้องของรสิตาไม่ใช่ลูกของผม”
เผียะ!
นาราสะบัดมือตบลงไปบนใบหน้าหล่อสำอางของทินภัทรเต็มแรง แผดเสียงด่าทินภัทรด้วยความโกรธระคนเกลียดชัง
“คุณพูดมาได้ยังไงว่าไม่ใช่ลูกของคุณ...คุณทำคุณรสิตาท้อง และเพราะความเห็นแก่ตัวของคุณ ปัดความรับผิดชอบ ทำให้คุณรสิตาเสียใจจนต้องฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกในท้อง!”
คราวนี้ทินภัทรหน้าถอดสีซีดโดยไร้การเล่นละคร เอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก “คุณ...คุณนารา...รู้ได้ยังไง ว่ารสิตาฆ่า...ฆ่าตัวตาย”
“ก็เพราะฉันไปงานศพของเธอมานะสิ”
“คุณไปงานศพของรสิตา!” ทินภัทรถามเสียงหลง
“ใช่! ฉันไปงานศพของคุณรสิตา และรู้จากชาวบ้านว่าคุณรสิตากินยาฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกในท้อง” นาราจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความชิงชัง เค้นถามเสียงห้วน
“ทำไม...ทำไมคุณถึงทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่น่าสงสารอย่างคุณรสิตาได้ลงคอ”
“ผมไม่ได้รักรสิตา เธอเสนอมา ผมก็สนองให้ ผมบอกให้เธอป้องกัน เธอรับปากกับผม แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ทำเช่นนั้น เธอต้องการใช้ลูกเป็นสิ่งผูกมัดผมไว้กับเธอ”
คนเห็นแก่ มองผู้หญิงเป็นแค่เพียงเครื่องบำเรอความใคร่ แก้ตัวเป็นพัลวัน และยกความผิดให้กับคนตายที่ไม่มีสิทธิ์พูด!
“เลวที่สุด! คุณบอกว่าไม่ได้รักเธอ แต่คุณก็ทำให้คุณรสิตาท้อง แล้วทิ้งเธอไป”
ยิ่งโต้เถียงกัน นาราก็ยิ่งเห็นธาตุแท้ของผู้ชายคนนี้ว่าเลวไม่มีที่ติ