เสียงสะอื้นร้องไห้เข้ามาแทนที่คำพูด พอร้องไห้หนักเข้า วิริยาก็ทำท่าจะเป็นลม จน
ภาวินต้องกุมมือมารดาไว้แน่น บีบให้กำลังใจ พลางเอ่ยถามมารดาไปด้วย
“คุณแม่ครับ ถ้าหากทำให้คุณแม่เจ็บปวด ก็อย่าพูดถึงเรื่องถึงความตายของน้องหนูเลยครับ ผมจะแก้แค้นให้กับน้องหนู เพราะนั่นคือสิ่งที่น้องต้องการบอกผม ตอนผมเคาะโลงคุยกับน้อง”
วิริยาดีใจที่ได้ยินภาวินบอกว่าจะแก้แค้นให้รสิตา แต่กระนั้นนางก็จะบอกถึงสิ่งที่ทินภัทรทำกับลูกสาวของเธอ กระทั่งทำให้รสิตาต้องตัดสินใจฆ่าตัวตาย!
“แม่ต้องบอกวิน...วินจะได้รู้ว่าทินภัทรกับผู้หญิงของมันเลวทรามมากเพียงใด พวกมันสมหัวร่วมคิดกันทำร้ายน้องหนู”
“ทินภัทรกับผู้หญิงของเขา?” ภาวินเลิกคิ้วขึ้นสูง ขณะเอ่ยถาม
“ใช่แล้วลูก” วิริยารับคำ เอ่ยเล่าต่อด้วยความคลั่งแค้น “น้องหนูเตรียมตัวจะไปหาทินภัทรที่กรุงเทพฯ เพื่อบอกเขาเรื่องลูกในท้อง จู่ๆ ก็มีข่าวออกมาว่าทินภัทรเดินทางไปเมืองนอก เพื่อร่วมงานรับปริญญาโทของแฟนสาว ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้กำกับละคร ที่เขากำลังจะได้เลื่อนเป็นพระเอก และเป็นลูกเขยในคราวเดียวกัน”
“บัดซบ! แมงดาชัดๆ เกาะผู้หญิงเพื่อไต่เต้าเป็นพระเอก”
ภาวินสบถลั่นห้อง กัดฟันกรอด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าน้องสาวของเขาเจ็บปวดเสียใจมากเพียงใด หลังจากได้เห็นข่าวเหล่านี้
“แม่จะไปกรุงเทพฯ กับน้องหนู แต่น้องหนูหนีแม่ไปก่อน แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่กรุงเทพฯ บ้าง ไม่รู้ว่าทินภัทรกับผู้หญิงของเขา พากันขับไล่ไสส่งน้องหนูอย่างไร เพราะพอกลับมาบ้านแล้ว น้องหนูก็เอาแต่ร้องไห้ ขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ยอมให้แม่เข้าไปในห้อง”
วิริยาถอนสะอื้น ยกมือปาดน้ำตา ก่อนจะเล่าต่อด้วยความเจ็บปวดเสียใจ
“กระทั่งเสียงร้องไห้เงียบไป แม่คิดว่าน้องหนูคงเพลียและผล็อยหลับไปแล้ว จึงไปนอนบ้าง พอตอนเช้า ไม่เห็นน้องหนูลงไปทานข้าว แม่จึงมาตามน้องหนู แม่เรียกเท่าไรก็ไม่ตอบ พอเห็นว่าเงียบผิดปกติ แม่เลยให้คนงานพังประตูห้อง และแม่ก็เห็น...เห็นน้องหนู...นอนน้ำลายฟูมปาก...น้องหนูกินยาฆ่าตัวตาย...พร้อมกับลูกในท้อง หลานของแม่ หลานของวิน...”
ผู้เป็นมารดาร้องไห้โฮ สะอึกสะอื้นปิ่มจะขาดใจ ส่วนภาวินกำมือเข้าหากันแน่น กัดฟันดังกรอด ดวงตาลุกโชนไปด้วยไฟแค้นลูกใหญ่ คงเป็นเพราะเหตุนี้ เวลาเขามองภาพของรสิตา จึงรู้สึกเหมือนกับว่าน้องสาวกำลังร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
“ผมจะแก้แค้นให้น้องหนูเอง”
ภาวินเค้นเสียงเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัว ซึ่งเป็นไปดั่งที่ผู้เป็นมารดาต้องการให้ลูกชายคนนี้แก้แค้นให้กับนางด้วย
“วิน...ตอนน้องหนูตะ...ตาย...ในมือของน้องหนูกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น แม่คิดว่าต้องมีข้อมูลสำคัญอยู่ในโทรศัพท์ของน้องหนูแน่ แต่แม่ไม่มีรหัสเปิดโทรศัพท์ แม่ไม่อยากเอาไปให้ร้านโทรศัพท์ปลดล็อกรหัสให้ แม่ไม่ต้องการให้ข้อมูลเหล่านี้หลุดไปถึงคนอื่น”
“โทรศัพท์อยู่ไหนครับคุณแม่”
“อยู่กับแม่...” เอ่ยตอบไปแล้ว ก็ล้วงหยิบโทรศัพท์มาจากกระเป๋าถือให้ลูกชายด้วย
“วินพอจะรู้รหัสปลดล็อกโทรศัพท์ของน้องหนูไหมลูก”
ภาวินนิ่งเงียบไปชั่วขณะ พลางนึกถึงตอนที่รสิตาโทรทางไกลระหว่างประเทศไปหาตนเอง พร้อมกับเอ่ยพูดในประโยคแปลกๆ ทว่าในขณะนั้นเขาไม่ได้สนใจเท่าไรนัก
‘พี่ชาย...รหัสโทรศัพท์ของน้องหนูคือปีพ.ศ.เกิด ถ้าน้องหนูเป็นอะไรไป พี่ชายต้องเปิดดูโทรศัพท์ของน้องหนูให้ได้นะคะ’
‘น้องหนูพูดถึงเรื่องอะไร พี่ไม่เข้าใจ’
‘รับปากกับน้องหนูสิคะ ว่าพี่ชายจะทำตามที่น้องหนูขอร้อง’
‘ตกลง พี่รับปาก’
‘ขอบคุณมากค่ะ พี่ชาย’
‘ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น ทำไมน้องหนูไม่บอกพี่ แล้วทำไมวันนี้โทร.มาพูดอะไรแปลกๆ กับพี่’
‘ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้องหนูแค่อยากบอกว่า น้องหนูรักพี่ชาย รักแม่ค่ะ’
‘พี่ก็รักน้องหนูเหมือนกันครับ’
‘พี่ชาย...ถ้าน้องหนูไม่อยู่แล้ว ฝากพี่ชายดูแลแม่ด้วยค่ะ’
ภาวินกัดฟันกรอด เข้าใจในนาทีนี้นี่เองว่า ที่รสิตาโทร.ไปหาตนเองเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เพราะเธอต้องการสั่งเสียก่อนลาโลก หญิงสาวเลือกตัดสินปัญหาชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย แทนการให้เขาหรือมารดาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้
“น้องหนูโทร.ไปบอกรหัสโทรศัพท์กับผม และสั่งเสียให้ผมดูแลคุณแม่ด้วย ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับน้องหนู แต่ผมก็รับปากว่าจะดูแลคุณแม่ตามที่เธอต้องการ”
“โธ่...น้องหนูของแม่...คงตัดสินใจ เลือกทางเดินชีวิตไว้แล้วถึงได้โทรไปหาวิน...”
วิริยาถอนสะอื้น ยกมือเช็ดน้ำตา เอ่ยบอกลูกชายเสียงสั่นเครือ
“วิน...เปิดดูโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ แม่อยากรู้ว่าน้องหนูอยากบอกอะไรพวกเรา”
“ครับคุณแม่”
มือใหญ่กดรหัสโทรศัพท์ตามปีพ.ศ.เกิดของน้องสาว โดยมีมารดาคอยชะเง้อมองว่าสามารถปลดล็อกรหัสได้หรือเปล่า พอปลดล็อกได้แล้ว ภาวินก็กดเข้าไปในเมนูรูปภาพ ซึ่งเขามั่นใจว่าความลับของรสิตาคงอยู่ในนี้ทั้งหมด
และเมื่อเห็นภาพถ่ายที่ถูกถ่ายไว้เป็นหลักฐานนับสิบๆ ภาพ ภาวินก็ต้องสบถลั่น ขบกรามระงับความโกรธไว้สุดกำลัง
“นรก! มันทำร้ายน้องหนู”
“โธ่...น้องหนู...ลูกแม่...”
รสิตาถ่ายภาพใบหน้าของตนเองซึ่งมีรอยฝ่ามือใหญ่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าทั้งสองด้าน ตามลำตัวและต้นแขน ต้นขา มีรอยเขียวช้ำ ซึ่งแน่นอนว่าเกิดจากการโดนซ้อมทุบตีจากทินภัทร
ขณะเปิดดูภาพของน้องสาว ภาวินก็ขบกรามแน่น ส่วนผู้เป็นมารดาก็ได้แต่ร่ำไห้ด้วยความสงสารลูกสาว
“คุณแม่ครับ มีคลิปวีดีโอด้วย” ภาวินเอ่ยบอกเมื่อเปิดไปเห็นคลิปวีดีโอหลายคลิปด้วยกัน
“เปิดเลยลูก” ผู้เป็นมารดาเร่งเร้า แต่ภาวินกลับไม่แน่ใจว่าควรเปิดให้มารดาดูดีหรือไม่
“คุณแม่แน่ใจนะครับว่าอยากดู”
“เปิดเถอะวิน แม่อยากรู้ว่าสัตว์นรกคนนั้นมันทำอะไรน้องหนู”
ภาวินพยักหน้ารับ เลือกเปิดวีดีโอคลิปที่ถูกบันทึกไว้ล่าสุด พอวีดีโอเริ่มเล่น ทั้งภาวิน ทั้งผู้เป็นมารดาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะมีแค่ภาพโดยรอบของห้องพัก และเสียงการทะเลาะระหว่างทินภัทรกับรสิตา และดูเหมือนว่าวีดีโอคลิปนี้จะเป็นการแอบบันทึกภาพจากรสิตาด้วย