เช้าวันต่อมา รสิกาในชุดกระโปรงสีครีมสวมรองเท้าส้นสูงหนึ่งนิ้วต้องหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางไปยังสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของตระกูล ไทเลอร์ด้วยความรู้สึกมากมายที่ยังค้างคา
เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืน ไม่ใช่ตื่นเต้นกับการเดินทางไปยังทวีปอเมริกาเหนือ แต่เธอรู้สึกเป็นห่วงกะรัตเพราะเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ไทเลอร์ราวกับยังทิ้งเชื้อไฟที่รอการปะทุ
เธอไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับการฆาตกรรมเจ้าของคฤหาสน์ที่ยังคงเป็นปริศนา ตำรวจยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่สิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจคือกะรัต มารดาของเธอเป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์วิปโยคคืนนั้น
รสิกามาถึงสนามบินตรงเวลาที่ได้รับการนัดหมาย หญิงสาวรู้สึกละล้าละหลัง เป็นห่วงมารดาและอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นอยู่ลึก ๆ ข้างในไม่ได้ที่จะได้ เห็น หน้าลูกชายคนเดียวของตระกูลไทเลอร์เป็นครั้งแรก
แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด เมื่อร่างบอบบางพาตัวเองเข้าไปด้านในของเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็กทว่าหรูระยับนับหมื่นล้านของไทเลอร์ กรุ๊ป เธอกลับพบบุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทาดำที่เห็นก็เพียงแผ่นหลังกว้างอยู่บนที่นั่งถัดไปจากที่นั่งของเธอ แอร์โฮสเตสเพียงคนเดียวประจำเครื่องนำกระเป๋าของเธอไปเก็บไว้ก่อนเดินเข้ามายังที่นั่งของเธออีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ...คุณโรส” หญิงสาวสวยในชุดแอร์โฮสเตสประจำเครื่องกล่าวขึ้นซึ่งก็น่าประทับใจที่เธอรู้จักชื่อของคนถูกเรียก
“ยินดีต้อนรับค่ะ...นี่จะเป็นเที่ยวบินที่จะเดินทางไปสู่ทวีปอเมริกาเหนือ นำคุณโรสไปยังเขตเทือกเขาภาคตะวันออกของอเมริกาเหนือในเขตที่ราบภาคกลางค่ะ”
“เอ้อ...ขอโทษค่ะ เราไม่ได้ไปเวสต์เวอร์จิเนียหรอกหรือคะ?”
แอร์โฮสเตสยิ้มหวานก่อนตอบ “เครื่องบินของเราจะลงจอดที่นิวแฮมเชียร์ ไวท์เมาท์เทน แถบเทือกเขา เมาท์ วอชิงตันค่ะคุณโรส...ประทานโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณโรสต้องการเครื่องดื่มแบบไหนคะ?”
รสิกาตอบแทบไม่ถูก หญิงสาวเหมือนเป็นใบ้อยู่ชั่วขณะก่อนตอบเสียงแผ่ว ๆ “เอ้อ...อะไรก็ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะจัดชามะลิให้คุณโรสนะคะ”
เมื่อพนักงานสาวเดินกลับเข้าไปภายในเคบินด้านในสุดรสิกาก็ลอบถอนหายใจเบา ๆ เกรงว่าคนที่นั่งหันหลังสงบนิ่งเหมือนรูปปั้นคนนั้นจะได้ยินเสียงของเธอ
ภายในนั้นไม่มีใครอยู่นอกจากเธอซึ่งนั่งบนที่นั่งริมหน้าต่าง และที่นั่งอีกชุดถัดไปและ เขา ก็ไม่มีทีท่าจะหันกลับมามองว่าใครนั่งบนเครื่องบินลำนี้ไปพร้อมกันเลยด้วยซ้ำ
เขา คงเป็น ดอมมินิค ไทเลอร์ เธอเห็นจากด้านหลัง ไหล่กว้างผึ่งผายในชุดสูท เรือนผมหยักศกน้อย ๆ สีน้ำตาลเหลือบประกายทองแดงและผิวสีแทนเข้มซึ่งเธอเห็นจากลำคอและบริเวณท้ายทอยของเขา
อิซาเบลให้เธอติดตามเขามาด้วยแต่ไม่ได้บอกว่าจะให้เธอกลับไปหากะรัตเมื่อไหร่ และจะต้องอยู่กับประธานบริษัทคนใหม่ของไทเลอร์ กรุ๊ป นานแค่ไหน และสถานที่ที่เธอกำลังจะไปก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเช่นไร ทุกอย่างเป็นปริศนาทั้งหมด แม้แต่คนที่เธอต้องเดินทางไปพร้อมกับเขา
เธอไม่เคยรู้จักเขาด้วยซ้ำ ดอมมินิค ไทเลอร์ เป็นคนเช่นไร นิสัยใจคอจะเหมือนพ่อของเขาหรือไม่ รสิกาอดที่จะคิดถึงคำพูดของมารดาที่กล่าวถึงลูกชายคนเดียวของเอ็ดมันน์ไม่ได้
“ถ้าฟังจากที่คุณผู้ชายเล่า ลูกชายของท่านก็คงเป็นคนมุ่งมั่นมากและคงหัวรั้นน่าดู”
หญิงสาวลอบถอนใจอีกครั้งก่อนเอนหลังพิงพนักที่นั่งกับความคิดมากมายที่ประดังเข้ามา เธอกำลังจินตนาการถึงทวีปอเมริกาเหนือ เทือกเขาแอปปาเลเชียนซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ ป่าสน และเกือบจะผล็อยหลับไปหากไม่รู้สึกตัวเสียก่อนหลังจากนั้นว่าเครื่องบินกำลังร่อนลงจอดก่อนที่เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งหันหลังให้จะลุกขึ้นและหันกลับมา
รสิกาตกตะลึงในวินาทีนั้น ม่านตาของหญิงสาวขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าคร้ามคมตรงหน้าชัดเจน บุรุษร่างสูงใหญ่ท่าทีสง่าผ่าเผย ความหล่อเหลานั้นยิ่งกว่ารูปสลักแห่งเทพ มันมีอำนาจราวกับมนต์สะกดหญิงสาวชาวไทยให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ โดยเฉพาะนัยน์ตาสีสนิมเหล็กฉายประกายสีอำพันจากท้องทะเลยามต้องแสง หญิงสาวคำนวณอายุของเขาอยู่ในใจว่าน่าจะประมาณสามสิบปี
และในเวลาเดียวกันนั้น เขา ก็หยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นหญิงสาวร่างเล็กบอบบางเจ้าของใบหน้าอันหมดจดที่ติดตามมาด้วย ต่างคนต่างนิ่งงันกับการได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกก่อนที่ชายหนุ่มจะดึงสติกลับมาและพูดขึ้นว่า
“คุณใช่มั้ย...ที่แม่ของผมจะให้มาช่วยดูแลกระท่อมที่นี่?”
บทที่ 3
“เอ้อ...ค่ะ”
“คุณคงรู้จักผมแล้วสินะ”
“ค่ะ...คุณดอมมินิค”
“เรามาถึงแล้ว กระท่อมบนไหล่เขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมาท์ วอชิงตัน...ตามผมมา”
พูดแล้วเดินลิ่ว ๆ นำหน้าไปยังประตูเครื่องบิน คำพูดที่ทั้งห้วนสั้นและแววตาที่มองมาทำให้รสิการู้สึกว่าดอมมินิคช่างไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย หรือว่านี่คือนิสัยบุตรชายคนเดียวของผู้มีพระคุณ เธอทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการที่ต้องเดินตามเขาลงจากเครื่องบินเล็กส่วนตัวและในทันทีที่เธอก้าวลงจากบันไดไม่ทันที่เท้าจะเหยียบลงบนพื้นด้วยซ้ำ หญิงสาวก็ต้องอ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นภูมิทัศน์โดยรอบของสถานที่ซึ่งเป็นที่พำนักของประธานคนใหม่แห่งไทเลอร์ พาวเวอร์ กรุ๊ป