หลังจากเพชรนิลจัดการอาหารจนเกลี้ยงจานแล้ว หนูจ๋าก็ลุกขึ้นเอาจานไปล้างที่ซิงค์ พร้อมกับล้างอุปกรณ์อื่นที่เธอนำออกมาใช้ ทั้งเก็บบรรดากระปุกและขวดเครื่องปรุงต่างๆเข้าที่ เพชรนิลยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เขามองแม่ครัวคนสวยหยิบจับโน่นนี่เก็บอย่างคล่องแคล่ว ทว่าเมื่อเธอเปิดตู้ที่อยู่เหนือศีรษะเพื่อจะเอาประปุกอะไรสักอย่างเก็บ ด้วยความที่เธอตัวเล็ก ทำให้ต้องเขย่งเท้าดูน่าหวาดเสียวว่ากระปุกจะหล่นใส่หน้า เขาจึงรีบลุกเดินไปยืนซ้อนข้างหลัง แล้วแย่งนำไปวางบนชั้นเสียเอง
หนูจ๋าตกใจที่อยู่ดีๆคนตัวโตก็เดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวรีบหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับเขาอย่างลืมตัว ด้วยความที่ยืนแนบชิดกัน ใบหน้าของเธอจึงซุกไปกับแผ่นอกกว้าง และเพราะเขาแกะกระดุมเสื้อออกด้วย ปากจิ้มลิ้มและจมูกน้อยๆของเธอจึงจิ้มอยู่กับกล้ามเนื้อแผงอกของเขาเต็มรัก หนูจ๋ารีบผงะหน้าออกด้วยความตกใจ แต่คนไม่ตกใจแถมยังตั้งใจให้มันเป็นเช่นนั้นกลับตีหน้ามึนยืนนิ่งอยู่กับที่ จนสาวเจ้าต้องยกมือขึ้นดันเขาออกห่าง และเบี่ยงหน้าหนีเสียเอง
“เอ่อ…พี่กระต่ายถอยออกไปหน่อยสิคะ”
“อะไรกัน พี่อุตส่าห์ช่วยเก็บของ คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี แถมยังผลักไสไล่ส่งอย่างกับพี่เป็นยักษ์เป็นมาร”
คนไร้เดียงสา ไม่ทันคารมและความเจ้าเล่ห์ของเสือร้ายในคราบกระต่ายน้อย รีบเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วเอ่ยคำขอบคุณตะกุกตะกัก
“ขะ…ขอบคุณค่ะ”
แต่พอได้รับคำขอบคุณแล้วกระต่ายน้อยกลับไม่พอใจแค่นั้น เขาค้ำสองมือกับขอบเคาน์เตอร์ด้านหลังของหนูจ๋า กักกันเธอไว้ในวงแขน ตาคมมองดวงหน้าน่ารักที่ตื่นตระหนกน้อยๆด้วยความเอ็นดู หนูจ๋าช้อนสายตาขึ้นสบตาเขา ดวงตากวางน้อยตื่นตระหนก เธอหายใจไม่ทั่วท้องและไม่กล้าขยับ เพราะกลัวว่า หากขยับแล้ว ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งจะไปโดนเขา
“เอ่อ…หนูขอบคุณแล้ว พี่กระต่ายขยับออกไปสิคะ”
หนูจ๋าไม่ชอบความรู้สึกนี้ ความรู้สึกวูบวาบ หัวใจก็เต้นแรงทั้งยังหวั่นไหวแปลกๆเมื่อเขาอยู่ชิดใกล้ เขาหน้าตาดี เขาหล่อเหลา เขาสมบูรณ์แบบ และที่สำคัญเหมือนเขามีมนตร์เสน่ห์สะกดให้เธอสยบยอมยืนนิ่งไม่กล้าหนี คนที่ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นเลยนอกจากคนในครอบครัวจึงทำตัวไม่ถูก ทั้งเขินอาย ทั้งประหม่า มือไม้ก็ไม่รู้จะเอาวางไว้ตรงไหนแล้ว
“พี่กระต่ายอย่าแกล้งหนูแบบนี้สิคะ”
เมื่อไม่รู้ว่าจะเอาตัวออกจากการกักกันของเขาได้อย่างไร หนูจ๋าก็โอดครวญ แล้วก้มหน้าหนีสายตาคม เธอไม่อยากสบสายตากับเขา มันขัดเขินไปหมด
“แกล้งอะไรกัน พี่กำลังจะช่วยหนูต่างหาก มา…พี่ช่วยถอดผ้ากันเปื้อนให้”
เพชรนิลเลื่อนสองมือแตะลงเหนือสะโพกด้านหลังของหญิงสาว เขาขยับตัวประชิดจนแทบแนบสนิท หนูจ๋าหลับตาแน่น กลั้นหายใจ ไม่กล้ากระดุกกระดิก หญิงสาวยืนนิ่ง รอให้เขาแกะปมผ้ากันเปื้อนให้ด้วยหัวใจเต้นระทึก กระทั่งเขาแกะปมออก แล้วดึงสายคล้องออกทางศีรษะให้เรียบร้อย เธอจึงลืมตาขึ้น เงยหน้ามองสบตาเขาที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
หนูจ๋าเอ่ยคำขอบคุณด้วยเสียงสั่นเบาหวิว เธอรู้สึกคล้ายๆกับว่ากำลังจะเป็นลม หายใจติดขัด วูบๆไหวๆ ใบหน้าสาวแดงก่ำ
เพชรนิลอยากจะดึงคนตรงหน้ามากอดแล้วฟัดแรงๆ เธอสวย เธอหวาน เธอน่ารัก ไม่ว่าเธอจะทำสีหน้าแววตาอย่างไร ก็น่ารักน่าใคร่ น่าปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าเขาก็ต้องอดทนอดกลั้น ตั้งสติเตือนตัวเองว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น อย่าทำบาปด้วยการหลอกเด็กไร้เดียงสา
“น่ารักแบบนี้ ให้ทิปกี่บาทดีนะ” แม้จะเตือนตัวเองว่าอย่าหลอกเด็ก แต่เขาก็อดหยอดนิดหยอดหน่อยไม่ได้ตามประสาเสือ
“เอ่อ…แล้วแต่พี่กระต่ายสิคะ”
“ไม่ให้ดีกว่า”
คนที่เพิ่งดีใจเพราะเขาบอกว่าจะให้ทิปหน้ามุ่ยลงทันที
“หลอกให้มีความหวัง แล้วก็หันหลังให้แบบนี้ ใจร้ายมากๆค่ะ”
หนูจ๋าว่าแล้วเบี่ยงตัวออกมายืนให้ห่างเขาในระยะที่เธอคิดว่าปลอดภัย
“แล้วอยากได้เท่าไรล่ะ” เพชรนิลเอ่ยถาม ก้าวเท้าตามไปประชิด คนที่ระวังตัวอยู่แล้วถอยหนีไปอีกหลายก้าว จนหลังไปชนกับตู้เย็นหลังใหญ่ หมดทางหนี
เพชรนิลยิ้มเอ็นดูคนขี้ตื่น เขาก้าวตามติดไป แล้วยกมือข้างหนึ่งวางบนประตูตู้เย็นเหนือศีรษะเธอ เขาโน้มใบหน้าลงใกล้จนจมูกโด่งแทบชนแก้มเนียน คนหมดทางหนีหลับตาปี๋ หดคอ ก้มหน้า ใจเต้นแรง
“พี่กระต่าย! อย่าทำอะไรหนูนะ” หนูจ๋าพูดทั้งที่ยังหลับตา หญิงสาวยกสองมือขึ้นมายันแผ่นอกกำยำด้วย ทว่าเพียงแค่มือนุ่มสัมผัสกับเนื้อแท้ของชาย เธอก็รีบลืมตา เงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาตื่น สลับกับการก้มลงพื้นที่ที่มือของเธอแตะอยู่
“เอ่อ…ขะ ขอโทษค่ะ” หนูจ๋ารีบชักมือกลับมาประสานไว้แนบอกตัวเอง หญิงสาวมองเขาเลิ่กลั่ก เธอกลัวว่าเขาจะไม่พอใจที่เธอแตะต้องเนื้อตัวของเขา กลัวเขาหาว่าเธอแต๊ะอั๋ง
“พี่ยังไม่ทันทำอะไรเลย หนูจ๋าเป็นอะไรเนี่ยตัวสั่นเชียว” คนที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอตื่นกลัวตัวเองถามยิ้มๆ
“กะ…ก็หนู แตะเนื้อต้องตัวพี่กระต่ายโดยที่พี่ไม่เต็มใจ”
เมื่อได้ยินคำตอบคิ้วเข้มก็เลิกสูง เพชรนิลยิ้มกรุ้มกริ่ม มองคนเขินจนหน้าแดงไปหมดแล้วด้วยความเอ็นดู ยิ่งเธอเขิน ยิ่งเธออาย ยิ่งเธอตื่นตระหนก เขาก็ยิ่งรู้สึกดี๊ด๊าอยากจะแกล้งเธอให้มากกว่านี้ แต่ก็กลัวว่าวันพรุ่งนี้เธอจะไม่ยอมมาทำกับข้าวให้เขากินอีก
“พี่ไม่ได้ว่าอะไร จับได้ พี่ไม่ถือ อะ...พี่ให้จับอีก” กระต่ายน้อยใจป้ำจับมือสาวดึงมาวางแหมะบนอกตัวเอง
“ไม่เอาค่ะ” หนูจ๋าพยายามดึงมือที่ถูกเขากดไว้กับอกแน่นๆ กล้ามเป็นมัดๆออกมา ทว่าแรงน้อยนิดอย่างเธอหรือจะสู้แรงเขาได้ คนไม่อยากแตะต้องนายจ้างเงยมองเขาด้วยใบหน้าคล้ายจะร้องไห้