เพชรนิลรอกระทั่งเธอทำอาหารในกระทะเสร็จ แล้วตักใส่จานที่เตรียมไว้ข้างๆ เธอขยับตัวนำกระทะไปวางในซิงค์แล้วยกจานขึ้น ก่อนจะหมุนตัวกลับมา เธอตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเขายืนกอดอกพิงกรอบประตูมองอยู่
“พี่กระต่าย! มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
หนูจ๋าถามแล้วยิ้มกว้างสดใสให้นายจ้าง ก่อนนำจานอาหารไปวางลงบนโต๊ะ
“ในตู้เย็นไม่ค่อยมีของสดเลยค่ะ หนูเลยทำอะไรง่ายๆ เท่าที่ของสดในตู้เย็นพอจะทำได้ ไม่รู้ว่าพี่กระต่ายจะกินได้ไหม วันนี้คงทำได้แค่อาหารจานเดียวนะคะ วันหลังหนูจะแวะซื้อของสดเข้ามาก่อน จะได้ทำหลายๆอย่าง แต่ถึงจะเป็นอาหารจานเดียว แต่รับรองว่าสารอาหารครบถ้วนแน่นอนค่ะ”
หนูจ๋าพูดแล้วยิ้มหวานเอาใจ ใบหน้าสวยกระจ่างใสสะกดให้คนที่ยืนมองหน้าสาวอยู่หัวใจพองโต พลอยยิ้มไปกับเธอด้วย ชอบเหลือเกินเขาชอบรอยยิ้มของเธอเหลือเกิน
“เอ่อ…พี่กระต่ายจะทานเลยไหมคะ”
เมื่อเขาเอาแต่จ้องหน้าเธอแล้วก็ยิ้มอยู่ได้ หนูจ๋าจึงเอ่ยถาม แล้วยิ้มแหยๆ เธอกลัวเขาไม่พอใจอาหารมื้อแรกที่เธอทำให้กิน กลัวเขาจะไม่ให้ค่าแรง แต่เมื่อถามแล้วเขาก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ เธอจึงนิ่วหน้าด้วยความสงสัย นี่เขามีสติอยู่กับเนื้อกับตัวไหมนะ
“พี่กระต่ายคะ พี่กระต่าย!” หนูจ๋ายกสองมือขึ้นโบกไปมา
คนเหม่อลอยเพราะใบหน้าหวานซึ้งตรึงใจสะดุ้งน้อยๆ เพชรนิลกระแอมกระไอ
“กินครับ กิน” เพชรนิลตอบแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ แต่เมื่อเขาสังเกตว่ามีจานอาหารแค่จานเดียวจึงเงยหน้าขึ้นแล้วถามเธอว่า
“หนูจ๋าไม่กินกับพี่เหรอครับ”
“วันนี้หนูเรียนหนัก พอเลิกเรียนแล้วหิวจัด เลยแวะร้านสะดวกซื้อหาอะไรกิน หนูเติมพลังมาเรียบร้อยแล้วค่ะ”
เพชรนิลทำหน้าไม่พอใจ หน้าดุๆของเขาทำให้หญิงสาวหน้าเสีย เธอนึกว่าเขาไม่พอใจอาหารที่เธอทำ
“เอ่อ… พี่กระต่ายไม่ชอบกินผัดสปาเกตตีหรือคะ”
หนูจ๋าเอ่ยถามด้วยเสียงเบาหวิวอย่างคนไม่มั่นใจ
“พี่กินได้ทุกอย่างนั่นแหละ”
เพชรนิลว่าแล้วก้มมองอาหารที่เธอทำ เขาถอนหายใจแล้วเงยหน้าสบตาเธอ ใบหน้าเหงาหงอยและดวงตาผิดหวังของเขาทำให้หนูจ๋ายิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่
“เอ่อ… หนูทำอะไรให้พี่กระต่ายไม่พอใจหรือเปล่าคะ”
“กินข้าวคนเดียวมันไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่หรอกเนอะ มันเหงาๆยังไงก็ไม่รู้”
คำตอบของเขาทำให้หนูจ๋ากะพริบตาปริบๆ เธอเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการสื่อ แต่ที่ไม่เข้าใจคือการเป็นแม่บ้านนี่ต้องทั้งทำกับข้าว และต้องกินข้าวเป็นเพื่อนนายจ้างด้วยเหรอ
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าหนูจ๋ากินมาแล้วพี่ก็ไม่อยากบังคับให้มานั่งกินด้วย พี่แค่รู้สึกว่า ถ้ามีใครสักคนมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน มันคงจะทำให้คนที่เหนื่อยมาจากทำงานหนักเอนจอยกับการกิน และคงจะกินข้าวได้มากขึ้นเท่านั้นเอง พี่นี่น่าสงสารเนอะ ทำงานมาเหนื่อยๆ กลับถึงห้องก็ต้องมานั่งกินข้าวคนเดียว เหงาจัง”
คนไม่ผิดแต่กลับรู้สึกผิด เหลียวซ้ายแลขวา กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดีให้เขารู้สึกดีขึ้น เธออยากให้เขากินข้าวได้เยอะๆ เพราะเธอคิดว่าการทำงานหนักและเครียด เป็นสาเหตุทำให้รู้สึกไม่อยากกินอาหาร แต่การกินอาหารน้อยทั้งที่ใช้ร่างกายและสมองทำงานหนักก็ไม่เป็นผลดีนัก
“เอาอย่างนี้นะคะ เดี๋ยววันนี้หนูจะนั่งเป็นเพื่อนพี่กระต่าย พี่กระต่ายอยากพูดอะไรก็พูดมาเลยค่ะ หนูจะคุยเป็นเพื่อน วันนี้หนูกินไม่ไหวจริงๆค่ะ อิ่มมากๆ แต่ครั้งต่อไป หนูสัญญาว่าจะรอกินข้าวพร้อมพี่กระต่ายทุกครั้งที่มาทำอาหารให้กินนะคะ แบบนี้พี่กระต่ายโอเคไหมคะ”
กระต่ายน้อยผู้น่าสงสาร ทำสีหน้าครุ่นคิด อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ ยอมรับในข้อเสนอของเธอ เท่านั้นหนูจ๋าก็ยิ้มหวานสดใส หญิงสาวนั่งลงตรงกันข้ามกับเขา ยกสองมือขึ้นมาประสานเท้าคางตัวเอง แล้วพยักหน้าส่งสัญญาณให้เขา
“งั้นตอนนี้พี่กระต่ายก็กินได้แล้วค่ะ หนูทำสุดฝีมือเลยนะ”
กระต่ายน้อยยิ้มให้แม่ครัว เขาเริ่มลงมือรับประทานอาหารที่เธอทำ แต่เพียงตักเข้าปากคำแรก คิ้วเข้มก็ขมวดมุ่น แถมเขายังทำท่าเคี้ยวละเลียดรสชาติช้าๆ ทำให้แม่ครัวคนสวยจ้องมองใบหน้าเขาอย่างลุ้นระทึก พอเขากลืนอาหารคำแรกลงท้อง เธอก็รีบถามด้วยความอยากรู้เพราะเกรงว่ารสชาติจะไม่ถูกปากเขา
“อร่อยไหมคะ มีอะไรต้องปรับปรุงแก้ไขไหม พี่กระต่ายบอกหนูมาเลยค่ะ หนูจะได้ทำให้ถูกใจ”
กระต่ายน้อยมองคนที่จ้องเขาตาแป๋วตรงหน้า หน้าสวยๆแก้มใสๆน่าแกล้งชะมัด
“อืม… อร่อยดีไหมนะ”
กระต่ายน้อยว่าแล้วจ้องมองหน้าแม่ครัวยิ้มๆ คนรอลุ้นคำตอบหน้าเสียกลัวว่าเขาจะไม่ชอบรสชาติที่เธอทำ
“ต้องไม่อร่อยแน่ๆเลย พี่กระต่ายถึงทำหน้าแบบนั้น”
หนูจ๋าว่าเสียงเศร้าน่าสงสาร คนแกล้งเด็กเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ เพชรนิลค่อยเผยยิ้มออกมา
“อร่อยครับ อร่อยมากๆ แบบนี้สงสัยต้องให้ทิปแม่ครัวซะแล้ว”
“พี่กระต่ายแกล้งหนู”
แม่ครัวทำแก้มป่อง มองหน้าคนขี้แกล้งแล้วสะบัดค้อนวงน้อยๆให้ ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูไม่มากไม่น้อยเกินไปของเธอทำให้นายจ้างตาพร่างพราย คนอะไร จะโกรธ จะงอน จะยิ้ม ก็สวย น่ารัก ดูดีไปหมด
“ขอโทษครับ คราวหลังจะไม่แกล้งแล้ว อย่างอนพี่เลย พี่จะไถ่โทษด้วยกันกินสปาเกตตีของหนูจ๋าให้เกลี้ยงจานเลยนะครับ”
หนูจ๋าทำปากยื่นน่ารัก จิกตามองเขางอนๆ
“ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ รีบกินได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน หนูนั่งเป็นเพื่อนนะคะ”
เป็นครั้งแรกกับการกินอาหารที่คอนโด ที่ทำให้เพชรนิลรู้สึกถึงคำว่าอร่อย โดยไม่ต้องปั้นแต่ง ไม่ต้องมีใครมาป้อนออดอ้อนเอาใจ แค่เธอนั่งอยู่ตรงหน้า ยิ้มดีใจและออกอาการลุ้นทุกครั้งที่เขาตักอาหารเข้าปาก แค่นี้ก็ทำให้เขาจะกินอาหารจนกินเกลี้ยงจานได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว