“แล้วหนูเคยทำงานบ้านแบบนี้มาก่อนไหม”
“เอ่อ...หนูเคยทำที่บ้านแล้วก็ที่ห้องพักค่ะ แต่ไม่เคยรับจ้างทำให้คนอื่น คุณเป็นคนแรกของหนู”
ไอ้ประโยค คุณเป็นคนแรกของหนู ที่เธอพูดออกมาทำเอาคนคิดหื่นเสียววาบไปทั้งช่องท้อง เพชรนิลจึงต้องกระแอมกระไอตั้งสติครู่หนึ่ง
“แล้วงานอย่างอื่นล่ะ เคยทำไหม งานง่ายๆที่ได้เงินดีๆน่ะ” เพชรนิลตะล่อมถาม เขาหรี่ตามองเธออย่างจับผิด
“อืมมม...” หนูจ๋าขมวดคิ้วทำท่าครุ่นคิด งานอย่างอื่นเหรอ งานน่ะเธอเคยทำ ทำทุกอย่างในไร่ช่วยพ่อแม่ ทั้งงานที่รีสอร์ตของพ่อจ๋าอีก เธอก็ทำหลายอย่างนะ แต่ไม่ได้เงิน เพราะทำช่วยครอบครัว แต่ล่าสุด เธอเพิ่งได้ทำงานร่วมกับคนอื่นที่โรงแรมอาเหนือ แบบนั้นจะเรียกว่าทำงานง่ายๆเงินดีไหม เพราะเธอทำไม่ถึงชั่วโมงก็ถูกอาเหนือลากไปหาป้าปรายแล้ว
“คือ...หนูเคยทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่โรงแรมค่ะ แต่งานไม่ง่ายนะคะ เงินก็ไม่ได้เยอะด้วย” หนูจ๋าตอบแล้วยิ้มเจื่อน
เพชรนิลผู้นั่งลุ้นคำตอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เขารีบประมวลผลสิ่งที่เธอบอกมาทั้งหมด แล้วก็สรุปได้ว่า เธอโดนเพื่อนหลอกมาจริงๆ
“แล้วเก็บเงินพอหรือยัง พี่หมายถึงถ้ารวมค่าแรงที่พี่จะให้วันนี้ มันพอซื้อของขวัญให้คุณตาของหนูหรือยัง”
“เพื่อนหนูบอกว่าจะได้ค่าแรงสามพัน แต่ถ้าคุณเพชรนิลพอใจผลงานก็อาจจะได้ทิปด้วย” หนูจ๋าไม่รู้ว่าเขาจะให้ทิปเธอไหม หรือจะได้แค่สามพัน แต่ถึงอย่างไรก็คงยังไม่พออยู่ดี เธอตั้งใจจะเก็บเงินซื้อรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ให้คุณตา มันมีราคาคู่ละสองหมื่นกว่าบาท เธอคงต้องทำงานอีกหลายงานเลยล่ะ
“ครั้งนี้พี่ให้ค่าแรงสามพัน”
“ไม่ให้ทิปหรือคะ” หนูจ๋าถามกลับทันที เธออุตส่าห์ทำงานสุดฝีมือ เขาก็น่าจะให้ทิปเธอสักหน่อย
“เพิ่งมาทำงานครั้งแรก แถมยังทำร้ายนายจ้างด้วย หนูคิดว่าพี่ควรให้ทิปหนูเหรอ” เพชรนิลถามแล้วจ้องหน้าเธอตรงๆ หนูจ๋าจึงได้แต่ยิ้มแหยเขา ยอมรับสภาพว่าที่ไม่ได้ทิปเพราะทำร้ายนายจ้าง
“งั้นไม่เป็นไรค่ะ สามพันก็สามพัน”
“แล้วพอหรือเปล่า ขาดอีกเยอะไหม”
“ขาดอีกเกือบสองหมื่นบาทค่ะ หนูคงต้องหางานอื่นทำเพิ่ม”
รอยยิ้มสมใจแกมเจ้าเล่ห์ผุดวาบขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลา เพชรนิลกระแอมเบาๆ แล้วมองหน้าหญิงสาว ก่อนพูดด้วยน้ำสียงจริงจัง
“งั้นก็มาทำงานให้พี่ต่อ ไม่ต้องไปทำที่อื่น พี่จ้างรายวัน วันละหนึ่งพัน”
“คุณจะให้หนูมาทำอะไรคะ” หนูจ๋าถามอย่างสนอกสนใจ
“มาทำกับข้าวให้พี่กิน ทำเป็นไหม”
“ได้ค่ะ หนูทำเป็นค่ะ เอ่อ...แล้วงานทำความสะอาดล่ะคะให้หนูทำอีกวันไหนคะ”
“ไม่ต้อง ต่อไปนี้ไม่ต้องทำความสะอาดห้อง หนูมาทำกับข้าวมื้อค่ำให้พี่กินอย่างเดียวก็พอ”
“ต้องมาทุกวันไหมคะ”
“พี่จะเป็นคนไลน์ไปบอกเองว่าจะให้มาวันไหน เพราะบางทีพี่ก็ไม่ได้กลับมานอนที่นี่ หนูเอาเบอร์มา สแกนคิวอาร์โค้ดไลน์ให้พี่ด้วย”
เสือร้ายในคราบกระต่ายน้อยยื่นโทรศัพท์ให้หญิงสาวจัดการตามที่เขาบอก หนูจ๋าแอบลังเล แต่เพราะอยากได้ตังค์ และดูหน้าตาท่าทางเขาก็ไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร เธอจึงยื่นมือไปรับโทรศัพท์มาจากเขา แล้วจัดการทำตามที่เขาสั่ง
“เริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ วันต่อไปค่อยว่ากันอีกที นี่ค่าแรงสามพันบาทของหนู” เพชรนิลหยิบธนบัตรออกมาจากกระเป๋าเงินยื่นให้หญิงสาว
หนูจ๋าประนมมือไหว้ก่อนยื่นมือไปรับมาถือไว้ เธอยิ้มสดใสดีใจกับเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตน
เพชรนิลแทบหยุดหายใจกับรอยยิ้มน่ารักของเธอ เธอสวย หวาน และไร้เดียงสาจนเขากลัวว่าจะไปตกหลุมพรางให้ใครเขาหลอกเอาได้อีก ดังนั้น กระต่ายน้อยผู้ผดุงคุณธรรมจึงต้องเก็บเธอไว้ใกล้ๆ ให้เธอทำงานกับเขานี่แหละดีที่สุดแล้ว เธอจะได้ปลอดภัยจากคนอื่น
“อ้อ! ห้ามไปรับงานคนอื่นซ้อนนะ ไม่งั้นพี่เลิกจ้าง”
“ค่ะ ไม่รับงานคนอื่นแน่นอน ขอบคุณมากนะคะคุณเพชรนิล”
“ต่อไปเรียกพี่ว่า พี่กระต่าย ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มแล้ว” เพชรนิลสั่ง เขาใช้สายตาคมจ้องมองเธอ
“ได้ค่ะ...พี่กระต่าย”
ไม่บ่อยนักที่คนบ้างานอย่างเพชรนิล จะออกจากที่ทำงานตอนตะวันยังไม่ทันตกดิน ทั้งพนักงานทั้งผู้จัดการแผนกต่างๆต่างพากันมองเจ้านายเดินออกจากออฟฟิศด้วยใบหน้างุนงง เพราะเจ้านายไม่ได้เดินออกจากออฟฟิศด้วยใบหน้าเคร่งขรึมอย่างที่พวกเขาเคยเห็นเป็นประจำ แต่เจ้านายของพวกเขาเดินออกจากออฟฟิศด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังทักทายลูกน้องคนโน้นคนนี้อย่างคนอารมณ์ดีสุดๆ มีเสียงฮือฮาตั้งข้อสงสัยว่าวันนี้ฝนอาจจะตกหนัก ให้ทุกคนรีบเคลียร์งานจะได้รีบกลับบ้าน เพราะไม่อย่างนั้นอาจเจอสถานการณ์น้ำท่วม รถติด พายุเข้า กระทั่งยามที่ดูแลที่จอดรถ ยังได้รับรอยยิ้มที่เผื่อแผ่มาถึงแบบงงๆ
“ขอบใจมาก อย่าลืมพักกินข้าวเย็นล่ะ รู้ไหมว่ามื้อเย็นสำคัญมาก เป็นห่วงนะ”
“เอ่อ…ครับ”
เจ้าของบริษัทขับรถออกจากตึกไปแล้ว ทว่ายามที่ได้รับรอยยิ้มพิมพ์ใจและถ้อยคำเป็นห่วงจากเจ้านาย ยังยืนลูบอกทำหน้าอกสั่นขวัญหาย ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเห็นคุณเพชรนิลอารมณ์ดีขนาดนี้ ปกติเห็นแต่หน้าโหดนิ่งๆ วันนี้มามาดมุ้งมิ้ง ยามเลยตกใจ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง แล้วได้ยินเสียงกระทะปะทะตะหลิวดังโช้งเช้ง ทั้งได้กลิ่นหอมของอาหาร ทำให้คนที่หิ้วท้องรอมากินข้าวที่ห้องถึงกับยิ้มกว้าง เพชรนิลวางกระเป๋าเอกสารและเสื้อสูทลงบนโซฟา เขาแกะกระดุมแขนเสื้อ พับแขนขึ้นทั้งสองข้าง แล้วแกะกระดุมเสื้อลงสองเม็ดเปิดเผยแผงออกว้างหน้าซบ ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องครัวเขาก็พบว่า แม่ครัวแสนน่ารักของเขากำลังยืนหันหน้าเข้าเตาและผัดอะไรบางอย่างอยู่ สะโพกกลมมน ส่ายสะบัดน้อยๆยามเธอขยับกาย คนหื่นได้แต่ถอนหายใจหนัก เตือนตัวเองว่าเธอมาที่นี่ในฐานะแม่ครัว ไม่ใช่แม่ดาวยั่วเหมือนคนอื่น และถ้าไม่อยากให้ไก่ตื่น อย่าทำอะไรให้เธอตระหนกตกใจ