ตอนที่ 11

1142 คำ
“คืนนี้พี่ไม่มีอารมณ์แล้ว หนูกลับไปเถอะ” “จะตรวจแค่นี้หรือคะ” หนูจ๋าถามอย่างไม่มั่นใจ เขาไม่พอใจเธอหรือเปล่า ตรวจงานแค่นี้ก็จะไล่เธอกลับแล้ว “แค่นี้แหละ ไปๆ กลับไปเถอะ” เพชรนิลว่าแล้วหันหลังเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม หนูจ๋าเดินตามมายืนอยู่ห่างๆ อยู่ในระยะที่เธอคิดว่าพองาม หญิงสาวยืนเอามือประสานไว้ด้านหน้า รอคอยเงินค่าจ้างจากเขา เพชรนิลนั่งเอนหลัง พิงศีรษะกับพนักโซฟา เขาหลับตาและจับผ้าห่อน้ำแข็งประคบรอยปูดอยู่ ชายหนุ่มไม่สนใจสาวแล้ว และเขาคิดว่าเธอคงจะเดินออกจากห้องไปเอง ทว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขาก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน “ทำไมยังอยู่” เขาถามเสียงเข้ม “ก็...เอ่อ...คุณเพชรนิลยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างทำความสะอาดห้องให้หนูเลย” คนที่งงๆมึนๆอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ยิ่งงงเป็นไก่ตาแตกซ้ำอีกรอบ ...เงินค่าทำความสะอาดห้องอย่างนั้นหรือ เดี๋ยวนี้วงการหาทุนการศึกษาของสาวมหา’ลัยเขาใช้ศัพท์ใหม่กันแบบนี้เหรอวะ “พี่ยังไม่ได้ใช้บริการอะไรหนูเลยนะ นั่งเจ็บตัวอยู่เนี่ย” เพชรนิลว่าแล้วชี้ที่หน้าผากของตน หนูจ๋ายืนนิ่ง จ้องหน้าคนที่หาว่าไม่ได้ใช้บริการอะไรจากตน ใบหน้าหวานสดใสค่อยๆเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง ดวงตาคู่งามฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน ริมฝีปากอิ่มสวยยื่นออกมาน้อยๆ เธอหายใจแรงขึ้นอย่างคนที่กำลังรู้สึกโกรธ “คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงกันคะ หนูทำความสะอาดบ้านให้คุณจนสะอาดทั้งหมดแล้ว คุณจะมาเบี้ยวไม่จ่ายเงินแบบนี้ไม่ได้นะคะ เห็นว่าหนูเป็นเด็กเลยคิดจะโกงเหรอ หนูไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ หนูจะไปแจ้งความ” หนูจ๋าว่าแล้วคว้าเอากระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนโต๊ะ หมุนตัวก้าวฉับๆตรงไปยังประตูทางออก พอได้ยินว่าเธอจะไปแจ้งความ คนที่รับอุปการะน้องนักศึกษาไว้หลายคนถึงกับเต้นผาง เพชรนิลทิ้งผ้าห่อน้ำแข็งลงบนโต๊ะ รีบลุกขึ้นเพื่อจะวิ่งตามไปตะครุบคนที่กล่าวหาว่าเขาโกง ทว่า... “โอ๊ย!” ใบหน้าหล่อเหลาเหยเก ให้ตายสิ คราวนี้เขาไม่ได้ล้มหัวกระแทกโต๊ะ แต่นิ้วก้อยเท้าขวาดันไปเตะขาโต๊ะ เจ็บตัวอีกจนได้ เพชรนิลจุปากด้วยความโมโห เขารีบวิ่งกระย่องกระแย่งตามไปคว้าตัวคนที่ประกาศกร้าวว่าจะไปแจ้งความได้ทันก่อนที่เธอจะถึงประตู ชายหนุ่มรวบกอดเธอจากด้านหลัง คนถูกกอดใจหายวาบ พยายามดิ้นรนพาตัวเองหนีจากวงแขนแข็งแรง “ปล่อยนะ! ปล่อยสิ! คนขี้โกง เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า กล้าโกงเด็กได้ยังไง นี่ๆๆๆ” หนูจ๋าหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนตัวสูง หญิงสาวใช้กระเป๋าสะพายฟาดใส่เขาไม่ยั้ง “โอ๊ย! นี่เธอ! โอ๊ย!” เพชรนิลเบี่ยงหน้าหลบ แต่ไม่ยอมคลายวงแขนออก เขาชักหมดน้ำอดน้ำทนกับยายผู้หญิงอาถรรพ์คนนี้เสียแล้ว ชายหนุ่มจับแขนสองข้างของเธอแนบลำตัวแล้วรวบกอดไว้แน่นหนาจนเธอกระดุกกระดิกตัวไม่ได้ จำต้องยืนนิ่งตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนเขา สองสายตาสบประสานในระยะใกล้ คนที่ดิ้นรนหนีหอบหายใจจนตัวโยนเพราะเหนื่อย อีกคนก็เจ็บหัวเจ็บหน้าไปหมด เพราะถูกกระเป๋าฟาดไปหลายที ต่างคนต่างจ้องมองหน้ากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “คนขี้โกง! ปล่อยหนูนะ” หนูจ๋าเงยหน้าตวาดแหว นาทีนี้โกรธมากกว่ากลัวคนตัวโตๆตรงหน้าเสียอีก โกรธจนลืมไปว่า เนื้อตัวด้านหน้าของเธอแนบไปกับเรือนร่างแข็งแกร่งกำยำซ่อนรูปของชายชาตรี “พี่ไปโกงอะไรหนู หา! ไหนบอกมาซิ!” เมื่อเธอตวาดใส่หน้าเขา เพชรนิลก็ตวาดกลับไปเหมือนกัน เขาปั้นหน้าดุใส่หญิงสาวด้วยความโมโห เขายังไม่ทันทำอะไรเธอเลย เขาไม่ได้โกง เด็กนี่ต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ คนที่ไม่เคยเจอความเกรี้ยวกราดของผู้ชายถึงกับหน้าเสีย เธออยู่ท่ามกลางผู้ชายตัวโตทั้งคุณพ่อ ทั้งน้องชายแฝดสี่คน และคุณตา แต่ไม่เคยมีใครขึ้นเสียงกับเธอแบบนี้ เธอเป็นนางฟ้าของทุกคนในบ้าน ไม่ว่าใครจะพูดจากระโชกโฮกฮากใส่กันยังไง แต่เมื่อหันมาพูดคุยกับเธอ ทุกคนจะใช้น้ำเสียงอ่อนโยนละมุนละม่อมและเอาใจอย่างที่สุด เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าตวาดใส่หน้าเธอแบบนี้ หนูจ๋ามองสบตาคนหน้าดุด้วยดวงตาตื่นตระหนก ใบหน้าสวยหวานเริ่มบิดเบ้ เธอเริ่มสะอึกสะอื้นเบาๆ ครู่เดียวน้ำตาก็ร่วงพรู “ฮึกๆ ก็...ก็หนูมารับจ้างทำความสะอาดห้องให้คุณ หนูทั้งกวาด ทะ...ทั้งถู ทำเสร็จทุกห้องแล้ว ฮึกๆ ละ...แล้วทำไมคุณถึงจะไม่จ่ายค่าแรงให้หนูล่ะ ทะ...ทำไมต้องโกงหนูด้วย นะ...หนูจะเอาเงินไปซื้อของขวัญให้ตาจ๋า คะ...คุณใจร้าย กะ...โกงได้แม้กระทั่งเด็ก ฮึกๆ ฮือ...” หนูจ๋าพูดจบก็ปล่อยโฮออกมาด้วยความอัดอั้น เธอสู้แรงเขาไม่ได้ เธอดิ้นไม่หลุดจากวงแขนที่กักกันเธออยู่ แล้วแถมเขายังถามแบบหน้าด้านๆ ตีความหมายในคำถามได้ว่าเขาไม่ได้โกงเธอ นี่เธออุตส่าห์อดหลับอดนอน โกหกพ่อจ๋าแม่จ๋าแอบมาทำงาน แล้วยังมาโดนโกงอีก มันน่าเจ็บใจที่สุดเลย คนไม่เคยทำผู้หญิงร้องไห้ตกใจทำอะไรไม่ถูก เมื่อคนที่กล่าวหาเขาพูดจบแล้วก็เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น เพชรนิลตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง เขาถอนหายใจเบาๆ คลายอ้อมแขนออก อาจเพราะเขามีน้องสาวถึงสามคนที่ต้องดูแล เขาจึงเข้าใจอารมณ์อ่อนไหวของผู้หญิงเป็นอย่างดี และรู้ว่าควรทำอย่างไรให้เธอหยุดร้องไห้ เพชรนิลลูบหัวลูบหลังปลอบโยนอย่างรู้สึกผิด ก้มลงกระซิบปลอบเสียงนุ่ม “ชู่ว์...ไม่ร้องนะครับ...ถ้าร้องแบบนี้จะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง เงียบก่อนนะครับ” หนูจ๋าซุกหน้าร้องไห้กับอกกว้างอยู่พักหนึ่ง เธอได้ยินถ้อยคำปลุกปลอบ ได้รับสัมผัสอ่อนโยนจากเขา หญิงสาวจึงค่อยสงบลง เสียงร้องไห้โฮหายไป เหลือแค่อาการสะอื้นน้อยๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม