จากคุณหนูลูกนายตำรวจใหญ่ตายแล้วทะลุมิติมาเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวบ้านนอกที่ดันมีสามีร่ำรวยก็คิดว่าจะใช้ชีวิตฉ่ำๆ แต่อุปสรรคใหญ่ดันเป็นพ่อสามีที่ชิงชังสะใภ้บ้านนอกแสนจนเสียได้ แต่ใครแคร์เธอมันตัวแม่!!
หลังจากสามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง เหรินซินก็เริ่มที่จะออกไปเดินเล่นได้ไกลกว่ารอบบ้านที่เป็นเรือนรองที่ตนพักอาศัยมากว่า3เดือนบ้างแล้วที่จริงก็ไม่คิดอยากจะไปไกลแต่คงเพราะหญิงสาวคิดพล็อตนิยายในหัวเพลินไปหน่อยรู้สึกตัวอีกครั้งก็เดินมาจนถึงด้านข้างของบ้านใหญ่เสียแล้ว
"แกเสนอหน้ามาทำไมถึงที่นี่นังแพศยา!"
ยังไม่ทันเลี้ยวกลับเสียงร้องทักของพ่อคุณสามีก็ดังขึ้นเสียก่อน แต่มันไม่ใช่การทักทายอย่างเป็นมิตรนี่สิ หากแต่เป็นการทักทายที่แสนจะเผ็ดร้อนดุดันจนน่าขนหัวลุกเสียนี่กระไร
"สวัสดียามสายค่ะคุณพ่อ"
แต่ถึงอย่างนั้นเหรินซินก็ยังเอ่ยปากทักทายไปด้วยมารยาทอันดีของผู้เยาว์ที่มีต่อผู้มากวัยกว่าไปตามที่ตนเองเคยถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี
"ใครเป็นพ่อของแก ฉันมีลูกชายสามคนกับลูกสะใภ้อีกหนึ่ง ส่วนไม่ใช่!"
หากแต่ผู้มากวัยกว่ากลับตอบกลับมาอย่างไร้มารยาทจนเหรินซินต้องสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เม้มปากเรียวอย่างพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตนเองเอ่ยปากโต้เถียงอีกฝ่ายออกไป ทว่าคิดใหม่อีกรอบเธอไม่เห็นจำเป็นจะต้องอดทนกับผู้ใหญ่เช่นนี้
"อ๋อค่ะ รับทราบอย่างนั้นก็สวัสดีค่ะ ท่านนายพลจ้าว ลาตรงนี้นะคะ"
หญิงสาวแก้คำเรียกอีกฝ่ายเสียใหม่แล้วจึงเอ่ยลาพร้อมกลับเตรียมจะหันไปยังส่วนที่เป็นเขตเรือนของตนเองแทนเพราะไม่อยากปะทะคารมกับบิดาของจ้าวลู่เฉินเพราะอย่างน้อยท่านนายพลจ้าวก็เป็นเจ้าของบ้านที่ตนเองพักอาศัยมาตลอด3เดือน
"หยุดเดี๋ยวนี้นะนังผู้หญิงแพศยา!"
ขวับ!
เหรินซินคิดว่าตนเองมีความอดทนสูงคนหนึ่ง ทว่าบิดาของจ้าวลู่เฉินคนนี้คาดว่าจะดวงซวยที่สุดในรอบปีนี้แล้วเป็นแน่จึงทำให้เธอของขึ้นพร้อมบวกได้แบบนี้
"คุณต้องการอะไรกันแน่คะท่านายพล คุณไม่อยากเห็นหน้าฉันก็จะจากไปด้วยดีแล้ว แต่พอฉันจะเดินจากไปคุณกลับโวยวายเรียกฉันจิกหัวแบบนี้อายุคุณก็ไม่น้อยดูได้จากผมบนศีรษะของคุณนะคะท่านนายพลจ้าว"
"นัง!"
"หุบปาก! ถึงคุณจะอายุคราวพ่อของฉันได้แล้วแต่ไร้มารยาทก็ใช่ว่าฉันจะต้องเกรงใจ"
"แก..."
จ้าวป๋อเหวินโกรธจนหน้าเขียวหากแต่ที่เหนือกว่าความโกรธก็คือความตกใจ เขาไม่เคยคิด ไม่สิ! เขาคงคิดไม่ถึงมากกว่าเพราะในชีวิตผ่านมาครึ่งคนยังไม่เคยพบเคยเห็นหรือเคยเจอเด็กสาวคนหนึ่งใจกล้ามายืนโต้เถียงกับเขาโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนเช่นนี้มาก่อนเลย
"อายุของคุณก็มากจนป่านนี้แล้วนะคะ ไม่เคยเรียนมารยาทหรือคะ? อยากให้เด็กเคารพก็หัดส่องกระจกดูการกระทำของตัวเองด้วยนะคะท่านนายพลจ้าวว่าคุณทำตัวดีพอจะให้เด็กมันเคารพแล้วหรือยัง"
"แก! นังแพศยา!!!"
"โอ้โห...ช่วยด่าอะไรใหม่ๆ และสร้างสวรรคสักหน่อยจะได้ไหมคะ นังแพศยานี่คุณด่าซ้ำซากแล้ว ฉันมันคนบ้านนอก เป็นแม่ค้า เป็นชาวไร่ชาวสวนหน้าเลยหนาค่ะ ไม่เจ็บหรอก"
จ้าวป๋อเหวินเจอคำโต้ตอบของลูกสะใภ้แสนชิงชังเข้าไปก็ยืนนิ่งอึ้ง เหรินซินเลยส่ายศีรษะเพราะเบื่อจะบริหารปากกับพวกเก่งแต่กับผู้หญิงอ่อนแอพอเจอผู้หญิงแบบเธอเข้าไปเลยมีอาการไปต่อไม่ถูกแบบนี้
“หากคิดจะด่าทอคนแบบฉันแนะนำนะคะท่านนายพลจ้าว เหรินซินคนนี้แนะนำจากใจ ว่าหากท่านนายพลจ้าวคิดจะมีเรื่องกับฉันต้องไปฝึกฝนฝีปากมาใหม่ค่ะ”