“ผมต้องขอโทษท่านประธานด้วยครับ ขอโทษจากใจจริงๆเลย”
เจ้าของร่างบางก้มหน้าเปล่งคำขอโทษออกมา เขาทั้งรู้สึกผิดทั้งกลัวจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้า
ลินร่างการสั่นเทา ใบหน้าซีดเผือดคล้ายคนจะเป็นลม
“ผมสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอนครับ”
ลินกล่าวขอโทษผู้เป็นเจ้านายซื้อแล้วซ้ำเล่า
“หึ” ทิวากรเหยียดยิ้มมองลูกนกตัวสั่นตรงหน้าด้วยด้วยสายตาแสนรังเกียจ
“สุดท้ายก็หอบลูกมาเรียกร้องความสนใจหวังจะเกาะผัวเก่ากินอีกสินะ”
คนตัวสูงเค่นหัวเราะ พร้อมเปล่งวาจาดูถูกเหยียดหยามใส่คนร่างเล็ก
อึก
“ไม่ใช่แบบนั้นนะครับคุณทิวา ลินไม่ได้มีความคิดแบบนั้น”
“ลินไม่รู้เลยว่านี่เป็นบริษัทของคุณทิวา ลินเพียงแค่ต้องการหางานทำ มีเงินมาเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแค่นั้น
เอง”
ลินพูดอธิบายให้ผู้เป็นเจ้านายฟัง ตนไม่ได้มีความคิดตามที่เขาพูดมาเลยแม้แต่น้อย
เรื่องระหว่างเราสองคนเขารู้ดีว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ลินรู้ดีกว่าตัวเองเป็นใคร และคุณทิวากรเป็นใคร
“ลืมสัญญาที่ผมให้คุณไปแล้วหรือไง”
“ระหว่างเอาเด็กนั่นออก กับออกไปจากชีวิตผมแล้วหนีไปให้พ้น อย่าให้ผมได้เจอพวกคุณอีก”
ทิวากรจ้องหน้าลินพร้อมเอ่ยเสียงเรียบ
“แต่คุณยังผิดสัญญาทั้งสองข้อ แล้วเลือกที่จะพามันมาจ้องจะเรียกร้องหาความรับผิดชอบอีกงั้นหรอ”
“คิดโง่ไปหน่อยหรือเปล่าลินลดา”
ภายในห้องทำงานสี่เหลี่ยมของผู้บริหารที่มียศเป็นประธานบริษัทผลิตและส่งออกเครื่องยนต์ชื่อดัง พื้นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวนวลที่ผ่านการทำความสะอาดทุกวันถูกขัดจนเงาวับ สะท้อนจนเห็นเจ้าของร่างเล็กที่ยืนก้มหน้าตัวสั่นราวกับลูกนก
ตากลมโตที่เคยฉายแววสดใสบัดนี้กลับหมองหม่นลง เต็มไปขวดมวลน้ำตาที่พร้อมจะร่วงแหมะลงพื้นอยู่ตลอด
ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่แบบนั้นเลยจริง ๆ ลินลดาไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าทิวากรณ์ผู้นี้ทำงานอะไร เขาไม่เคยก้าวก่ายทิวากรเลยสักครั้ง แต่เป็นวันนี้ วันแรกที่เจ้าตัวเล็กได้พบกับผู้เป็นพ่อจริง ๆ ที่เจ้าตัวเคยเอ่ยถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เด็กน้อยที่อยากมีพ่อเหมือนคนอื่น ๆ ที่โรงเรียน และเป็นวันนี้นั่นเอง วันเขาที่ได้รับคำพูดดูถูกเหยียดหยาม กล่าวหาว่าจะมาจับทิวากรเพื่อที่จะสามารถเชิดหน้าชูตาขึ้นได้ ไม่จริงเลย …
“คุณทิวาอยากให้ลินทำอะไร ลินทำได้หมดเลย แต่ลินขออย่างเดียวได้ไหมครับ อย่าไล่ลินออกเลย ฮึก”
“ลินมีตัวเล็กที่ต้องเลี้ยง อะ..อึก มีค่าห้องที่ต้องจ่าย ลำพังลินจบแค่ม.3 ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครอยากรับแล้วครับคุณทิวา”
สองมือสั่นเทายกขึ้นประนมพร้อมนั่งลงในท่าคุกเข่าขอร้องออ้อนวอนผู้เป็นนาย หยาดน้ำตาสีใสเปรอะเปื้อนใบหน้าสวย
“ผมอนุญาตให้คุณเรียกชื่อผมแบบนั้นหรือไง” มีหรือที่พนักงานต่ำต้อยกล้าเรียกเจ้านายด้วยชื่อแบบนี้
“คุณไม่มีสิทธิ์มาขอร้องอ้อนวอนอะไรจากผม ขอไม่ให้ผมไล่ออก ? ขอมากไปหรือเปล่า”
หมดหวัง หมดหวังแล้วจริง ๆ ท่านประธานไล่ลินออกแบบไม่แยแส ลำพังเป็นแค่แม่บ้านทำความสะอาดโรงงานเท่านั้น ไล่ออกคนเดียวก็หาใหม่ได้ในวันเดียว ไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไรกับบริษัทด้วยซ้ำ จบจริง ๆ แลเวลินะลินลดา
“แต่ผมมีข้อเสนอให้คุณ”
เจ้าของใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำหน้าเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นเจ้านายทันที หลังจากที่เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเพื่อนจะยื่นข้อเสนอให้คนตัวเล็ก
“ทะ..ท่านประธานมีข้อเสนออะไรครับ”
ลินรีบลุกขึ้นยืน มือเรียวยกขึ้นมาเช็ดน้ำหน้าที่แก้มนิ่มออกอย่างลวก ๆ
“มาเป็นคนใช้ที่บ้านผมสิ”
“งานสบายกว่าที่โรงงานแน่นอน อ้อ คุณสามารถพาเด็กนั่นมาอยู่ได้ ผมมีห้องสำหรับคนใช้ให้”
ร่างสูงเอนหลังพิงพนักเกากี้ด้วยท่าทางสบาย ๆ แต่กลางตากลับจ้องหน้าลินลดาด้วยสายตารังเกียจเหยียดหยาม
“ให้มาเห็นกับตากันไปเลย จ้องจะเอาลูกมาเรียกร้องความสงสารจากผมมันไม่ง่าย ระหว่างลูกที่เกิดจากนางบำเรอแบบคุณ กับลูกที่เกิดจากความรักความอบอุ่นของผมกับภรรยา ดูซิว่าคุณจะทนได้แค่ไหนกัน”
น้ำตาที่เอ่อคลอหยดร่วงลงมาเประหน้าสวยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำไมเขาต้องทนดูถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้ ทิวากรคนที่เขารักหายไปไหน ทำไมคนคนนี้ถึงได้ใจร้ายกับลินและลูกจังเลย
“ไม่ใช่การบังคับ ผมเพียงยื่นข้อเสนอ แต่คุณก็คงจะรู้ดีกว่าผมเป็นใคร อิทธิพลของผมกว้างขวางเท่าไหร่ ถ้าคุณไม่ทำงานนี้ คุณก็คงไม่มีโอกาสได้มีงานทำอีก”
“ผมสามารถทำให้คนจน ๆ แบบคุณ กลายเป็นคนไม่มีอะไรเลยในชีวิตได้”
“คุณหาเรื่องใส่ตัวเอง ถ้ายังอยากเล่นเกมนี้กับผม ผมก็จะเล่นกับคุณ”
“อย่าลืมกลับไปตัดสินใจล่ะ ผมจะกลับมาเอาคำตอบ”
สิ้นเสียงขอทิวากร ประธานหนุ่มกดสายเรียกผู้ติดตามหน้าห้องให้มานำตัวลินลดาออกไป เล่าแม่บ้านรวมทั้งพนักงานงานโรงงานต่างกรูกันเข้ามารุมถามคนตัวเล็ก
เขาไม่มีสติจะคุยกับใครเลย สองขาเรียวเดินตามทางไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ตู้ล็อคเกอร์พนักงานถูกเปิดออกเบา ๆ ลินต้องคืนยูนิฟอร์มแม่บ้าน ร่างเล็กรีบจัดการตัวเองให้เร็วที่สุด
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสรรพ คุณแม่ตัวเล็กรีบเดินจ้ำอ้าวไปยังสถานที่ที่คุณเคย เดินอ้อมไปที่หลังแท็งค์น้ำใบใหญ่ ปรากฏภาพเด็กน้อยความฝันที่กำลังนั่งพับเพียบระบาดสีรอผู้เป็นแม่อยู่เช่นเคย
ลินลดากลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว เด็กน้อยผู้เป็นดั่งลมหายใจของเขา ผู้เดียวที่เป็นเหตุผลของการลืมตาตื่นในทุก ๆ วัน
แม่ขอโทษที่ให้หนูได้เท่านี้นะลูก
ร่สงเล็กเดินตรงไปหาลูกชาย เพียงหัวทุยเล็กเงยหน้ามาสบตากับผู้เป็นแม่ ปากอิ่มเล็ก ๆ ฉีกยิ้มร่า ตากลมแป๋วที่จ้องมองมาทำให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวันนี้พองโตขึ้นมาในทันตา
“กลับบ้านเรากันครับน้องฝัน”
.
.
.
Talk, พระเอกอยู่ไหนคะ