“เฮ้ย!!! / ว้าย!!!”
เสียงร้องของใบชากับอีกคนที่ดังออกมาพร้อมกัน ใบชารีบเอ่ยขอโทษที่เธอกลับหลังหันโดยไม่ทันระวังและดูให้ดีว่ามีคนอื่นยืนด้านหลังต่อจากเธออยู่ด้วย
เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าที่ช่วยโอบเอวเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นให้ขายหน้าคนในร้าน แต่เพียงแค่เห็นก็ต้องตะลึงตาค้างอีกรอบ ใครจะคิดว่าคนที่กำลังวนเวียนอยู่ในหัวเธอตอนนี้จะมายืนอยู่ตรงหน้าเธอได้ แบบนั้นแล้วมันทำให้หัวใจเธอเต้นเร็วและแรงจนเธอคิดกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน
“ขอโทษค่ะ”
ไรอัลเองก็ตกใจไม่ต่างกันไม่คิดว่าจะได้เจอผู้หญิงที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงอีกครั้งและตอนนี้หัวใจของเขาก็กำลังเต้นรัวอยู่ในอกนี่หัวใจเขามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าเห็นทีจะต้องไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพสักหน่อยแล้วกระมัง แถมครั้งนี้เขายังได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธออีกด้วยและพอได้สูดกลิ่นมันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสมขึ้นมาทันทีจนทำให้เขาอยากได้กลิ่นหอม ๆ แบบนี้ทุกวัน
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ... ไม่ค่ะ แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่ครับ” ไรอัลยิ้มกว้างให้ใบชาในเมื่อไม่มีใครเป็นอะไรแล้วเขาก็เตรียมจะเดินหลบเธอเพื่อไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ด้านหลัง
“เอ่อ... คุณคะ” ใบชาในตอนนี้ที่คิดได้ว่าเธอไม่ควรจะปล่อยโอกาสที่ได้เจอกันครั้งนี้ผ่านไปแบบสูญเปล่าอีก ยังไงเธอก็ต้องขอบคุณเขาให้ได้จึงเอ่ยเรียกพร้อมกับจับแขนเขาก่อนที่เขาจะเดินผ่านไป
“ครับ”
“คือฉันขอรบกวนเวลาคุณสักนิดได้ไหมคะ”
“ได้ครับ”
“งั้นคุณไปสั่งกาแฟก่อนดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวฉันไปนั่งรอคุณที่โต๊ะตรงโน้นแล้วกันนะคะ” ใบชาบอกเขาเพราะเธอเห็นว่ายังมีคนอื่นรอต่อแถวเพื่อสั่งกาแฟอีกหลายคนและการยืนคุยกันแบบนี้มันดูไม่สมควรอย่างยิ่งในความรู้สึกเธอ
“ครับ” ไรอัลยิ้มพร้อมตอบรับก่อนจะเดินไปสั่งกาแฟแล้วก็เดินไปหาใบชาที่โต๊ะ เขานั่งลงตรงข้ามเธอพร้อมกับแอบมองสำรวจใบหน้าของเธอไปพลาง
“เอ่อ.... คุณจำฉันได้ไหมคะ”
“อืม.... ผมว่าถ้าผมจำไม่ผิดเราน่าจะเคยเดินชนกันแล้วครั้งหนึ่งที่ห้างใช่ไหมครับ”
“ค่ะ แต่นั่นมันเป็นครั้งที่สองที่เราเจอกัน ก่อนหน้านั้นคุณเคยช่วยพาฉันไปส่งโรงพยาบาล” ใบชายิ้มอย่างดีใจที่อย่างน้อยเขาก็จำเธอได้แม้จะเป็นการเจอกันเพียงแว๊ปเดียวก็ตาม
“เอ๊ะ!!! เหรอครับ ผมไม่เห็นจำได้” ไรอัลแปลกใจเพราะถ้าเคยเจอเธอเขาต้องจำได้สิแต่เท่าที่จำได้เขาเคยเจอเธอแค่ครั้งเดียวที่ห้างวันนั้นและที่เขาจำเธอได้แม่นเพราะเธอคือคนที่ทำให้เขาใจเต้นแรงและไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่
“คือ.... คืนนั้นฉันวิ่งตัดหน้ารถคุณค่ะ แล้วคุณเลยพาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลนะคะ ไม่ทราบว่าพอจะจำได้บ้างไหม”
“อ๋อ.... ผมจำได้แล้ว คุณคือผู้หญิงคนนั้น”
“ค่ะ ฉันอยากจะขอบคุณที่คุณช่วยไว้คืนนั้น ถ้าคุณไม่ช่วยไม่รู้ว่าคืนนั้นฉันจะเป็นยังไงเลย”
“แล้วทำไมคืนนั้นถึงวิ่งตัดหน้ารถแบบนั้นละครับถ้าผมเบรกไม่ทันคุณอาจตายได้เลยนะ”
“ฉันวิ่งหนีคนร้ายค่ะ เลยจำเป็นต้องวิ่งตัดหน้ารถคุณแบบนั้นเพื่อหนีเอาตัวรอด” ใบชายิ้มแหย๋ ๆ ให้เขาเพราะเธอรู้ว่าตัวเองผิดเต็มประตูที่วิ่งตัดหน้ารถเขากระชั้นชิดแบบนั้น แต่เวลานั้นใครจะมามัวคิดพินิจพิจารณาว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ อะไรถูกอะไรผิด ณ เวลานั้นขอแค่รอดจากคนร้ายก็พอ
“อ๋อ... ครับ” ไรอัลเพิ่งรู้สาเหตุที่เธอวิ่งตัดหน้ารถในตอนนั้นก็วันนี้นี่เอง ถ้าวันนั้นเขารู้เขาคงไม่บ่นไม่ว่าเธอขนาดนั้นเป็นแน่
“ฉันอยากตอบแทนที่คุณช่วยฉันไว้ในคืนนั้นและยังช่วยไม่ให้ฉันล้มอีกตั้งสองครั้งแน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมช่วยโดยไม่ได้หวังอะไร”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันถือคติบุญคุณต้องทดแทน” แค้นต้องชำระ ท่อนหลังนี่เธอต่อไว้ในใจโดยไม่ได้พูดออกไป
“แต่....”
“เอาอย่างนี้ค่ะ ถ้าคุณยังคิดไม่ออกตอนนี้ก็ไม่เป็นไรเอาไว้คิดออกเมื่อไหร่ก็บอกฉันได้เลยนะคะ”
“เอ่อ.... คือ”
“งั้นเราแลกช่องทางการติดต่อกันไว้ดีกว่านะคะ เผื่อวันไหนคุณอยากให้ฉันทำอะไรเป็นการตอบแทนก็สามารถบอกได้เลยค่ะ” ใบชายิ้มหวานและไม่เว้นจังหวะที่จะยื่นโทรศัพท์ของเธอให้เขาได้บันทึกเบอร์โทรหรือไลน์หรืออะไรก็แล้วแต่สามารถติดต่อกับเขาได้
“ครับ ๆ” ไรอัลที่โดนรุกแบบไม่ทันตั้งตัวก็ได้แต่ยื่นมือไปรับโทรศัพท์เธอมากดเบอร์โทรของตัวเองลงไปแบบงงงง ก่อนจะส่งคืนเธอกลับไปทันทีที่กดเบอร์เสร็จ
“ฉันชื่อใบชานะคะเวลาเจอกันอีกคุณจะได้เรียกถูก แล้วไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ” ใบชาเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับเอ่ยถามชื่อเขา ถึงแม้จะรู้แล้วว่าเขาชื่ออะไรแต่เธออยากให้เขาแนะนำตัวเองให้เธอรู้จักมากกว่า
“ผมชื่อไรอัลครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณใบชาอย่างเป็นทางการ” ไรอัลแนะนำตัวเองกลับไปอย่างเป็นทางการ เพิ่งจะเคยเจอคนแบบนี้นั่งคุยกันตั้งนานเพิ่งจะมาถามชื่อตอนนี้เนี่ยนะมีอย่างที่ไหนคุยก่อนถามชื่อที่หลังเธอช่างเป็นผู้หญิงที่แปลกจริง ๆ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เคยเข้าหาเขามาก่อน
“เรียกแค่ใบชาหรือชาดีกว่าค่ะอย่าเรียกคุณเลย”
“ครับ”
“คุณไรอัล งั้นฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ เพราะใกล้เวลาเข้างานแล้ว” ใบชาพูดจบก็ลุกขึ้นเดินจากโต๊ะไปเอากาแฟที่สั่งไว้แล้วเดินออกจากร้านไปพร้อมรอยยิ้มหวาน ทิ้งให้ไรอัลยังอยู่ในอาการงงไม่หาย
“มาไวเคลมไว จริง ๆ เด็กสมัยนี้เล่นเอาตั้งตัวไม่ทันเลย เฮ้อ...” ไรอัลได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัวให้ตัวเองแต่สายตาเขากลับมองตามใบชาที่เดินออกไปจากร้านอย่างไม่ยอมละสายตาไปไหน
ด้านใบชาที่เดินออกแยกจากไรอัลด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ดูมีความสุขจนหวานที่เห็นก็อดจะเอ่ยแซวและหยอกเย้าเพื่อนไม่ได้
“เป็นไงถึงได้เดินยิ้มหน้าบานออกมาขนาดนี้ ฉันเห็นนะที่แกนั่งคุยกับคุณคนหล่อนั่น”
“ก็ไม่มีอะไรแค่ขอบคุณเขาที่เคยช่วยไว้”
“เหรอ.... แต่หน้าแกไม่บอกแบบนั้นเลยนะ หน้าบานยิ่งกว่ากระด้งอีกนะเว้ย”
“ไอ้หวาน!!!”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”