ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าอี้ฟาน ทำให้หัวใจเขารวดร้าว แต่เดิมเพียงอยากได้สมบัตินางและแกล้งตบแต่งเข้าสกุลปัน แล้วให้นางรับมือฮูหยินหม้ายผู้เป็น
ย่าของเขา เพียงไม่กี่เดือน สตรีบ้านนอกที่ไม่รู้จักกฎเกณฑ์คนเมืองหลวงคงทุกข์ทรมานอย่างหนัก และหากเมื่อใดนางทำผิดกฎเรือน ย่อมถูกส่งออกไปอยู่เรือนนอก ซึ่งนั้นคือการตัดปัญหาของอี้ฟาน ตัวเขาก็ได้อยู่สกุลปันในฐานะบุตรชายของปันเส้าเฟิง พร้อมสมบัติที่ไม่ต้องออกแรงหาให้เหนื่อยยาก
“อาเถียน...ตอบข้ามา ผู้ใดข่มเหงเจ้า!”
เมื่ออี้ฟานระงับโทสะลงก็เอ่ยถาม ยามนี้เขาอยากปลอบขวัญนาง ฝ่าย
ไป๋ลู่เถียนก็สะอื้นไห้ นางดูเปราะบางประหนึ่งจะแตกสลายลงได้ทุกขณะ
“ข้าเมา...คุณชายฟาน สตรีที่ครองสติตนไม่ได้ ทั้งพบกับความเสียใจพร้อม ๆ กันหลายเรื่อง ย่อมทำได้แค่รักษาชีวิตตนเอาไว้”
อี้ฟานยกมือขึ้น เขาห้ามไม่ให้นางเอ่ยสิ่งใดอีก เขาโมโหและโกรธตัวเองที่นัดนางไปยังหอเซียนเมารัก อีกทั้งมีคำถามในหัวผุดขึ้น ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวเกินจะรับ ทว่าเขากลับขี้ขลาดไม่กล้าเอ่ยออกไป
“ขอเพียงเชื่อใจข้า สิ่งที่เคยกล่าวไว้ ย่อมต้องเกิดขึ้น”
“คุณชายฟาน หมายถึงในครั้งที่เราพบกันก่อนหน้าที่ศาลเจ้า รวมถึงกลอนหวาน ๆ และภาพวาดที่ส่งให้ข้า...”
“มิผิด...หลังจากข้าทราบว่าอาเถียน...”
เขาเรียกนางย้ำเช่นนั้น ซึ่งน้ำเสียงดังกล่าวนี้ ในชาติภพก่อนไม่เคยผ่านเข้าหูไป๋ลู่เถียนเลย โลกแห่งนิยายช่างเล่นตลก ให้นางโผล่เข้ามามีชีวิตใหม่ แต่ยังไม่วายสร้างความเจ็บปวด และอารมณ์รักใคร่ ทั้งเยื้อใยบาง ๆ ที่มีให้แก่อี้ฟาน ทั้งที่เขาคือตัวร้ายฝ่ายชายที่ทั้งใต้หล้าต้องจดจำ!
“อาเถียนถูกคนรักทอดทิ้ง ฝ่ายข้าอยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่เด็ก ก็เหมือนได้พบส่วนที่ขาดหายไป ยามนี้เราจึงเติมเต็มแก่กันและกัน”
ถ้อยคำเขาหวานปานนั้น แสดงความจริงใจก็มากล้น หากไป๋ลู่เถียนไม่
ครองสติตน นางคงหน้ามืดตามัว ลุ่มหลงปีศาจที่สวมหน้ากากเทพแห่งด้ายแดง
“น้ำใจคุณชายฟานช่างยิ่งใหญ่” นางเอ่ย และเป็นตอนนั้นที่ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ ๆ และนั่งลงข้างกันบนตั่งไม้กว้าง
ไป๋ลู่เถียนไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ทว่าเพียงแค่นางหายใจ หน้าอกอวบสวยก็ไหวไปมา ปลายถันสีชมพูเข้มเพราะหลายวันแล้วที่ถูกดูดดุน สลับกับการขบเม้มยามนี้ตั้งชันเพิ่มไฟราคะให้ร่างกายของอี้ฟานต้องการรสสวาทจากนาง
ภาพในหัวเขาวิ่งวนไปมา เป็นใครกันที่ข่มเหงนาง ใครที่นวดเฟ้นและ
โลมเลียเนื้อนุ่มนิ่มที่มีกลิ่นหอม ๆ เย้ายวนนี้จนบอบช้ำ
ซึ่งในขณะหนึ่งเขาบอกตนเองว่าปรารถนาอยากขึ้นคร่อมไป๋ลู่เถียน แล้วสาดความขุ่นอันข้นเหนียวบนเรือนกายนี้ ทั้งปากนาง ยอดถันงาม และกลีบสาวในร่มผ้าจะต้องถูกเขาสำรวจและย่ำยีวันทั้งคืน
“ข้าเตรียมนารีแดงที่ผสมด้วยน้ำผึ้งมาด้วย...”
“ดื่มสุรายามนี้!?”
“มิใช่แค่สุรา มันคือเหล้ามงคลของอาเถียนกับข้า”
ไป๋ลู่เถียนแสร้งสะเทิ้นอาย พร้อมกันนั้นก็เช็ดน้ำตาของตนช้า ๆ
“สตรีมีราคี ไฉนจะได้รับโอกาสจากคุณชายฟาน”
“เรียกท่านพี่เถิด อย่างไรวันนี้เราจะอยู่ด้วยกันจนถึงรุ่งสาง”
ดวงตากลมโตมองอีกฝ่าย แล้วส่งแรงสิเน่หาร้อนแรงให้เขา
อี้ฟานจัดสุราให้นางกับเขา ก่อนที่ทั้งคู่จึงคล้องแขนกันดื่ม
“ข้าคออ่อน...”
“เยี่ยงนั้นจงจิบเพียงนิดเดียว”
“มิได้ หากนี่คือเหล้ามงคล ข้าย่อมต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์”
“ฮ่า ๆ ๆ ตามใจเจ้าเถิด เพราะนี่คือการเข้าหอของเรา”
เมื่อเขาเอ่ยจบ ไป๋ลู่เถียนก็เงียบไปเกือบหนึ่งอึดใจ ก่อนที่กลีบปากอิ่มสวยจะเผยออ้า แล้วเอ่ยว่า
“คนผู้นั้นทำให้ข้ารู้สึกรังเกียจตนเอง อีกทั้งกระทำต่อร่างกายนี้อย่าง
ป่าเถื่อน กลิ่นกายเขานั้นติดตัวตลอด ทั้งเสียงลมหายหอบถี่ ๆ เสียงคราง
คร่ำครวญยังดังอยู่ในหูข้า”
ไป๋ลู่เถียนต้องการปั่นหัวอี้ฟานจึงพยายามเหลือเกินที่จะย้ำเรื่องราวในคืนนั้น พร้อมทั้งใส่สีตีไข่ให้เกินจริง!
“อาเถียนเชื่อข้าเถิด เมื่อเจ้าใกล้ชิดบุรุษผู้นี้ ความรู้สึกดั่งคนไร้เกียรติจะหายไป”
ไป๋ลู่เถียนชอบสิ่งที่อี้ฟานพูด แต่เมื่อนางมองเขา เหตุใดภาพร้าย ๆ ของชายที่ตบตีนาง และปล่อยให้ใช้ชีวิตในเรือนอย่างเงียบเหงาตามลำพังจึงได้วนมาฉายซ้ำ
ฝ่ายอี้ฟานไม่ได้สนใจว่า ไป๋ลู่เถียนจมจ่อมกับความคิดใด ยามนี้เขาจูบที่หลังเท้าเปลือยเปล่าของนางพร้อมนวดปลีน่อง
ฝ่ายนางก็ลูบไล้เนินถัน และหลุดเสียงครางกระเส่า เรียกร้องให้เขาทำในสิ่งที่ชายหญิงต้องการ
เมื่อเขาจูบหลังเท้าสวยนางหนักหน่วงขึ้น
นางก็เอ่ยกับเขา
“ท่านพี่ใช้ลิ้นเก่งไม่เบา”
ได้รับคำชม เขาก็ไม่รอช้า เดี๋ยวจูบ เดี๋ยวเลีย และเม้มหนัก ๆ ด้วยเนื้อตัวนางราวกับพรมน้ำหอมชนิดพิเศษ ได้สูดกลิ่นเข้าไป และสัมผัสร่างกายเขาก็ตื่นตัว โดยเฉพาะท่อนลำแกร่งที่ยามนี้ปลายหัวหยกมันเปียกชื้น
“โปรดส่งถุงหอมให้ข้า จากนั้นต้องการทำสิ่งใด ท่านพี่ก็อย่าได้ยั้งมือ!”
มือเรียวยาวของอี้ฟานล้วงเข้าไปในถุงผ้า นอกจากถุงหอมที่ไป๋ลู่เถียน ต้องการแล้ว เขายังพบขวดยา ตลับโลหะ แล้วยังมีสิ่งที่ทำให้ต้องเทของทั้งหมดออกมาดู
“ห่วงเหล็ก...แล้วก็โซ่ ทั้งมีแส้อ่อนหนังสัตว์!”
ดวงหน้างามล้ำยกยิ้มตรงมุมปาก เสียงนางก็หวานทั้งเจือการเย้าแหย่
“ท่านพี่ลองดมถุงหอมของข้าก่อนสิ แล้วจะเข้าใจว่า สตรีผู้นี้ ไฉนถึงได้พกพาของเล่นที่อยู่ในหอคณิกามาด้วย”
ท่าทางไป๋ลู่เถียนไม่ได้บ่งบอกว่าประสงค์ร้าย กระนั้นชายหนุ่มก็ถามกลับ “คิดวางยาข้าหรืออาเถียน”
“โถ ข้าตัวคนเดียวจะมีฝีมือทำสิ่งใดได้ แค่อยากให้ท่านพี่มีความสุข และข้าต้องการลืมเรื่องข่มขืนที่เกิดขึ้นในหอเซียนเมารัก”
เมื่อนางเอ่ยย้ำถึงสิ่งที่ไม่น่าฟังอีก เขาจึงนำถุงหอมมาใกล้ ๆ จมูก
คราแรกกลั้นใจไว้ มิได้สูดกลิ่นเข้าไป และนางก็สังเกตเห็น
“ท่านพี่...ฟังข้าให้ดี สมุนไพรในถุงหอมจะช่วยให้เรามีความสุขมากยิ่งขึ้น”
อี้ฟานสูดกลิ่นหอม ๆ เข้าจมูก เขารู้สึกโล่ง สมองปลอดโปร่งแต่มันเกิดขึ้นเพียงไม่ถึงหนึ่งอึดใจ ด้วยเวลาต่อมา เขาพบว่ามีเสียงดังอื้ออึงสลับ
ภาพหลอนล่องลอยอยู่รอบตัว
ฮึ...ไป๋ลู่เถียน คือนางจิ้งจอกจริง ๆ...เหตุใดเขาถึงไม่ระวังตัวให้มากกว่านี้!