ตั้งแต่แตกเนื้อสาว หล่อนเพิ่งรับรู้ถึงอันตรายในสวัสดิภาพของความสาวก็วันนี้ พยายามคิดว่าทำไมหล่อนมาอยู่ในสภาพนี้แต่ก็คิดไม่ออก ได้แต่นึกโทษตัวเองว่าไม่น่าดื่มเข้าไปเยอะเลย รู้ซึ้งแล้วว่าเวลาคนเราหากสติมาไม่เต็มร้อยมันจะเป็นยังไง มันรู้ตัวแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้ แม้แต่ห้ามปากตัวเองไม่ให้พูดบางสิ่งออกไปก็ยังห้ามไม่ได้
“พี่กูร…”
“เก่งนี่ ขนาดไม่ได้ลืมตามองยังรู้เลยว่าเป็นใคร”
นั่นไง หล่อนแค่คิดเสียงก็ดังออกไปอีกแล้ว ไม่ได้หล่อนต้องไม่คิด
“ไม่คิด... ไม่ใช่พี่กูร... ไม่ใช่…”
“จะไม่ใช่ได้ยังไง ตัวเป็นๆ ทั้งแท่งเลยล่ะ”
“อื้อ… อย่านะ”
“อย่าอะไร จะเช็ดหน้าให้ เมาขนาดนี้ยังจะมาพยศอีก”
สัมผัสเย็นวาบที่ข้างแก้มเล่นเอาสะดุ้ง ใยไหมฝืนดวงตาให้เปิดขึ้นสุดแรงและมันก็ได้ผล ภาพที่เห็นเป็นเขาจริงๆ ‘อังกูร’ พี่ชายของอรรัมภานั่งอยู่ด้านข้างห่างจากหล่อนเพียงคืบเดียว และเขากำลังแตะผ้าชื้นเย็นจัดที่ใบหน้า แต่หล่อนจะไม่ยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเด็ดขาด เพราะเขาเป็น…
“คนเลว! อย่ามาถูกตัวนะ อย่ามายุ่ง อย่ามาแตะ!”
“คนเลวเหรอ เฮอะ! อยากยุ่ง อยากแตะ”
“อื้อ… พี่กูร!”
อังกูรมองเจ้าของร่างเล็กที่พยายามปัดป้องผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดที่เขาบรรจงเช็ดไปตามใบหน้าและไล่ลงมาตามซอกคอของหล่อน ดวงตาสวยที่พยายามปรือขึ้นมองเขา ยังฉายความกราดเกรี้ยวเหมือนคนโกรธกันมาสัก 10 ชาติ ใยไหมพยศแบบนี้เขาชอบ
ท่าทางปัดป้องแบบคนเมาเรียกรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ยิ่งหล่อนไม่ให้แตะ เขาก็ยิ่งอยากแตะมากขึ้นอีก ได้ยั่วคนเมา รู้สึกดีจริงๆ
ทว่าฝ่ามือที่ปัดป้องไปมาพร้อมเสียงร้องห้ามก็ทำให้จุดหมายของเขาจะเปลี่ยนไป จากที่เช็ดอยู่ซอกคอมันเคลื่อนลงมาที่หน้าอกอูมใหญ่โดยไม่ตั้งใจ และนั่นก็ทำให้ใยไหมร้องลั่น
“อย่าจับนะ!”
“จะจับ” ปากไวตามความคิด
“อ้ายยยยย… ไม่นะ! ไม่! อื้อ…”
และมือก็ไวเช่นกัน แค่ใยไหมอ้าปากร้อง มือก็ทาบปิดปาก และเมื่อหล่อนดิ้น ร่างกายก็ทาบทับตัว ทุกความหยุ่นนุ่มถูกความแข็งแกร่งของเขาแนบทาบตั้งแต่ช่วงอกอวบอิ่มลงไปถึงฝ่าเท้า จนใยไหมเบิกตากว้างมองเขา พยายามกรีดร้องดิ้นรน ทว่ายิ่งดิ้นอะไรอะไรก็ยิ่งเสียดสี
“ใยไหม อย่าดิ้น…”
เสียงเปล่งออกไปเต็มไปด้วยอารมณ์ข่มใจสุดๆ อังกูรรู้ตัวเองดีว่าขณะนี้เขาตื่นไปทั้งร่างอย่างระงับไม่อยู่อีกแล้ว
ถ้าหากจะให้กินใยไหมในเวลานี้เขาก็กินได้ แล้วก็จะกินอย่างตะกละตะกลามจนอิ่มด้วย แต่เพราะใยไหมไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะกินทิ้งกินขว้าง และก็ไม่เคยทำแบบนั้นกับใครด้วย ปกติก็มีแต่คนยินยอมพร้อมใจ จบแล้วก็แยกทาง
แต่ใยไหมต่างจากผู้หญิงเหล่านั้น เพราะเขาแน่ใจว่าหากกินใยไหมเข้าไปแล้ว ความกลัวคงจะเข้าเกาะกุมจิตใจ ไม่ใช่กลัวว่าจะต้องรับผิดชอบหล่อน แต่กลัวว่าตัวเขาเองนี่แหละที่จะถูกทิ้งขว้าง เพราะคำว่า ‘คนเลว’ ที่หล่อนตะโกนใส่หน้าเหมือนจะแปะหลาอยู่บนหน้าผาก ให้หล่อนตีตรารังเกียจเขาไว้เต็มประตู
ทางเดียวก็คือ เขาต้องรู้ความจริง ว่าเพราะอะไรใยไหมถึงเรียกเขาว่า ‘คนเลว’ จะได้ไขความเข้าใจผิดนั้น สายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจึงจะยั่งยืนเป็นแบบเขารับผิดชอบหล่อนและหล่อนก็พร้อมรับผิดชอบในตัวเขา
แต่ถ้าถามหล่อนตอนนี้ หล่อนจะบอกไหมล่ะ หรือว่าจะดิ้นจนหมดแรงหลับไปซะก่อน เพราะถึงขณะนี้ใยไหมก็ยังดิ้นรนทำเสียงอู้อี้ตะโกนร้องบอกให้เขาปล่อย ส่วนเขาล่ะก็อยากปล่อยเหมือนกัน แต่เป็นปล่อยสิ่งที่อัดอั้นอยู่ข้างใน
ก็ไอ้น้ำข้นๆ นั่นไง เขาอยากปล่อยสู่ภายในหล่อนใจจะขาด
‘ปล่อยนะ! ปล่อย อื้อ… พี่กูร ปล่อยไหม’
ใยไหมพยายามดิ้นรนเท่าที่แรงตอนนี้จะมีได้เพราะทั่วทั้งร่างถูกเขาทาบทับเอาไว้ แม้สติจะไม่เต็มร้อยแต่ก็พอปะติดปะต่อได้ว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ และสิ่งไหนอันตรายที่สุด นั่นคือหล่อนไม่ควรปล่อยให้ตัวเองอยู่ใต้ร่างของเขาแบบนี้ต่อไป เพราะอีกสิ่งหนึ่งที่รับรู้และหวาดหวั่นก็คือความคิดของตัวหล่อนเอง
เมื่อร่างกายของเขาเสียดสีกับร่างกายของหล่อน บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในกระแสเลือดมันกำลังทำให้หล่อนร้อนเร่าไปทั้งร่าง ทำให้กล้าในสิ่งที่ไม่เคยกล้ามาก่อน หัวใจของหล่อนมันร่ำร้องอยากจะออกจากกรงที่กักขังไว้
ทว่ายังไม่ทันจะทำอะไร ดวงตาที่ปิดสนิทเพราะพยายามเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนก็ต้องเบิกกว้างอย่างตื่นตกใจสุดขีด เพราะความแข็งขืนที่ต้นขาราวจะเคลื่อนไหวได้ดุจมีชีวิต ใยไหมรู้ว่ามันคืออะไร
‘อื้อ...’
“อย่าดิ้น...”
ทั้งเสียงทุ้มต่ำอย่างคนสะกดกลั้นอารมณ์นั้นด้วย แล้วจะให้หล่อนเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง มันต้องเป็นสิ่งนั้นแน่ ขนกายทั่วตัวรุกตั้ง สะบัดร้อนสะบัดหนาว ทั้งกล้าทั้งกลัว แต่สติน้อยนิดก็ร้องสั่งว่าต้องหลีกให้ไกล
‘อื้อ... ปล่อยนะ!’
“จะปล่อย ถ้าตอบคำถามมาดีๆ”
ใยไหมมองแววตาดุๆ ของผู้ชายที่หล่อนใฝ่ฝันหา แต่เขาเป็นของร้อนที่ควรหลีกให้ไกล ทว่าหัวใจหล่อนกลับใกล้เขาเหลือเกิน ยิ่งเขาพาตัวเองเข้ามาแนบชิดแบบนี้ หล่อนยิ่งห้ามตัวเองไม่ได้ กลัวใจและร่างกายจะพร้อมเพรียงให้เขาแตะต้องสัมผัส ทั้งที่พยายามแล้วที่จะหลีกหนี