นั่นก็ทำให้แทบจะช่วงเย็นของทุกวันใยไหมกับอรรัมภาจะกลับมาจากโรงเรียนพร้อมกัน
เขาจึงได้เห็นพัฒนาการความน่ารักความน่าเอ็นดูของใยไหมตั้งแต่เป็นเด็กหญิงจนเริ่มเติบโตเป็นนางสาว
เด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มตัวผอมบางค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเด็กสาวร่างเล็กหน้าตากระจุ๋มกระจิ๋ม ปากนิดจมูกหน่อย
แรกๆ เขาก็มองว่าน้องน่ารัก แต่หลังๆ เมื่อเพื่อนที่โรงเรียนมักจะพูดถึงใยไหมบ่อยครั้ง เรียกว่าเด็กสาวน่ารักในรุ่นนั้นก็มีใยไหมแล้วก็อรรัมภานี่แหละ
จากที่มองว่าน้องแค่น่ารัก เขาก็เริ่มมองใยไหมในมุมที่เปลี่ยนไป ก็คงไม่แปลกสำหรับคนแตกเนื้อหนุ่มอย่างเขา แล้วเขาก็ถือว่ามีโอกาสมากกว่าคนอื่น เพราะใยไหมนั้นอยู่ที่บ้านของเขาแทบจะทุกวันอยู่แล้วนี่ และในเวลานั้นเขาก็จัดว่าฮอตสุดไม่แพ้ใครในโรงเรียนเหมือนกัน
ในกลุ่มเขา คริสต์หล่อแบบหนุ่มลูกครึ่งฝรั่ง ส่วนเขาก็หล่อคมเข้มแบบหนุ่มไทยแต่ผิวขาวจัดได้แม่ เขากับอรรัมภาจึงได้ฉายาว่า ‘หน้าตาดีกันทั้งบ้าน’ เพราะพ่อแม่เขาก็หล่อสวยสมกัน
เมื่อเริ่มมองใยไหมในมุมที่เปลี่ยนไป เขาก็เชื่อว่าตัวเองมองไม่ผิด ใยไหมเองก็ดูจะมีใจให้เขาเหมือนกัน ก็อย่างที่บอกผู้หญิงพอใจ แค่มองตาก็รู้
แต่แล้วจู่ๆ แค่ปิดเทอมใหญ่ผ่านไป ในช่วงที่ใยไหมไม่ค่อยได้มาที่บ้านของเขาบ่อยครั้ง นอกเสียจากวันไหนอาแพรจะมาพร้อมกับอาเข้ม ใยไหมก็จะติดสอยห้อยตามพ่อแม่มาเล่นกับอรรัมภาด้วย เขาก็ได้แค่ลอบแอบมอง เพราะใยไหมไม่สบตาเขาเหมือนเคย แรกๆ ก็คิดว่าน้องเขิน แต่กลายเป็นไม่ใช่
เพราะแค่ระยะเวลา 2 เดือนเท่านั้น ใยไหมก็เปลี่ยนไปเลย จากเด็กสาวผมยาวสยายถึงบั้นเอว ก็กลับกลายเป็นเด็กสาวผมสั้นแบบทอมบอย แม้หน้าตาจะจิ้มลิ้มดังเดิม แต่แววตาของใยไหมไม่เหมือนเดิม
ทุกครั้งที่เจอหน้า หล่อนมักจะมึนตึง และช่วงนั้นเขาก็เตรียมตัวขึ้นไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ พอดี ทุกอย่างจึงขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิง
เรียกได้ว่ายังไม่ทันได้ต่อก็ขาดเสียแล้ว
เขาจึงคิดว่าความรู้สึกเหล่านั้นเป็นแค่ลมที่พัดผ่านมา ยังไม่ทันได้สัมผัสความชุ่มฉ่ำก็พัดผ่านไป
แต่เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งเมื่อเขาเรียนจบและหล่อนก็เริ่มเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย เขาก็เห็นใยไหมกลับมาไว้ผมยาวและมัดรวบไว้เป็นหางม้าดังเดิม ทว่าหล่อนยังคงมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
แต่ไม่รู้ว่าเพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมานานตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มจนถึงตอนนี้หรือเปล่า ทำให้เขารับรู้ถึงสิ่งที่ปะปนในความขุ่นมัวนั้น ใยไหมมีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่
หล่อนทำเหมือนคนที่มีความรู้สึก ‘ทั้งรักทั้งเกลียด’ ให้กับเขา
แรกๆ เขาก็ไม่สน เพราะก็ตั้งแง่รังเกียจเรื่องที่ใยไหมเป็นทอมเหมือนกัน แต่จากหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา ตอนนี้ไม่สนคงไม่ไหวแล้ว
อังกูรจอดรถกลางทาง ไฟตามจากหน้ารถสาดส่องไปด้านหน้า ก่อนจะมองคนที่นอนหลับอยู่ที่เบาะด้านข้าง อกอวบใหญ่ขยันแพลมออกมาจากสาบเสื้อสูทให้เขาโหวงหวิวในอก และยามที่ความนูนใหญ่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงลมหายใจเข้าออกหรือไม่ก็แรงทอดถอนลมหายใจ ก็ดั่งจะกวักเรียกสายตาให้โลมเลีย พานให้เขาอยากเห็นอะไรอะไรให้มากกว่านี้ เห็นไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลยก็ได้
อังกูรพ่นลมหายใจออกจากปากเบาๆ หลับตาสะกดกลั้น เพราะมีสิ่งที่เขาต้องตัดสินใจ
ดวงตาคมเข้มมองตรงไปหนทางข้างหน้า แยกซ้ายคือทางเข้าบ้านเขา แยกขวาคือทางเข้าบ้านหล่อน
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันครุ่นคิด ทางไหนที่ควรไป
ถ้าแยกซ้ายคือเลี้ยวกลับอีกไม่ได้ แต่ถ้าแยกขวาก็คงหาทางบรรจบได้ยาก
เตียงนอนนุ่มคือสิ่งที่แผ่นหลังสัมผัสได้ในทันทีที่รู้สึกตัว ใยไหมบิดกายเล็กน้อยเพื่อให้นอนได้สบายขึ้น อาการปวดหัวจี๊ดเหมือนจะตามมาทันทีที่ขยับ พร้อมกับอาการมึนงงคล้ายสมองสั่งการได้ไม่เต็มร้อย เพราะขนาดหล่อนให้ลืมตา ตามันก็ยังไม่ยอมลืมตามที่หล่อนต้องการเลย
“อึ๊ยยยย… ลืมตาสิไหม เฮ้อ… ลืมไม่ไหวอะ เวียนหัว เฮ้อ...”
เสียงพูดอ้อแอ้ออกคำสั่งกับตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะเปลือกตาเหมือนรับคำสั่งช้าเหลือเกิน ยังไม่ทันจะลืมก็ปิดลงอีก
ใยไหมส่ายศีรษะไปมาเท่าที่พอจะทำได้ ฝ่ามือแตะที่หน้าผากบีบขมับตัวเอง หวังว่าความผ่อนคลายจะทำให้หล่อนลืมตาได้ง่ายขึ้น แต่ยิ่งฝืนอาการวิงเวียนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก
“ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน”
ทว่าเสียงทุ้มของใครบางคนที่ดังอยู่ใกล้ตัวกลับทำให้ประสาทสัมผัสทุกส่วนในร่างกายตื่นโพรง ดวงตาที่หนักอึ้งพยายามที่จะเปิดขึ้น เพราะเสียงนี้มีคนเดียวเท่านั้น
ใยไหมสับสนว่าหล่อนยังฝันอยู่หรือว่าตื่นแล้วจริงๆ พยายามเงี่ยหูฟังเสียง ฝ่ามือแตะสัมผัสเตียงนอน หัวเตียง ผ้าปู ปลอกหมอน รวมทั้งผ้าห่ม นี่ไม่ใช่เตียงของหล่อน! กลิ่นในห้องนอนก็ไม่ใช่
ห้องนอนของหล่อนฉีดน้ำยาปรับอากาศกลิ่นส้มอ่อนๆ เอาไว้ เพราะหล่อนชอบความหอมสดชื่น แต่ในห้องนี้เป็นกลิ่นมิ้นท์ จมูกหล่อนไม่ได้เพี้ยนเพราะเมาแน่
แค่คิดสมองราวจะตื่นตัวมากขึ้นอีก เพราะรู้ตัวแล้วว่าหล่อนเมา และอยู่ในระดับที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วย แต่หล่อนดันรู้ตัว
“เมา” นั่นไง แค่คิด ปากก็ขยับพูด
“ใช่ ก็เมาน่ะสิ”
และเสียงตอบรับก็ทำให้สัญญาณอันตรายแผ่ซ่านจนใยไหมขนลุกเกรียวไปทั้งตัว