ตอนที่ 5

1027 คำ
‘คนเลว’ เขาเหรอที่เลว จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเอารัดเอาเปรียบใครให้มีฉายานี้ติดตัวเลยสักนิด แล้วใยไหมไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหน เขาทำอะไรที่เรียกว่า ‘เลว’ แล้วเขาต้อง ‘แคร์’ เหรอ ที่ใยไหมคิดแบบนั้น คำถามที่ส่งตรงขึ้นสมองและได้รับคำตอบว่า ‘แคร์’ มันไวจี๋ โดยเฉพาะดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำ เมื่อพูดคำว่า ‘คนเลว’ นั้นออกมา มันเหมือนเป็นแรงกระตุ้นร้องสั่งให้เขาต้องเร่งพาหล่อนออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ยังไงคืนนี้เขาต้องรู้เรื่องที่หล่อนพูดให้ได้ “คนนี้ล่ะคนเลว พี่กูรคนเลว... ใครจะอยากยุ่งด้วย” “พูดอะไรไม่เข้าใจเลย มั่วนะเราอะ ไปกลับบ้าน จะไปส่ง ลุกขึ้น” “ไม่ลุก! ไม่ต้องมายุ่งไง!” “ไม่ยุ่งไม่ได้ เมามากแล้วนะ” “กลับเองได้! เอารถมา” “เมายังไงเนี่ย จำได้ด้วยว่าเอารถมา” “ก็เมาไง! แต่ไม่ได้ความจำเสื่อม จำได้ว่าเอารถมานะ ขับมาเองด้วย...” “แล้วเมาแบบนี้จะขับยังไงไหว” “ขับไหว ขับเก่ง เก่งสุดๆ เลยล่ะ ขับรถขนปาล์มออกบ่อย” “แล้วมันเหมือนกันที่ไหนล่ะ นั่นมันตอนไม่เมา เมาแอ๋ขนาดเนี้ย ขับไม่ได้หรอก” “ขับได้! ขับไหว!” “เมาแล้วขับ หลับคาโลง ไม่เคยได้ยินเหรอไง ยังไงก็ไม่ให้ขับ ไป ลุกขึ้น จะพากลับ” “ไม่กลับ! ไม่กลับกับคนเลว! จะกลับเอง!” ใยไหมที่เริ่มพยศปัดป้องเขาออกห่างทำให้คนในร้านเริ่มมองมาที่เขาและใยไหมมากขึ้นอีก อังกูรขมวดคิ้วมุ่น เขาแค่อยากให้หนุ่มๆ ในร้านและหนุ่มๆ ในอนาคตที่จะเข้ามาขายขนมจีบใยไหม รู้ว่าหล่อนไม่โสดแล้ว แต่ไม่ได้อยากให้ใครเห็นหล่อนเมาแบบนี้ รวมทั้งคำนั้นด้วย ‘คนเลว’ ถ้ามีคนเข้าใจผิดว่าเขาทำอะไรเลวๆ ไปกับหล่อนเล่า เขาจะเอาหน้าหล่อๆ นี้ไปไว้ที่ไหน ฝ่ามือแกร่งตวัดรอบเอวคอด รั้งใยไหมเข้าหาตัวเขา พร้อมกระซิบคำร้ายๆ แต่ดุดันลงไป “เงียบเดี๋ยวนี้! ถ้าไม่เงียบฉันจะปล้ำเธอตรงนี้แหละ ไม่เชื่อก็คอยดู” “คนเลวอะ ชอบปล้ำผู้หญิง ได้แล้วก็ทิ้ง” อังกูรถึงกับมองบน เมื่อน้ำเสียงกับสีหน้าของใยไหมคือจะร้องไห้อยู่แล้ว ไม่อยากเห็นหน้าตาหล่อนแบบนี้เลย เพราะราวกับใยไหมจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ แต่เขาช้าไม่ได้แล้ว วงแขนจึงตวัดรัดร่างใยไหมขึ้นอุ้มทันที “น้องเร็ว! แฟนพี่จะอ้วกแล้ว” อังกูรตะโกนลั่น พนักงานของร้านก็วิ่งรี่เข้ามาช่วย ทั้งช่วยเปิดทางพาไปส่งถึงรถ สแกนบาร์โค้ดเช็กบิล และรับฝากรถของใยไหมเอาไว้ แค่ไม่ถึง 5 นาที อังกูรก็พาใยไหมออกจากเขตร้านอาหารกึ่งบาร์สำเร็จ ในความมืดของถนนยามวิกาล ทว่าอังกูรกลับเห็นดวงจันทร์เจิดจ้าอยู่ด้านข้างเขา ดวงตาคมเข้มมองเจ้าของร่างแบบบางที่นอนทอดตัวยาวตามที่เขาปรับเบาะให้นอน สัมผัสแนบชิดในช่วงเวลานั้นทำให้เขาตื่นตัวสุดๆ จนอดใจไม่ไหวต้องสูดดมความหอมที่ข้างแก้มก่อนจะเคลื่อนลงไปหาซอกคอ และตอนนี้ เสื้อคลุมของเขาที่ไม่ได้ตัวเล็กเลยสักนิด แต่กลับปิดความอวบใหญ่ไม่มิด คิดแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า เขาควรคลุมด้านหน้าไม่ใช่คลุมด้านหลัง เพราะความนูนใหญ่ที่เห็นรำไรตามรถแล่นผ่านไฟทางทำให้เขาเสียสมาธิ อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองความขาวนวลและอวบใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า บอกตัวเองว่าเขาไม่ใช่คนหื่นไม่เลือกที่ ไม่เลือกเวล่ำเวลา และไม่เลือกคนแบบนี้ เขาจัดได้ว่ารู้ตัวเองดีและควบคุมอารมณ์ที่ไม่ควรบังเกิดได้ทุกครั้ง แต่ตอนนี้เขากลับห้ามตัวเองได้ยาก ฝ่ามือกำพวงมาลัยรถแน่น พยายามตั้งสมาธิกับการขับรถในยามดึกให้มากที่สุด ทั้งที่ตอนนี้ในใจเขามันฟุ้งซ่านจนเรียกหาความสงบไม่เจอ พยายามตั้งคำถามและให้คำตอบกับตัวเองว่าสิ่งที่เขารู้สึกกับใยไหมนี้มันเรียกว่าอะไร แค่อยากแกล้ง อยากทำให้หล่อนเสียหน้า หรือว่าอยากอย่างอื่นกันแน่ แต่คำตอบก็ยังสับสน เพราะคนอย่างเขาน่ะเหรอ จะมีใจให้ใยไหมจนห้ามตัวเอง ห้ามความคิด และห้ามใจไม่ได้ “เป็นไปได้เหรอวะกูร มึงมีใจให้ยายนี่ แต่นั่นมันนานแล้วนะโว้ย! นี่มึงไม่ลืม หรือใจมึงจำ” อังกูรพึมพำกับตัวเอง เพราะสิ่งที่ใจคิดตอนนี้มันช่างสอดคล้องกับความรู้สึกตื่นไปทั้งตัว ผู้ชายอย่างเขาพบเจอผู้หญิงมามาก ไม่น่าจะจดจำกับความรู้สึกที่เป็นเพียงลมพัดผ่านมาวูบเดียว ทั้งยังไม่ได้รับรู้ถึงความฉ่ำเย็นก็จางหายไปก่อน “ใจจำเหรอ จริงเหรอไหม...” ถามตัวเองแต่หันมองคนที่ยังนอนหลับตาพริ้ม และแววตาที่อ่อนลงพร้อมๆ หัวใจ ก็ทำให้อังกูรดำดิ่งถึงเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนนั้น เขาเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ใกล้จะสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเต็มทน ใยไหมซึ่งเป็นลูกสาวของอาเข้มและอาแพรเพื่อนของพ่อแม่ หล่อนเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและเป็นเพื่อนสนิทของอรรัมภา ช่วงนั้นการทำปาล์มน้ำมัน มีขาดทุนบ้าง กำไรบ้างขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ และราคากลางที่รัฐบาลกำหนดให้ พ่อแม่ของเขากับพ่อแม่ของใยไหมรวมทั้งผู้ค้าปาล์มในพื้นที่จึงพบปะกันบ่อยครั้ง เพื่อปรึกษากันเรื่องการปลูกและเก็บเกี่ยวปาล์มแต่ละรอบ ซึ่งสถานที่ประชุมก็คือที่บ้านของเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม