ตอนที่ 8 หิมะจะทำให้เราทำงานง่ายขึ้น

1429 คำ
ค่ำคืนนั้นทั้งสองเพียงนอนข้างกันหลังจากคุยรายละเอียดส่วนอื่นๆ จบ เพราะหากหมิงฉวนฮ่องเต้ทรงเสด็จกลับทันทีคงเกิดเป็นคำครหาทำให้พระสนมเจาอี๋ต้องลำบาก จะอย่างไรก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่คิดสร้างความวุ่นวายจนต้องมาตามแก้ทีหลัง “…อือ” หญิงสาวส่งเสียงงัวเงียเมื่อรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว เปลือกตาบางกลอกกลิ้งไปมาก่อนค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ ภาพตรงหน้าช่างทำเอาหัวใจดวงน้อยแทบกระดอนออกจากอก กรอบหน้าคมล้อมรอบองค์ประกอบทุกอย่างไว้ เริ่มต้นด้วยคิ้วได้รูปเป็นทรงสวย ดวงตาสีเข้มที่ปิดสนิทอวดแพขนตา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักสีกลีบบัว ทุกอย่างราวกับได้รับการปั้นแต่งจากทวยเทพจนมิอาจเทียบกับบุรุษอื่น ยามเลื่อนสายตาลงมาจะเห็นหน้าอกสีเข้มเล็กน้อยรวมไปถึงมวลมัดกล้ามเนื้อช่วงล่างลงไปจากการหลุดรุ่ยของเสื้อคลุม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงรู้สึกหนักนัก ก็เพราะทั้งแขนและขาของเขาแทบจะรัดร่างบางไว้แน่นประหนึ่งมังกรกำลังกินเหยื่อก็มิปาน “ฝ่าบาท ทรงตื่นเถิดเพคะ” มือขาวผ่องเขย่ากายแกร่งเบาๆ หมายให้เขาปล่อยตนก่อนที่จะหายใจไม่ออก “อืม….ยังเช้าอยู่เลย” เสียงงึมงำว่าพลางขยับรัดเนื้อนวลหอมกรุ่มจนแทบจมลงไปในอก “ประเดี๋ยวก็ไปประชุมเช้าไม่ทันหรอกเพคะ!” ฝ่ามือน้อยตีลงบนกล้ามแน่นแล้วดันวงแขนกว้างให้คลายแรงรัดเสียที สวีหมิงฉวนค่อยๆ ลืมตา เขาพินิจมองโฉมสะคราญผู้มีใบหน้างามล้ำเกินใคร คงเพราะยังไม่ได้สติเต็มที่จึงก้มลงไปหอมแก้มเย้ายวนเกินอดใจไหวนั่น ครั้นพอรู้ตัวว่าตนทำอะไรก็รีบผุดลุกทันที “ข้า….จะรีบไปประชุมก่อน ส่วนเรื่องที่คุยกันไว้ข้าจะรอฟังผลก็แล้วกัน” ร่างสมส่วนก้าวลงจากเตียงแล้วเดินออกไปไม่หันกลับมามองอีกฝ่ายสักนิด ท่าทางราวกับหนีผีทำเอาบรรดาข้ารับใช้ด้านนอกงงงวยไม่น้อย “ฮ่าๆ อะไรเนี่ย เขาเป็นเด็กวัยแตกหนุ่มรึไรกัน ทำอย่างกับไม่เคยแตะต้องผู้หญิง” ถังหย่าจือหัวเราะออกมาอย่างขบขัน นางสังเกตเห็นปลายหูแดงระเรื่อของคนตัวโตชัดเต็มสองตา ซึ่งพระสนมเจาอี๋มิได้รู้เลยว่าฮ่องเต้ผู้แสนปราดเปรื่องมิเคยผ่านเรื่องคาวโลกีย์ใดจริงๆ อีกทั้งวันที่โดนวางยานั่นก็ไม่มีความทรงจำเหลืออยู่ด้วยซ้ำ “กราบทูลพระสนม ถังฮูหยินใกล้จะมาถึงแล้วเพคะ” ฉู่หงส่งเสียงรายงานก่อนยกอ่างน้ำวางไว้บนโต๊ะ “เข้าใจแล้ว” นางเป็นคนเรียกมารดาของร่างเดิมมาเพื่อดำเนินการตามแผนที่วางไว้ ในนิยายตระกูลถังยื่นมือเข้าช่วยองค์หญิงน้อยเพราะอย่างไรเสียก็นับว่าเป็นท่านตาและท่านยาย แม้ไร้ซึ่งอำนาจจนถูกกีดกันจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่ก็ตามที นับได้ว่าบ้านเดิมของถังหย่าจือไม่ย่ำแย่นัก บิดาเป็นเพียงผู้ตรวจเอกสารของกรมคลัง มารดาเป็นบุตรีจากฮูหยินรองของตระกูลขุนนางเล็กๆ นั่นทำให้ผู้นำตระกูลถังมีภรรยาเพียงคนเดียวด้วยไม่คิดขวนขวายในอำนาจ ซึ่งนางนับถือความซื่อสัตย์ของเขา แต่ก็ไม่ปลื้มใจนักกับบุรุษที่ไร้ความทะเยอทะยานจนทำให้ลูกสาวของตนตกอยู่ในความลำบาก หรือบางทีเขาอาจตัดสินใจไปแล้วว่าการไม่ฝักใฝ่อำนาจคือการปกป้องบุตรีจากคมหอกคมดาบโดยมิรู้เลยว่าสุดท้ายแล้วพระสนมเจาอี๋ต้องตายตกอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “ถังฮูหยินมาถึงแล้วเพคะ” ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยในที่สุดก็ถึงเวลานัดหมาย “เชิญเข้ามา” เสียงหวานออกคำสั่งก่อนรินน้ำชาลงถ้วยเตรียมต้อนรับแขกผู้มาเยือน “ถวายบังคมเพคะพระสนม” สตรีวัยกลางคนใบหน้าหมองคล้ำเล็กน้อยยอบกายลงตามมารยาท “ไม่จำเป็นต้องมากพิธีหรอกเจ้าค่ะ ท่านแม่” ร่างบางรีบลุกไปพยุงมารดาให้ลุกขึ้น เจ้าของร่างเดิมรักและเป็นห่วงคนในตระกูลถังมากนักเนื่องจากเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูที่ดี “ออกไป” หญิงสาวรำคาญหูตามากมายจนอยากกวาดล้างสายสืบพวกนี้ออกไปให้หมด แต่คงต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาแทนที่เสียก่อน “เพคะพระสนม” บรรดานางกำนัลรีบเดินออกไป “เจ้าเรียกแม่มาหาเช่นนี้ จะไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ” สองมือของถังฮูหยินเอื้อมจับบุตรสาวด้วยความกังวล “มิเป็นไรเจ้าค่ะ เพียงแต่ลูกมีเรื่องอยากให้ท่านแม่ช่วย” หากจะเสริมรากฐานให้ตระกูล ก็มีแต่ต้องพึ่งพาความรู้ในชีวิตก่อนของนางแล้ว “เจ้าอยากให้แม่ทำสิ่งใด” ความจริงแล้วทั้งนางและสามีต่างห่วงบุตรคนนี้มากที่สุด ถึงอย่างนั้นกลับไม่กล้าเคลื่อนไหวด้วยเกรงว่าจะไปสะดุดตาตระกูลใหญ่เข้า “โชคดีนักที่ยามนี้เป็นฤดูหนาว หิมะจะทำให้เราทำงานง่ายขึ้น” กระดาษแผ่นหนึ่งวางลงตรงหน้าของถังฮูหยิน “นี่คือ….” ดวงตาดอกท้อเบิกกว้างก่อนเงยหน้ามองลูกสาวอีกครั้ง การทำน้ำมันหอมระเหย ล้างดอกไม้ให้สะอาดต้องไม่มีสิ่งสกปรกตกค้างเด็ดขาด จากนั้นนำไปลงหม้อเหล็กที่มีฝา วางดอกไม้ลงไปในหม้อพร้อมกับถ้วยดินเผาใบเล็กตั้งไว้ตรงกลาง ใส่น้ำลงไปแค่พอท่วมดอกไม้ ปิดฝาหม้อโดยหงายขึ้นให้ตรงกลางมีหลุมสำหรับวางหิมะด้านบน ตั้งไฟแรงรอจนกว่าหิมะจะละลายหมดสองรอบ น้ำมันหอมระเหยจะอยู่ในถ้วยใบเล็กนั้น “ลูกได้รู้วิธีทำน้ำมันหอมระเหยอย่างง่ายมาจากสหายเจ้าค่ะ” ความจริงแล้ววิธีนี้จะต้องใช้น้ำแข็งวางบนฝาหม้อ แต่น้ำแข็งยุคนี้ราคาแพงมากเกินไป โชคดีนักที่ยังไม่พ้นฤดูหนาวจึงพอแก้ขัดได้ หากเร่งมือทำตุนสินค้าไว้แล้วทยอยขายย่อมได้กำไรมากมาย ระหว่างนั้นนางต้องคิดหาสินค้าอื่นไปด้วย “สหายเจ้าผู้นี้หวังสิ่งใดตอบแทนรึไม่” วิธีการผลิตของล้ำค่าเช่นนี้มักสืบทอดเป็นความลับในตระกูล ไฉนเลยจะมีคนมาให้โดยไม่หวังผล “ข้าทำข้อตกลงกับนางเรียบร้อยแล้ว ท่านแม่อย่าได้กังวล” หากบอกว่าไม่หวังสิ่งใดย่อมเป็นการทำให้สงสัยยิ่งกว่าเดิม “เข้าใจแล้ว ลูกของแม่เติบโตขึ้นมากจริงๆ” ในช่วงที่ห่างกันถังฮูหยินรับรู้ได้ว่าบรรยากาศรอบตัวอีกฝ่ายเปลี่ยนไปมาก “ท่านแม่ ช่วงแรกเริ่มนี้ให้พ่อบ้านใช้งานคนในจวนไปก่อน โดยทำสัญญาว่าจะไม่นำความลับไปเปิดเผย รึถ้าให้ดีแยกพวกนางออกเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มทำขั้นตอนต่างกัน แบบนั้นย่อมทำให้เก็บความลับได้ดีขึ้น อย่างไรเสียต้องลำบากพวกท่านแล้ว” อีกไม่นานจะสิ้นสุดเหมันต์ฤดูต้องเร่งมือ “จือเอ๋อร์ เจ้า….ระวังตนเองให้มาก ขอเพียงเป็นกำลังให้เจ้าได้ ตระกูลถังย่อมเลือกเดินเคียงข้างเจ้าแน่นอน” ดวงตาคู่สวยรื้นน้ำแทบรินไหล บุตรสาวจากบ้านมาไกลถึงวังหลังใจคนเป็นแม่แทบขาด ในวันนั้นหากไม่มีราชโองการลงมา มีหรือที่นางจะยอมให้เด็กสาวตัวน้อยก้าวเข้าสู่เส้นทางอันตราย “ขอบคุณพวกท่านมากนัก ข้าอยู่ทางนี้สบายดีเจ้าค่ะ เพียงแต่…ข้ามิอาจอยู่แบบเงียบๆ ได้อีกแล้ว” ข่าวการเข้าหอของฮ่องเต้และพระสนมเจาอี๋โด่งดังไปทั่วเมืองหลวง นางคือสตรีเพียงคนเดียวที่ฝ่าบาทยอมใช้ค่ำคืนอันแสนหวานไปด้วยกัน เรื่องนั้นถังฮูหยินก็เข้าใจดี “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็ลงมือเถิด” สองแม่ลูกมองหน้ากันทั้งน้ำตาแห่งความคิดถึง แม้ถังหย่าจือในยามนี้จะมิใช่คนเดิมแต่ความรู้สึกจากความทรงจำกลับมิได้ทำให้นางตะขิดตะขวงแต่อย่างใด หมากกระดานนี้ไม่ว่าเดินทางไหนตระกูลถังล้วนได้รับผลกระทบไปด้วย หากจะขึ้นตำแหน่งพระสนมขั้นเฟยบ้านเดิมจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ สุดท้ายทางเลือกของโฉมสะคราญจึงมีเพียงต้องเริ่มต้นจากศูนย์เท่านั้น ...............................................................................................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม